ส่วนอายุแต่ละต้น จะมีตั้งแต่ 80 ปี ไปจนถึง 100 กว่าปี ให้ผลผลิตทุกปี
โดยจะปลูกผสมผสาน ร่วมกับทุเรียนหมอนทอง ชะนี ก้านยาว รวม ๆ แล้ว ประมาณ 100 ต้น
ในเนื้อที่ 10 ไร่ นอกจากนี้ ก็ยังมีมังคุด ลองกอง ปลูกแซม อีกด้วย ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุเรียนบ้านสุกได้ประมาณ 2-3 อาทิตย์แล้ว บางต้นเก็บต้นเดียวขายผลผลิตได้แล้ว
15,000 บาท ปีนี้ทุเรียนบ้านราคาดี กิโลกรัมละ 60 บาท
แต่ละวันจะออกมาเดินเก็บผลผลิตที่หล่นมาใต้ต้น ได้ประมาณวันละ 200 กิโลกรัม
ทุเรียนจะหล่นลงมาเรื่อย ๆ ทั้งวัน
สำหรับทุเรียนบ้านที่เริ่มปลูกมาในสมัยโบราณ นั้น จะใช้เมล็ดปลูกไม่ได้ตอนกิ่ง
ทำให้ต้นถาวร แข็งแรง ไม่ต้องดูแลมาก ให้ปุ๋ยอย่างเดียว ใช้ธรรมชาติดูแล
ไม่มีสารเคมี ไม่เหมือนทุเรียนรุ่นใหม่อย่างหมอนทอง
ส่วนรายได้นั้นจะสู้หมอนทองไม่ได้ ซึ่งตนจะไม่เน้นราคา แต่จะเน้นการอนุรักษ์
รักษาไว้กิน ของโบราณที่หากินยากมากกว่า ในปีนี้ผลผลิตจะน้อยกว่าปีที่แล้ว
เนื่องจากก่อนหน้านี้อากาศร้อน ดอกไม่ค่อยออก รายได้ก็จะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย
ฝนดีก็จะออกผลผลิตดี รายได้ก็จะดีตามไปด้วย
นายอารีฟุดดีน จารง บอกว่า สำหรับทุเรียนบ้านบาโด เป็นทุเรียนออแกนิก
ใช้ธรรมชาติดูแล ลูกไม่ใหญ่มาก สูงสุด 3 กิโลกรัม เล็กสุด 8 ขีด เนื้อน้อย
เม็ดใหญ่ หวานอร่อย หากินยาก ปัจจุบันชาวบ้านส่วนใหญ่จะตัดทิ้ง
เพื่อมาปลูกทุเรียนพันธุ์ หมอนทอง ก้านยาว ชะนี ที่มีราคาดีกว่า
สำหรับผู้ที่ชอบกินทุเรียน บางคนก็กินหมอนทอง และยังกินทุเรียนบ้านด้วย ราคาไม่แพง
ปีละครั้ง ใน 1 เดือน ถึงจะมีให้กิน ถ้าหมดแล้วก็จะต้องรอไปถึงปีหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น