วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2559

นราธิวาส-พื้นที่ปลอดภัยอยู่ไหน?เสียงจากครอบครัว'เว๊าะบ๊ะ'


กระเป๋านักเรียนเปื้อนเลือดที่เป็นของ ด.ญ.มิตรา เว๊าะบ๊ะ ในวัย 5 ขวบ หล่นอยู่ข้างรั้วโรงเรียนบ้านตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ณ ทำเลพื้นที่ซึ่งถูกสงวนไว้ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กนักเรียน วันนี้กลับเป็นพื้นที่ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

บึ้ม!!! เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเกิดขึ้นด้านหน้าโรงเรียน ขณะที่นักเรียนกว่า 540 ชีวิต ยืนเข้าแถวอยู่หน้าเสาธง หลังจากเคารพธงชาติผ่านไปได้ไม่ถึง 10 นาที พลังสิ้นเสียงดังระคายหูเด็กนักเรียนกรีดร้องเสียงหลงแข่งกับเสียงผู้คนและสัญญาณจากรถฉุกเฉินที่ช่วยเหลือคนเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถจักรยานยนต์ หรือจักรยานยนต์บอมบ์ 
ขณะที่เหล่าคุณครูและบุคลากรทางการศึกษาประมาณ 50 คน ที่อยู่ร่วมชะตากรรมกับเด็กๆ ต้องสวมบทบาทครูจอมเฮี้ยบ เพื่อตะเบ็งเสียงจัดการกับเหล่าเด็กที่อยู่ในอาการตื่นกลัวและตกใจสุดขีด ก่อนตัดสินใจนำเด็กๆทั้งหมดกลับเข้าห้องอย่างเร่งด่วน

เมื่อควันระเบิดจางทุกอย่างจึงชัดเจน เมื่อจุดเกิดเหตุพบกระเป๋านักเรียนสีเหลือง ระบุชื่อ ด.ญ.มิตรา เว๊าะบ๊ะหล่นอยู่ ขณะที่ผู้เป็นพ่อ มะเย็ง เว๊าะบ๊ะขี่รถจักรยานยนต์มาส่งหน้าโรงเรียน ก็ตกเป็นผู้เคราะห์ร้าย ถูกแรงอัดระเบิดเข้าอย่างจัง ทำให้เสียชีวิตทันทีทั้งสองคน นอกจากนี้ยังมีผู้โชคร้ายคือ ตัสมีซี มะดาโอะอายุ 22 ปี พ่อค้าขายขนมโตเกียวหน้าโรงเรียน ต้องมาสังเวยชีวิตเพิ่มอีกราย รวมเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้บริสุทธิ์ถึง 3 ราย

เหตุร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ปลอดภัยหน้าโรงเรียน ไม่เพียงแค่ทำให้ครอบครัว เว๊าะบ๊ะสูญเสียสมาชิกครอบครัวไปพร้อมกันถึง 2 คนเท่านั้น แต่ชีวิตต่อไปจากนี้ของลูกชายคนโตที่ต้องสูญเสียพ่อและน้องสาวไปในคราวเดียวกันจะอยู่อย่างไร?

ด.ช.พงศภัค เว๊าะบ๊ะหรือ น้องอาซันวัย 6 ขวบ นั่งเล่นอยู่กับเพื่อนๆ ภายในบ้านเลขที่ 23/1 บ้านตาบา ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ ท่ามกลางเหล่าผู้ใหญ่มากหน้าหลายตาที่เข้ามาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสียเบื้องต้น

ด้วยความไร้เดียงสาของเด็กน้อยเวลานี้ แม้จะรับรู้ว่าน้องสาวและพ่อได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ในบางช่วงเวลาก็ยังเอ่ยและถามถึงน้องสาวและพ่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความไร้เดียงสานี้ ทำให้ผู้พบเห็นสลดใจและเสียใจต่อสิ่งที่เด็กน้อยต้องเผชิญ

