เด็กนักเรียนมุสลิมโดยเฉพาะใน 3 จังหวัดภาคใต้
เรียนเยอะมาก วันจันทร์-ศุกร์ เรียนสามัญ กลางคืน เรียนอัลกุรอ่าน ( กีรออาตีย์)
เสาร์-อาทิตย์ เรียนศาสนา ที่เรียกว่า "ตาดีกา" เรียนมากจนเด็กเครียด
เพราะผู้ใหญ่ต้องการยัดความรู้ในสมองเด็ก ซึ่งกำลังมีการเจริญเติบโตเรื่อยๆ
เด็กบางคนเหนื่อยมาก เพราะ เรียนวันละ ๑๘ ชม.
เด็กขนาดเล็กระดับประถม
ไม่ควรบังคับโดยยัดข้อมูลมากมาย เพราะขนาดสมองยังเล็ก รับข้อมูลจำนวนมากไม่่ได้
เเละควรคำนึงถึงความสามารถในรับข้อมูล ( Data Storability) เพราะเด็กเหล่านี้ยังไม่ถึงวัย
หรือเข้าสู่วัยกลางอายุขัย ไม่ควรยัดเยียดให้เด็กกลายเป็น เด็กอัจฉริยะ ภายใน 5
วันทำการ...
การเรียน การศึกษา ควรศึกษาไปเรื่อยๆ
ไม่ต้องรีบ เพราะ ตามทัศนะอิสลาม เราสามารถศึกษาจากในเปล จนถึง หลุมฝังศพ
หมายความว่า สามารถศึกษาตั้งเเต่เด็ก จนชรา จนตาย เพราะ การศึกษา หาความรู้ ต้องมีความต่อเนื่อง
(Continuality) เเละความต่อเนื่องกันไป (Continuation) รวมทั้งการกระทำที่เป็นประจำ
( Regularity )
เด็กสมัยนี้ บางคนหมดความร่าเริง เพราะวันๆ
เครียดเเต่เรื่องเรียน ครูก็ให้ทำการบ้านมากมาย หลายหน้า หลายวิชาต่อวัน บางครั้ง
ดุเเล้ว ก็น่าสงสารเด็กเหล่านี้ เด็กมุสลิมที่เรียนควบคู่ทั้งสามัญเเละศาสนา
เรียนวันละ 10 วิชา หากเทียบกับเด็กอื่นที่เรียนเเต่สามัญ
ไม่สามารถเปรียบเทียบได้..เพราะหนักกว่ามากโดยไม่ต้องอธิบายเพิ่ม
นี่คือ ตัวอย่างวิชาที่ได้ เรียน
เเละมักมีวิชาเพิ่ม เช่น วิชาคอมพิวเตอร์ เเละชุมนุม เเละ อื่น
เเต่ละโรงเรียนจะไม่เหมือนกัน
ในตอนเช้า เรียน 5 วิชา มีดังนี้
1. วิชาฟิกฮ์ ( นิติศาสตร์อิสลาม)
2. อัคลาค ( จริยธรรม)
3. เตาฮีด ( หลักศัทธา)
4. ฮะดิษ ( วจนศาสนดา) เเละ
5. มุฮาดะซะห์ ( สนทนาอาหรับ)
ในตอนบ่าย เรียน 5 วิชา มีดังนี้
1. คณิตศาสตร์
2. ชีววิทยา
3. ฟิสิกส์
4. สังคม
5. เคมี
ผู้ปกครองมุสลิม
ต้องการให้ลูกมีความรู้ทางศาสนาเเละสามัญ
ควบคู่เพราะไม่ต้องการให้เรียนที่โรงเรียนที่มีเเต่สามัญอย่างเดียว
เพราะจะทำให้เด็กขาดความรู้ศาสนา เพื่อนำตัวเองรอดไปในโลกหน้า
เเละสามารถใช้ความรู้ปฏิบัติศาสนกิจได้ถูกต้อง
เเละสามารถเผยเเผ่ความรู้ที่มีให้คนอื่นได้ด้วย
เด็กเหล่านี้เรียนหนักมาก เพราะ
ต้องสอบวิชาทั้งสองประเภท บางคน หลังเลิกเรียน ยังเรียนเสริม
เรียนพิเศษ เพื่อต้องการเเข่งกับนักเรียนที่เรียนสามัญอย่างเดียว ซึ่ง
หากสามารถมีความลํ้าหน้า เเละถือว่า อัจฉริยะมาก เพราะ
บริบทการเรียนที่เเตกต่างกันมาก เเละหนักกว่า ก็ยังสามารถสอบเข้ามหาลัยดังๆ เช่น จุฬา ธรรมศาสตร์ เเละ
อื่นๆ อีกมากมาย
ผู้ใหญ่ควรให้กำลังใจแก่เด็กนักเรียนมุสลิมเหล่านี้
เเละมีการมอบทุนการศึกษาเพิ่ม เพราะ การที่เด็กได้ยอมเรียนหนักนั้น
หมายถึงการมีความมุ่งมั่นในการเรียน เเละพยายามไม่ทิ้งความรู้ศาสนา
ถึงเเม้บางคนเรียนศาสนาเป็นเพียงเเค่ทางผ่าน เพื่อเข้าเรียนต่อในมหาลัยระดับสามัญ
เด็กคนอื่นๆ หลายคนที่เรียนสามัญอย่างเดียว
เรียนที่โรงเรียนของรัฐยังปลื้มกับเด็กเหล่านี้ ว่า เรียนไปได้ไง 10 วิชา ต่อวัน
ทั้งศาสนา เเละ สามัญ ดังนั้น ดังนั้น ผู้ใหญ่ควรให้ความสำคัญกับเด็กเหล่านี้
เเละช่วนสร้างเเรงจูงใจให้เด็กมีกำลังใจมากขึ้นในการหาความรู้ ระบบราง เพราะ
เด็กเหล่านี้ มีความเชี่ยวชาญทั้งภาษาไทย ภาษามาเลย์ อังกฤษ อาหรับ
เเละบางคนก็ได้ภาษาจีน เด็กเหล่านี้เป็นความหวังของอนาคตในการพัฒนาประเทศ
เเละช่วยเผยเเผ่ความรู้ทั้งด้านสามัญ เเละศาสนา เเละหากมีการรับสมัครงาน
ควรพิจารณาเด็กเหล่านี้ด้วย เเละควรคิดว่า
ประเทศยังมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่าอีกมากมายที่สามารถใช้ความรู้ไปพัฒนาประเทศต่อไป
ที่มา: Matty Ibnufatim Hamady
เครดิตภาพ: Studio Ama
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น