วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ครอบครัวชาวยะลา“ปลูกผักพื้นบ้าน” ตามวิถีพอเพียง สร้างอาชีพ สร้างรายได้



        โครงการปลูกผักพื้นบ้าน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้สร้างอาชีพ และรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดยะลา มากว่า 5 ปี จนถึงปัจจุบัน ผักพื้นบ้านยังคงได้รับความนิยมจากประชาชนเป็นอย่างมาก สามารถสร้างรายได้หลักเลี้ยงครอบครัวให้วันละไม่ต่ำกว่า 1 พันบาท


ป้าสุดใจ หนูลาย หรือป้าเขียว ชาวบ้านจังหวัดยะลา บอกว่า ได้เข้าร่วมโครงการปลูกผักพื้นบ้านของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มากว่า 5 ปี ทำเป็นอาชีพหลักเลี้ยงครอบครัว จนถึงปัจจุบัน โดยจะใช้เนื้อที่บ้านของตนเองประมาณ 1 ไร่ ปลูกผักพื้นบ้าน ผักสวนครัว ปลอดสารพิษขาย โดยนำพันธุ์พืช ผักพระราชทาน รวมทั้งที่ซื้อมาปลูกผสมผสานกัน มีประมาณ 20 ชนิด ทั้งเพกาพันธุ์เตี้ย มะกอก มะเขือเปาะ มะเขือพวง พริก ลูกฉิ่ง เสาวรส กล้วย มะพร้าวน้ำหอม กะท้อน ต้นไผ่ ฯลฯ นอกจากนี้ ก็ยังได้ต่อยอดจากการปลูกผักพื้นบ้านมาปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ ผักสลัด เรดโอ๊ค กรีนโอ๊คมัลเบอร์รี่เพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งด้วย


ในแต่ละวันก็จะเก็บผลผลิตจากพืชผักต่าง ๆ ซึ่งขายได้ทุกชนิด หมุนเวียนนำไปขายที่ตลาดเมืองใหม่ และหลังสำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา ขายดีมาก ตลาดมีความต้องการสูง จนผักผลิตไม่พอส่งตลาด มีรายได้ทุกวัน ไม่ต่ำกว่า 1 พันบาท พออยู่พอกินเลี้ยงครอบครัวได้


ในปัจจุบันผักพื้นบ้านไม่เพียงแต่จะได้รับความนิยมจากผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ เท่านั้น กลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน ก็ยังชื่นชอบมาหาซื้อไปรับประทานมากขึ้น เนื่องจากผักพื้นบ้านจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคต่าง ๆ ทำให้กระแสความนิยมผักพื้นบ้านไม่ตก


ป้าเขียว ยังบอกอีกว่า สำหรับครอบครัวตนเองมีอยู่มีกินทุกวันนี้ ก็เพราะได้โครงการของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านมาก ชาวบ้านอย่างเรานอกจากจะได้มีอาชีพ มีรายได้ แล้ว ก็ยังได้มีส่วนช่วยอนุรักษ์ผักพื้นบ้านให้คงอยู่สืบต่อไปถึงรุ่นลูกหลาน อีกด้วย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น