วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

“ไม่พูดคุยก็ไม่มีสันติภาพ” VS “การพูดคุยไม่ใช่คำตอบทั้งปวง”


พล.อ.อักษรา เกิดผล - มูฮำหมัดซุกรี ฮารี

พล.อ.อักษรา เผย นายกมาเลย์-ไทยต้องการให้หยุดความรุนแรงก่อน ชี้การพูดคุยไม่ใช่คำตอบทั้งปวงของการลดเหตุรุนแรง แต่เป็นความรับผิดชอบของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เปิดคำแถลงของมูฮำหมัดซุกรี ฮารี ยืนยันไม่มีการพูดคุย ไม่มีสันติภาพยกผลประชามติคือจุดยืนของประชาชนปาตานี

พล.อ.อักษรา เกิดผล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ออกหนังสือชี้แจงสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2559 ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย และพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยได้พบปะหารือกันอีกครั้ง เมื่อวันที่ 9กันยายน 2559 ว่า ทั้งสองได้ยืนยันในความร่วมมือเพื่อสนับสนุนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ในปี 2560 ต่อไป


 “โดยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์อยากให้ทุกฝ่ายแสดงความจริงใจ และต้องการหยุดความรุนแรงให้ได้ก่อน เพราะทุกครั้งที่มีการพูดคุยฯก่อนและหลังจะต้องมีเหตุการณ์ความรุนแรงที่ฝ่ายไทยเรายอมรับไม่ได้ เพราะมักมีการสูญเสียที่เกิดกับพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์อยู่เสมอ

พล.อ.อักษรา ชี้แจงต่อไปว่า ดังนั้น รัฐบาลทั้งสองประเทศจึงพร้อมที่จะสานต่อกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข อันเป็นแนวทางสันติวิธีต่อไป เพราะรัฐบาลไทยไม่ได้มองว่าผู้เห็นต่างฯเป็นผู้ก่อการร้าย แต่มองเป็นผู้กระทำความผิด ซึ่งมีมาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องรองรับอยู่แล้ว เช่น มาตรา 21 ของ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 และโครงการพาคนกลับบ้านของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นต้น

ชี้การพูดคุยไม่ใช่คำตอบทั้งปวงของการลดเหตุรุนแรง

พล.อ.อักษรา ชี้แจงอีกว่า ทั้งนี้การพูดคุยเพื่อสันติสุขนั้นไม่ใช่คำตอบทั้งปวงของการลดเหตุความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เป็นความรับผิดชอบของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และทุกส่วนราชการในพื้นที่ต่างหาก ที่ต้องกำหนดให้มีมาตรการระวังป้องกันทั้งเชิงรุกเชิงรับ รวมทั้งการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ และทุกศาสนา ที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันและสามารถลดเหตุความรุนแรงในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง
พล.อ.อักษรา ชี้แจงด้วยว่า สำหรับการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ เป็นเพียงแนวทางสันติวิธี ที่เป็นความพยายามในการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งร่วมกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐทุกกลุ่ม/ทุกพวก/ทุกฝ่ายเพื่อสร้างความไว้วางใจจนเกิดความร่วมมือในการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยอาจเริ่มต้นให้เกิดความปลอดภัยขึ้นในพื้นที่ใดก่อนก็ได้ และให้ภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดความต้องการด้านความปลอดภัยในพื้นที่ดังกล่าว และขยายผลความปลอดภัยไปยังพื้นที่อื่นๆ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

คำแถลงของมูฮำหมัดซุกรี ฮารี ยืนยันไม่มีการพูดคุย ไม่มีสันติภาพ

ขณะที่ในคำแถลงของนายมูฮำหมัดซุกรี ฮารี หัวหน้าคณะพูดคุยฝ่ายมาราปาตานี (หัวหน้าคณะเจรจาสภาซูรอปาตานี) ที่มีต่อการพูดคุยกับคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ เมือวันที่ 2 กันยายน 2559 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ที่มีพล.อ.อักษรา และดาโต๊ะซัมซามิน ฮาชิม ผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยฝ่ายมาเลเซียรวมอยู่ด้วย โดยสมาชิกมาราปาตานีถูกนำคำแถลงที่เป็นภาษามลายูมาเปิดเผย
โดยคำแถลงระบุเนื้อหาบางส่วนว่า เรามีความเชื่อและมีความมั่นใจว่าแท้จริงเรายึดมั่นในแนวทางที่ว่า ทุกความขัดแย้งที่เกิดขึ้นบนหน้าแผ่นดินนี้ สามารถแก้ไขโดยการพูดคุย หากไม่มีการพูดคุยแล้ว ความขัดแย้งทุกอย่างย่อมยากที่จะแก้ไขหรือดังคำกล่าวที่ว่า ไม่มีการพูดคุย ไม่มีสันติภาพไม่ใช่ ไม่มีสันติภาพ ไม่มีการพูดคุย”(No talk, No peace, Bukan, No peace, No talk)

ยกผลประชามติคือจุดยืนของประชาชนปาตานี

มูฮำหมัดซุกรี แถลงอีกว่า ท่านทั้งหลาย ควรตระหนักว่าความขัดแย้งที่ปาตานีที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานมาแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ไขด้วยการใช้เวลาเพียงวันสองวัน แต่ด้วยความพยายามอย่างเข้มแข็งและจริงจังของทั้งสองฝ่าย และด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่มีความสำคัญที่ดำเนินการโดยตรงและไม่ใช่โดยตรง ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ครอบคลุม เป็นธรรมและยั่งยืนจะประสบผลในท้ายที่สุด เพราะทุกการเริ่มต้น จะต้องมีจุดสิ้นสุด...  สอง + สอง = สี่ ไม่ใช่ สอง + สอง = ห้า

มูฮำหมัดซุกรี แถลงด้วยว่า กระผมอยากให้ทุกท่านให้ความสนใจเกี่ยวกับสาเหตุที่ประชาชนปาตานีลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลไทยได้จัดให้มีการลงประชามติเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2016 เมื่อเร็วๆ นี้ สาเหตุเพราะเกิดสิ่งที่ไม่ถูกต้องในกระบวนการนั้น ดังนั้น นี่คือจุดยืนของประชาชนปาตานี และเราเป็นตัวแทนของพวกเขาเหล่านั้นอย่างแท้จริง พวกเขาจะปฏิเสธหากว่าพวกเขาพบเห็นหรือรู้สึกว่ามีสิ่งที่ไม่ถูกต้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิต่างๆ ของพวกเขา

มูฮำหมัดซุกรี ปิดท้ายคำแถลงด้วยคำว่า บรรลุความสำเร็จ  บรรลุความสำเร็จ และจะบรรลุความสำเร็จ พระผู้เป็นเจ้าจะอยู่กับเรา และพระเจ้าจะทำลายล้างความเป็นธรรมที่ปาตานี อามีน” (Berjaya, berjaya, tetap berjaya. Allah bersama kita dan Allah akan menghancurkan kezaliman di Patani, Aamin.) อุสตาซ มูฮำหมัดซุกรี ฮารี หัวหน้าคณะเจรจาสภาซูรอปาตานี (มาราปาตานี) กัวลาลัมเปอร์ 2/9/2016


ที่มา:โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ | ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น