“ทะเลหมอกฆุนุงซิลิปัต” ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างบ้าน กม.28 และบ้าน กม.22 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา
ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชมทะเลหมอก ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
เดินทางเข้ามาเที่ยวชม อย่างไม่ขาดสาย หลังจากที่ “ทะเลหมอกฆูนุงซิลิปัต”
ติดอันดับ 1 ใน 15 สถานที่ท่องเที่ยว
ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดอันดับ
ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวภูเขาชมทะเลหมอก อันซีนไทยแลนด์
โดยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 22 กย.61 ) มีนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย รวมกลุ่มกันประมาณ 70 คน ได้เดินทางเข้ามาเที่ยวที่ ยอดเขาฆูนุงซิลิปัต
โดยการเดินทางไปท่องเที่ยว เพื่อชมทะเลหมอกที่ยอดเขาฆูนุงซิลิปัต
ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา นั้น นักท่องเที่ยวต้องจับจองสถานที่
และนัดแนะวันเวลา กับทีมงานสต๊าฟ
ซึ่งเป็นคนพื้นที่และจัดตั้งกลุ่มการท่องเที่ยวชุมชนขึ้นมา โดยภายหลังจากการติดต่อ
เพื่อจับจองสถานที่แล้ว เมื่อถึงวันเดินทาง
นักท่องเที่ยวต้องมาพร้อมกันที่จุดนัดพบ บริเวณทางขึ้นเขาฆูนุงซิลิปัต ที่บ้าน กม.28 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา
และเตรียมความพร้อม ในการเดินทางขึ้นเขา โดยรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ทางทีมสต๊าฟจัดไว้ให้ โดยจะใช้เวลาในการเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 30
-50 นาที แล้วแต่สภาพภูมิอากาศ หลังจากนั้น จะต้องเดินเท้าอีกประมาณ
1 ชั่วโมง ลัดเลาะไปตามเส้นทางธรรมชาติ สวนยางพารา
และสวนผลไม้ เพื่อขึ้นไปยังจุดพักค้างคืนชั่วคราว ซึ่งทางทีมสต๊าฟที่ดูแล
จะมีที่พักเป็นเต็นท์พักแรมไว้ให้ ตามจำนวนนักท่องเที่ยว มีอาหารค่ำให้ 1 มื้อ มีน้ำดื่มไว้บริการ มีห้องน้ำสำหรับขับถ่าย
แต่ไม่มีสถานที่ให้อาบน้ำ และไม่มีไฟฟ้า
ส่วนนักท่องเที่ยวที่เตรียมอาหารมารับประทาน เช่นการปิ้งย่าง
ก็จะมีสถานที่และอุปกรณ์ไว้ให้
และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะต้องเตรียมมาก็คือ
ยาเวชภัณฑ์แก้ปวด แก้ไข ยา หรือ สเปรย์ฉีดกันยุง ซึ่งบรรยากาศในช่วงค่ำคืนนั้น
จะมีอากาศเย็นสบาย ในช่วงฤดูผลก็จะมีผลตกโปรยปราย ตามสภาพภูมิอากาศในช่วงนั้น
ในช่วงเช้ามืดเวลา 05.00 น.นักท่องเที่ยวทุกคนต้องเตรียมเดินเท้าขึ้นไปยอดเขาฆูนุงซิลิปัต
ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพักค้างแรมประมาณ 300 เมตร
เส้นทางเดินตามสันเขาที่เป็นชะงอนหิน ขึ้นไปยังบนยอดเขา ซึ่งมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลที่ประมาณ
600 เมตร และหากเดินทางขึ้นไปถึงก่อนแสงแรกของวัน
ก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเช้า โดยบนยอดเขาฆูนุงซิลิปัต
ถือเป็นสเน่ห์และความอัศจรรย์ของสถานที่ชมทะเลหมอกแห่งนี้ เนื่องจาก
ยอดเขาจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 70-80 คน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นไปแล้ว
จะสามารถมองเห็นทะเลหมอกแบบ 360 องศา ในทุกทิศทาง ท่ามกลางบรรยากาศสุดฟินนี้ จะยังมีอาหารเช้า เป็นกาแฟ
หรือเครื่องดื่มร้อน ๆ พร้อมด้วย ขนมปัง ไว้บริหารนักท่องเที่ยว
ในช่วงที่รอชมทะเลหมอก อีกทั้ง มีจุดถ่ายภาพ สำหรับเช็คอิน
หรือเซลฟี่ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาพิชิตยอดเขาฆูนุงซิลิปัตแห่งนี้อีกด้วย
จากการสอบถามนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย รายหนึ่งก็ทราบว่า
ได้รับทราบข่าวสารทางเฟสบุ๊ค จึงได้ชักชวนเพื่อน ๆ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว
เพื่อชมบรรยากาศ ณ ยอดเขาฆุนุงซิลิปัต แห่งนี้ ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับตนเองและเพื่อนๆ
ที่เดินทางมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์ของการเดินทางขึ้นมายังยอดเขา
และบรรยากาศการพักค้างแรม พร้อมทั้งบรรยากาศบนยอดเขาฆุนุงซิลปัตในยามเช้า
ทั้งนี้ ทะเลหมอกฆูนุงซิลิปัต แห่ง ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา
มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นชาวเอเชีย หรือ
ทางฝั่งตะวันตก ได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแล้ว ณ ปัจจุบันนี้ เกือบ 1 แสนคน
ตามสถิติที่ได้มีนักท่องเที่ยวลงชื่อไว้กับทีมงานสต๊าฟ อีกทั้ง
ในการเดินทางขึ้นเขา เพื่อชมทะเลหมอก ที่มีความยากลำบาก
ทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์ผ่านเส้นทางที่แสนลำบาก และการเดินเท้า ผ่านสวนยางพารา
สวนผลไม้ และแนวป่าธรรมชาติ ถือเป็นมนต์เสน่ห์
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบแนวผจญภัย ศึกษาธรรมชาติ ซึ่งทางทีมงานสต๊าฟที่ดูแล
ก็บอกว่า นักท่องเที่ยวหลายคนชื่นชอบ
และไม่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการท่องเที่ยว
เพื่อเป็นการอนุรักษ์สถานที่ให้คงเป็นความธรรมชาติที่สวยงามไว้
และเพื่อเป็นการรักษาระบบนิเวศน์ ให้เป็นเอกลักษณ์ของทะเลหมอกฆูนุงซิลิปัต แห่งนี้
สำหรับผู้ที่สนใจ อยากจะเดินทางมาพิชิตยอดเขาฆูนุงซิลิปัต และชมทะเลหมอกแบบ 360 องศา สามารถหาข้อมูลรายละเอียด และติดต่อผ่านทีมงานสต๊าฟได้ที่ เพจ
ฆูนุงซีลีปัต - ฆูนุงซาลี Gunungsilipat/.