โตขึ้นใครอยากเป็นทหาร ยกมือขึ้น?... สิ้นคำถาม น้องอาซันรีบยกมือขึ้น แสดงตัวชัดเจนอยากเป็นทหารและตำรวจ พฤติกรรมของหนูน้อยสร้างรอยยิ้มปนคราบน้ำตาให้แก่สมาชิกครอบครัวและผู้มาเยือน


 โดยเฉพาะ แมะละ เว๊าะบ๊ะป้าแท้ๆ ของอาซัน ที่ต้องรับหน้าที่เป็นแม่บุญธรรมเพื่อให้เด็กน้อยได้รู้สึกว่ายังมีครอบครัวอยู่เหมือนเดิม ต้องตกอยู่ในสภาพร่างกายและจิตใจบอบช้ำอย่างหนัก ตาที่แดงก่ำบ่งบอกว่าน้ำตาไม่เคยเหือดแห้งตลอด 24 ชั่วโมง ที่ต้องพบกับความสูญเสีย

พี่สาวมะเย็ง เล่าเรื่องราวชีวิตของครอบครัวด้วยภาษายาวี หรือภาษามลายู ให้ฟังแบบช้าๆ ว่า ครอบครัวเราอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่รวม 6 คน มีพี่ชาย พี่สาว พี่เขยของมะเย็ง รวมถึงน้องมิตราและน้องอาซัน ลูกสาวและลูกชายของมะเย็ง ที่ผ่านมามะเย็งเป็นเหมือนเสาหลักที่หาเลี้ยงครอบครัว ก่อนหน้านี้มะเย็งเพิ่งกลับจากไปทำงานเป็นยามที่กรุงเทพฯ และกลับมาอยู่บ้านได้ไม่ถึงปี เมื่อกลับมาก็ทำงานรับจ้างแบกข้าวสารมีรายได้วันละประมาณ 200 บาท 

แม้เงินจำนวนไม่มาก แต่สามารถเลี้ยงสมาชิกครอบครัวได้ไม่อดอยาก เมื่อสมาชิกครอบครัวขาดหายไป ทำให้ชีวิตของคนที่เหลืออยู่ต้องประคับประคองกันเพื่อก้าวข้ามความเจ็บปวดไปให้ได้ โดยเฉพาะการทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ให้แก่หลานชายที่ช่วยเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ

เช่นเดียวกับ ไซตง เว๊าะบ๊ะป้าอีกคนของ น้องอาซันที่แม้ไม่ได้อยู่ร่วมชายคาเดียวกัน แต่ก็ไปมาหาสู่กันทุกวัน ต้องทำหน้าที่เป็นเสาหลักในการประสานงานติดต่อและจัดการธุระต่างๆ ที่ประเดประดังเข้ามาในช่วงนี้ แม้จะเสียใจอย่างหนักต่อการสูญเสียน้องชายและหลานสาวไปอย่างกะทันหัน

ไม่เคยคาดคิดว่า พื้นที่ปลอดภัยหน้าโรงเรียนจะกลายเป็นพื้นที่ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กนักเรียนไปได้ เด็กคนหนึ่งไม่รู้เรื่องราวความขัดแย้งแต่ต้องได้รับผลกระทบ แม้กระทั่งน้องชายที่เป็นคนดี เลี้ยงดูลูกสองคน ไม่เคยเกี่ยงงาน ไม่บ่นแม้เจองานหนัก กระทั่งวินาทีที่จากไปยังทำหน้าที่พ่อไปส่งลูกชายคนโตเข้าเรียนอย่างปลอดภัยที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองตากใบ จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนบ้านตาบา ก่อนที่มีนัดไปแบกข้าวสารหาเลี้ยงชีพที่ร้านค้าข้าวสารใกล้บ้านไซตงปล่อยโฮเมื่อรับรู้ดีว่าภารกิจของน้องชายไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีก

สิ่งสุดท้ายที่ "ครอบครัวเว๊าะบ๊ะเรียกร้องในฐานะผู้สูญเสียวันนี้ ไม่ใช่แค่การร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเยียวยาเท่านั้น 

แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ ขอพื้นที่ปลอดภัยที่แท้จริงให้หลานชายตัวน้อยคนนี้ ได้มีพื้นที่การใช้ชีวิตในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างปลอดภัย!

