การขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบลบาเจาะ
จากที่มีหนี้ค้างชำระกองทุนสูงเป็นอันดับที่ 2 ของจังหวัด
แต่อาศัยการทำงานแบบครอบครัวสามารถแก้ไขปัญหา ได้รับรางวัลดีเด่น
ระดับจังหวัดนราธิวาส ประจำปี 2563 รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญเรื่องการพัฒนาอาชีพ
สร้างงาน สร้างรายได้และส่งเสริมศักยภาพสตรีในทุกมิติ
จึงได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีขึ้นมา นับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา
ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาศักยภาพ
ยกระดับคุณภาพชีวิตของสตรีมีการจัดสรรเงินให้ 2 ประเภท คือ เงินอุดหนุน
และเงินหมุนเวียน คิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 3 ต่อปี ต่อมาในปี 2559 ถ่ายโอนกองทุนฯ
ให้กรมการพัฒนาชุมชนเข้ามาดูแล
ในส่วนของจังหวัดนราธิวาส
ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานกองทุนฯ ครอบคลุมทั้ง 13 อำเภอ โดยนางยินดี บุญเตชพิทักษ์
พัฒนาการอำเภอบาเจาะ กล่าวว่า อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส
ได้ขับเคลื่อนกองทุนโดยเริ่มปล่อยให้เงินกู้ให้กับกลุ่มสตรีในปี 2556 จำนวน 49
โครงการ งบประมาณกว่า 9 ล้านบาท อยู่ในตำบลบาเจาะ จำนวน 32 โครงการ
นำเงินทุนไปประกอบอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า ค้าขาย แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เป็นต้น
แต่เกิดปัญหามีหนี้ค้างชำระสูง ว่าที่ร้อยตรี จิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอำเภอบาเจาะ
สะท้อนความคิดเห็นว่า อำเภอบาเจาะมีจุดเริ่มต้นที่ยากกว่าอำเภออื่น ๆ
เพราะมีหนี้ค้างชำระเป็นอันดับที่ 2 ของจังหวัด
ซึ่งแนวทางในการแก้ไขปัญหาต้องทำงานแบบครอบครัว เน้นการช่วยเหลือ
“...กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
ไม่ใช่แค่เม็ดเงินที่มาให้กลุ่มสตรี ต้องให้ความรู้
ให้ข้อมูลโดยคณะอนุกรรมการที่มีความรู้อย่างเรื่องปศุสัตว์ เกษตร ประมง
การทำงานเน้นการช่วยเหลือมากกว่าการบังคับชำระหนี้
ที่สำคัญคือการใช้กลไกคณะกรรมการหมู่บ้าน
บรรยากาศของสภาพแวดล้อมมีส่วนในการทำให้คนที่กู้ยืมไปแล้ว ต้องทำงานให้สำเร็จ
มาชำระเงินได้ เพื่อให้คนอื่นได้ใช้เงินกองทุนต่อไป...”การใช้แนวทางดังกล่าว
ส่งผลให้คณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบลบาเจาะ
ได้รับรางวัลตามโครงการเชิดชูเกียรติคนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีดีเด่นระดับจังหวัดนราธิวาส
ประจำปี 2563 นางวิลาวัลย์ ลามะทา
หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบล บาเจาะ กล่าวเสริมว่า
ปัจจัยของความสำเร็จเกิดจากการทำงานแบบครอบครัวพัฒนาชุมชน
เน้นการติดตามอย่างต่อเนื่อง ทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน ต่อยอดความสำเร็จ
ทำให้มีการชำระเงินคืน จากหนี้คงค้างเดิมกว่า 6 ล้านบาท คงเหลือประมาณ 3 ล้านบาท
ปัจจุบันในพื้นที่ตำบลบาเจาะ มีสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี 12,000 คน
อย่างไรก็ตาม
ในอนาคตเพื่อป้องกันปัญหาการมีหนี้ค้างชำระเกิดขึ้นอีก
ต้องมีระบบการกลั่นกรองในระดับตำบล ระดับอำเภอ ตลอดจนมีคณะกรรมการติดตามประเมินผล
โดยเชิญคนนอกที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ปราชญ์ชาวบ้าน
เข้ามามีส่วนร่วมที่สำคัญอำเภอบาเจาะมีศักยภาพในเรื่องการคมนาคมขนส่ง
จะร่วมกับภาคเอกชนอย่างบริษัท ปตท.
โดยนำสินค้าของกลุ่มสตรีไปจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันของบริษัท และใช้ทุนทางเศรษฐกิจ
มาพัฒนากลุ่มสตรีที่ใช้เงินจากกองทุนฯ ให้เกิดการพัฒนาที่เข้มแข็งต่อไปในอนาคต
--------------------------