วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

เกษตรชาวยะลา นำร่องเปิดตลาดขายออนไลน์ “ทุเรียนหมอนทอง” เพิ่มทางเลือกใหม่ ให้มีรายได้เพิ่ม



      เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลปุโรง อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา เร่งเก็บผลผลิตทุเรียนพันธุ์หมอนทองจำนวนมาก ที่กำลังทยอยสุกในแปลงใหญ่ทุเรียน เนื้อที่ 2 ไร่ ส่งขาย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีพ่อค้าเดินทางเข้ามารับซื้อถึงสวนไปบ้างแล้ว ในราคากิโลกรัมละ 55 บาท มีรายได้ไปกว่า 4 หมื่นบาท ส่วนผลผลิตที่ตัดขาย นั้น ก็จะเลือกตัดตามที่ลูกค้าต้องการ ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 85-90 เปอร์เซ็นต์ และจะเลือกเก็บลูกที่ยอด และปลายของกิ่งก่อน ซึ่งทุเรียนจะแก่กว่า


นางวีระ สมศิริ เกษตรอำเภอกรงปินัง กล่าวว่า สำหรับแปลงใหญ่ทุเรียนในพื้นที่อำเภอกรงปินัง จะมีอยู่ 2 แปลง คือ ที่ หมู่ที่ 6 ตำบลกรงปินัง ซึ่งเป็นแปลงใหญ่ ปี 2559 มีสมาชิก 99 ราย พื้นที่ปลูก 316 ไร่ ซึ่งผลผลิตของสมาชิกแปลงใหญ่ตรงนี้ อย่างต่ำก็จะได้ 3 พันตัน ส่วนแปลงที่ 2 ก็จะเป็นแปลงใหญ่ที่ตำบลสะเอะ เริ่มต้นเมื่อปี 2560 มีสมาชิก 42 ราย พื้นที่ 124 ไร่ จะให้ผลผลิต 1 พันตัน คาดว่าแปลงใหญ่ ทั้ง 2 แปลงนี้จะเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งมีจำนวนมากได้ในต้นเดือนสิงหาคมนี้ ครั้งนี้ก็เป็นการเริ่มต้นเก็บเกี่ยวทุเรียนแปลงใหญ่แปลงแรก ซึ่งแปลงนี้จะให้ผลผลิตก่อน ออกดอกก่อน บานก่อน 2 สัปดาห์ ส่วนผลผลิตทุเรียนแปลงนี้ ผลผลิตมีคุณภาพ แก่จัด เกษตรกรตัดแต่งกิ่ง และมีการเว้นระยะอย่างสวยงาม


ซึ่งปีนี้ทางเกษตรอำเภอกรงปินัง ก็ได้ชักชวนเกษตรกรต้นแบบแปลงใหญ่ ให้มาลองทำตลาดทุเรียนเองเป็นปีแรก โดยนำ 10 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือจากการขายเหมาให้พ่อค้ารับซื้อทุเรียนในรูปแบบเดิมมาขาย เพื่อให้เห็นความแตกต่างของรายได้ที่จะเกิดขึ้นจากการขายปลีกเอง กับการขายส่งพ่อค้า ซึ่งจะมีรายได้ที่แตกต่างกัน จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ถ้าทำตลาดเองด้วย ซึ่งขณะนี้ราคาในสวนอยู่ที่ กิโลกรัมละ 55 บาท ถ้าเกษตรกรนำไปขายเองก็จะได้ราคาที่สูงขึ้น โดยทางเกษตรอำเภอกรงปินัง จะใช้แทร็กของสำนักงานเกษตร อำเภอกรงปินัง และแปลงใหญ่ทุเรียน กรงปินัง เพื่อขายผ่านทางระบบออนไลน์ รับสั่งจองทุเรียนหมอนทอง นอกจากนี้ ก็จะขายตรงให้กับผู้บริโภคในตัวเมืองยะลา ด้วย โดยจะนำเจ้าของแปลงไปออกร้านขายที่ตลาดเกษตรจังหวัดยะลา


ด้าน นายสุชิน ห้องสุวรรณ ประธานกลุ่มทุเรียนแปลงใหญ่ อำเภอกรงปินัง กล่าวว่า ปีนี้ทุเรียนให้ผลผลิตดีกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากสภาพดินฟ้าอากาศ ทุเรียนติดลูกมาก มีต้นมีลูกทุกต้น และผลผลิตมีคุณภาพ แม้จะกระทบฯ มีลูกร่วงไปบางส่วน คาดว่ารายได้ทั้งหมดของแปลงใหญ่แปลงนี้ซึ่งมีเนื้อที่ 316 ไร่ จะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 50-60 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ประมาณ 11 ล้านบาท จากเดิมปีที่แล้วทุเรียนให้ผลผลิตน้อย ได้เพียง 40 เปอร์เซ็นต์ของปีนี้ ทั้งนี้ เกิดจากการรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ของเกษตรกร  และมีการรณรงค์ให้ความรู้ ด้านการให้ปุ๋ย ให้น้ำ อย่างถูกวิธีตามหลักการใหม่ ๆ ทำให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้น มีคุณภาพดี ทั้ง น้ำหนัก รูปทรง จัดว่าอยู่ในเกรด A และ B ขณะเดียวกัน ก็ช่วยลดในส่วนของต้นทุนได้มาก เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเหมือนเป็นการกระตุ้นให้เกษตรกร รักต้นทุเรียน และให้ความสำคัญจริง ๆ ดูแลบำรุงรักษาตั้งแต่ต้นฤดูเป็นต้นมาจนถึงระยะเก็บเกี่ยวผลผลิต
ขณะที่ นายมามุ สาเลง เจ้าของสวน สมาชิกแปลงใหญ่ทุเรียน บอกว่า ตนเองมีสวนทุเรียนอยู่ 2 ไร่ โดยจะปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองเป็นหลัก ปีนี้ทุเรียนมีผลผลิตจำนวนมาก ช่วงนี้ที่ให้ผลผลิต ตัดขายไปบ้างแล้ว มีทั้งชะนี พวงมณี และหมอนทอง ซึ่งทางเกษตรอำเภอกรงปินัง ได้เข้ามาแนะนำให้ทดลองตลาดใหม่ เปิดตลาดดูเองบ้าง หลังที่ผ่านมาในทุกปีก็จะมีพ่อค้ามารับซื้อที่สวนเอง ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสให้มีรายได้มากขึ้น ส่วนปีนี้ราคาทุเรียนก็น่าจะดีกว่าปีที่แล้ว










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น