เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ หมู่ที่
1 ตำบลปุโรง อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา เร่งเก็บผลผลิตทุเรียนพันธุ์หมอนทองจำนวนมาก
ที่กำลังทยอยสุกในแปลงใหญ่ทุเรียน เนื้อที่ 2 ไร่ ส่งขาย
ซึ่งที่ผ่านมาได้มีพ่อค้าเดินทางเข้ามารับซื้อถึงสวนไปบ้างแล้ว ในราคากิโลกรัมละ
55 บาท มีรายได้ไปกว่า 4 หมื่นบาท ส่วนผลผลิตที่ตัดขาย นั้น
ก็จะเลือกตัดตามที่ลูกค้าต้องการ ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 85-90 เปอร์เซ็นต์
และจะเลือกเก็บลูกที่ยอด และปลายของกิ่งก่อน ซึ่งทุเรียนจะแก่กว่า
นางวีระ สมศิริ เกษตรอำเภอกรงปินัง
กล่าวว่า สำหรับแปลงใหญ่ทุเรียนในพื้นที่อำเภอกรงปินัง จะมีอยู่ 2 แปลง คือ ที่
หมู่ที่ 6 ตำบลกรงปินัง ซึ่งเป็นแปลงใหญ่ ปี 2559 มีสมาชิก 99 ราย พื้นที่ปลูก 316
ไร่ ซึ่งผลผลิตของสมาชิกแปลงใหญ่ตรงนี้ อย่างต่ำก็จะได้ 3 พันตัน ส่วนแปลงที่ 2
ก็จะเป็นแปลงใหญ่ที่ตำบลสะเอะ เริ่มต้นเมื่อปี 2560 มีสมาชิก 42 ราย พื้นที่ 124
ไร่ จะให้ผลผลิต 1 พันตัน คาดว่าแปลงใหญ่ ทั้ง 2 แปลงนี้จะเก็บเกี่ยวผลผลิต
ซึ่งมีจำนวนมากได้ในต้นเดือนสิงหาคมนี้
ครั้งนี้ก็เป็นการเริ่มต้นเก็บเกี่ยวทุเรียนแปลงใหญ่แปลงแรก
ซึ่งแปลงนี้จะให้ผลผลิตก่อน ออกดอกก่อน บานก่อน 2 สัปดาห์
ส่วนผลผลิตทุเรียนแปลงนี้ ผลผลิตมีคุณภาพ แก่จัด เกษตรกรตัดแต่งกิ่ง
และมีการเว้นระยะอย่างสวยงาม
ซึ่งปีนี้ทางเกษตรอำเภอกรงปินัง
ก็ได้ชักชวนเกษตรกรต้นแบบแปลงใหญ่ ให้มาลองทำตลาดทุเรียนเองเป็นปีแรก โดยนำ 10
เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือจากการขายเหมาให้พ่อค้ารับซื้อทุเรียนในรูปแบบเดิมมาขาย
เพื่อให้เห็นความแตกต่างของรายได้ที่จะเกิดขึ้นจากการขายปลีกเอง
กับการขายส่งพ่อค้า ซึ่งจะมีรายได้ที่แตกต่างกัน
จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ถ้าทำตลาดเองด้วย ซึ่งขณะนี้ราคาในสวนอยู่ที่
กิโลกรัมละ 55 บาท ถ้าเกษตรกรนำไปขายเองก็จะได้ราคาที่สูงขึ้น
โดยทางเกษตรอำเภอกรงปินัง จะใช้แทร็กของสำนักงานเกษตร อำเภอกรงปินัง
และแปลงใหญ่ทุเรียน กรงปินัง เพื่อขายผ่านทางระบบออนไลน์ รับสั่งจองทุเรียนหมอนทอง
นอกจากนี้ ก็จะขายตรงให้กับผู้บริโภคในตัวเมืองยะลา ด้วย
โดยจะนำเจ้าของแปลงไปออกร้านขายที่ตลาดเกษตรจังหวัดยะลา
ด้าน นายสุชิน ห้องสุวรรณ
ประธานกลุ่มทุเรียนแปลงใหญ่ อำเภอกรงปินัง กล่าวว่า
ปีนี้ทุเรียนให้ผลผลิตดีกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากสภาพดินฟ้าอากาศ ทุเรียนติดลูกมาก
มีต้นมีลูกทุกต้น และผลผลิตมีคุณภาพ แม้จะกระทบฯ มีลูกร่วงไปบางส่วน
คาดว่ารายได้ทั้งหมดของแปลงใหญ่แปลงนี้ซึ่งมีเนื้อที่ 316 ไร่
จะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 50-60 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ประมาณ 11 ล้านบาท
จากเดิมปีที่แล้วทุเรียนให้ผลผลิตน้อย ได้เพียง 40 เปอร์เซ็นต์ของปีนี้ ทั้งนี้
เกิดจากการรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ของเกษตรกร
และมีการรณรงค์ให้ความรู้ ด้านการให้ปุ๋ย ให้น้ำ
อย่างถูกวิธีตามหลักการใหม่ ๆ ทำให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้น มีคุณภาพดี ทั้ง น้ำหนัก
รูปทรง จัดว่าอยู่ในเกรด A และ B ขณะเดียวกัน ก็ช่วยลดในส่วนของต้นทุนได้มาก
เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเหมือนเป็นการกระตุ้นให้เกษตรกร รักต้นทุเรียน
และให้ความสำคัญจริง ๆ
ดูแลบำรุงรักษาตั้งแต่ต้นฤดูเป็นต้นมาจนถึงระยะเก็บเกี่ยวผลผลิต
ขณะที่ นายมามุ สาเลง เจ้าของสวน
สมาชิกแปลงใหญ่ทุเรียน บอกว่า ตนเองมีสวนทุเรียนอยู่ 2 ไร่
โดยจะปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองเป็นหลัก ปีนี้ทุเรียนมีผลผลิตจำนวนมาก
ช่วงนี้ที่ให้ผลผลิต ตัดขายไปบ้างแล้ว มีทั้งชะนี พวงมณี และหมอนทอง
ซึ่งทางเกษตรอำเภอกรงปินัง ได้เข้ามาแนะนำให้ทดลองตลาดใหม่ เปิดตลาดดูเองบ้าง
หลังที่ผ่านมาในทุกปีก็จะมีพ่อค้ามารับซื้อที่สวนเอง
ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสให้มีรายได้มากขึ้น ส่วนปีนี้ราคาทุเรียนก็น่าจะดีกว่าปีที่แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น