โครงการปลูกผักพื้นบ้าน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้สร้างอาชีพ และรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดยะลา
มากว่า 5 ปี จนถึงปัจจุบัน ผักพื้นบ้านยังคงได้รับความนิยมจากประชาชนเป็นอย่างมาก
สามารถสร้างรายได้หลักเลี้ยงครอบครัวให้วันละไม่ต่ำกว่า 1
พันบาท
ป้าสุดใจ
หนูลาย หรือป้าเขียว ชาวบ้านจังหวัดยะลา บอกว่า
ได้เข้าร่วมโครงการปลูกผักพื้นบ้านของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
มากว่า 5 ปี ทำเป็นอาชีพหลักเลี้ยงครอบครัว จนถึงปัจจุบัน
โดยจะใช้เนื้อที่บ้านของตนเองประมาณ 1 ไร่ ปลูกผักพื้นบ้าน
ผักสวนครัว ปลอดสารพิษขาย โดยนำพันธุ์พืช ผักพระราชทาน
รวมทั้งที่ซื้อมาปลูกผสมผสานกัน มีประมาณ 20 ชนิด
ทั้งเพกาพันธุ์เตี้ย มะกอก มะเขือเปาะ มะเขือพวง พริก ลูกฉิ่ง เสาวรส กล้วย
มะพร้าวน้ำหอม กะท้อน ต้นไผ่ ฯลฯ นอกจากนี้
ก็ยังได้ต่อยอดจากการปลูกผักพื้นบ้านมาปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ ผักสลัด เรดโอ๊ค
กรีนโอ๊คมัลเบอร์รี่เพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งด้วย
ในแต่ละวันก็จะเก็บผลผลิตจากพืชผักต่าง
ๆ ซึ่งขายได้ทุกชนิด หมุนเวียนนำไปขายที่ตลาดเมืองใหม่
และหลังสำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา ขายดีมาก ตลาดมีความต้องการสูง
จนผักผลิตไม่พอส่งตลาด มีรายได้ทุกวัน ไม่ต่ำกว่า 1 พันบาท
พออยู่พอกินเลี้ยงครอบครัวได้
ในปัจจุบันผักพื้นบ้านไม่เพียงแต่จะได้รับความนิยมจากผู้ใหญ่
ผู้สูงอายุ เท่านั้น กลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน ก็ยังชื่นชอบมาหาซื้อไปรับประทานมากขึ้น
เนื่องจากผักพื้นบ้านจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคต่าง ๆ
ทำให้กระแสความนิยมผักพื้นบ้านไม่ตก
ป้าเขียว
ยังบอกอีกว่า สำหรับครอบครัวตนเองมีอยู่มีกินทุกวันนี้ ก็เพราะได้โครงการของ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านมาก
ชาวบ้านอย่างเรานอกจากจะได้มีอาชีพ มีรายได้ แล้ว
ก็ยังได้มีส่วนช่วยอนุรักษ์ผักพื้นบ้านให้คงอยู่สืบต่อไปถึงรุ่นลูกหลาน อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น