อย่าทำร้ายเด็ก-ผู้บริสุทธิ์

สราวุธ ยอดรักษ์ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตาบา ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้ เพราะเป็นเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ แต่ต้องมาเสียชีวิตด้วยเหตุที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น

วิงวอนไปยังผู้ที่กระทำด้วยว่า อย่ากระทำต่อผู้บริสุทธิ์และไม่เกี่ยวข้อง อยากจะสื่อไปถึงกลุ่มผู้ไม่หวังดีหรือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบว่า อย่ากระทำกับผู้บริสุทธิ์เลย ครู เพื่อนนักเรียน ผู้ปกครอง ทุกคนเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โรงเรียนไม่เคยประสบเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน



สราวุธเล่าถึงเหตุการณ์ว่า เป็นช่วงเวลาที่นักเรียนกำลังเข้าแถว และกำลังรอเดินเข้าห้อง ส่วน ด.ญ.มิตรา เว๊าะบ๊ะ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1 เดินทางมาพร้อมกับพ่อคือ มะเย็ง เว๊าะบ๊ะ ได้แวะซื้อของที่ร้านตรงจุดที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ตรงข้ามประตูทางเข้าโรงเรียน หลังเกิดเหตุโรงเรียนยังเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ ขวัญและกำลังใจของครูยังดีอยู่ โดยประชุมกันว่าทุกคนยังพร้อมจะทำหน้าที่ต่อไป ส่วนผู้ปกครองก็มีบ้างที่หวั่นไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับมาตรการในพื้นที่ของโรงเรียนยังคงปฏิบัติตามแผนของโรงเรียน

ขณะที่ อุษณีย์ ประสิทธิชัยวุฒิ ครูประจำชั้นอนุบาล 1/2 กล่าวถึงน้องมิตราว่า เพิ่งเข้ามาเรียนได้ประมาณ 2 เดือน ย้ายมาจากกรุงเทพฯ เป็นคนพูดภาษาไทย พูดภาษากลาง เป็นคนน่ารัก เป็นคนช่างพูด สนุกสนาน ร่าเริง เป็นที่รักของพ่อ ซึ่งจะมาส่งและมารับทุกวัน

หลังมีเสียงระเบิดได้พาเด็กนักเรียนที่ยืนเข้าแถววิ่งเข้าไปอยู่ใต้อาคาร หลังจากนั้นก็มีคนมาบอกว่ามีเด็กอนุบาลของโรงเรียนถูกระเบิดและนำตัวส่งโรงพยาบาล ก็เลยตามไปดูที่โรงพยาบาล ไปถึงเห็นหน้าก็เลยรู้ว่าเป็นน้องมิตรา ตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าจะเป็นน้อง

เด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1/2 มีจำนวนทั้งสิ้น 20 คน น้องมิตราเป็นน้องใหม่ในห้อง โรงเรียนเราไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาได้ครูประจำชั้นอนุบาล 1/2 กล่าว

อุษณีย์ฝากคำพูดไปถึงผู้กระทำความรุนแรงว่า คุณที่ทำ คุณต้องการอะไร เราไม่รู้ แต่ไม่ควรจะมาใช้ความรุนแรงกับเด็กและใกล้กับโรงเรียน ซึ่งเป้าหมายของคนทำจะเป็นตำรวจหรือทหาร แต่ก็ไม่ควรให้ผู้บริสุทธิ์ต้องมาเสียชีวิตกับการกระทำของคุณ จะทำไปเพื่ออะไร แล้วได้อะไร

--------------

ที่มา...คมชัดลึกออนไลน์


นราธิวาส-พื้นที่ปลอดภัยอยู่ไหน?เสียงเพรียกจากครอบครัว'เว๊าะบ๊ะ' :  สุพิชฌาย์ รัตนะ/ : สมชาย สามารถรายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น