เมื่อพูดถึงส้มโอ
หลายคนคงนึกถึงส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม จ.นครศรีธรรมราช แต่ใครจะทราบบ้างว่า
แท้จริงแล้วมีต้นกำเนิดมาจากส้มโอพันธุ์พื้นเมืองใน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
ซึ่งขณะนี้กำลังมีการผลักดันให้เป็นผลไม้เด่นคุณภาพดี สร้างชื่อเสียงให้กับ
จ.ปัตตานี ด้วย
สำหรับส้มโอที่ได้ชื่อทับทิมสยามนี้
เนื่องจากมีชาวบ้านได้นำไปถวายให้สมเด็จพระเทพฯ สยามบรมราชกุมารี เสวย
ท่านก็ถามว่าพันธุ์อะไรทานอร่อยมาก ชาวบ้านก็ตอบไม่ได้ สมเด็จพระเทพฯ
สยามบรมราชกุมารี ก็ได้ตั้งชื่อให้เป็นส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม
ซึ่งจะมีปลูกกันมากแถวอำเภอยะรัง อำเภอเมาะมาวี จังหวัดปัตตานี
แต่เดิมทีต้นกำเนิดจะอยู่ที่ตำบลยุโป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
เดิมส้มโอทับทิมสยามมีชื่อท้องถิ่นว่า ส้มโอปูโก เนื้อสีชมพูเข้มค่อนไปทางแดง
รสชาติหวานฉ่ำหอมอมเปรี้ยวเล็กน้อย เนื้อนุ่ม ผิวผลมีขนอ่อนคล้ายกำมะหยี่
เป็นคุณสมบัติของส้มโอพันธุ์พื้นเมืองที่ชาว อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
เชื่อกันว่ามีที่มาจากประเทศจีน เมื่อหลายร้อยปีก่อน
โดยชาวจีนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.ยะรัง นำมาใช้ในพิธีไหว้เจ้า
ซึ่งต่อมามีการนำมาขยายพันธุ์และปลูกกันอย่างแพร่หลายในพื้นที่
เดิมการปลูกส้มโอของเกษตรกรในพื้นที่ อ.ยะรัง
นิยมปลูกแบบสวนหลังบ้าน ครอบครัวละไม่กี่ต้น
ทำให้ที่ผ่านมาส้มโอไม่ได้รับการบำรุงดูแลอย่างถูกวิธี
แต่หลังจากสำนักงานเกษตรอำเภอยะรัง จ.ปัตตานี ได้เข้ามาส่งเสริมให้ความรู้
ทำให้ส้มโอปูโกมีคุณภาพดี เป็นที่ต้องการของตลาด ราคาดีขึ้นเท่าตัว
หรือเฉลี่ยราคาจากสวน ผลละ 15-30 บาท แต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการ
เมื่อส้มโอออกผลให้เริ่มห่อผล
เพื่อป้องกันหนอนเจาะ ศัตรูพืชที่พบมากที่สุด วางกับดักกาวดักแมลงวันทอง
ซึ่งพบมากในพื้นที่ เพียง 7 เดือน ผลส้มโอก็จะสุกเต็มที่ เก็บเกี่ยวได้
ส้มโอควรปลูกห่างกันราว 8×8 เมตร ชอบดินร่วน
หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตต้องตัดแต่งทรงพุ่มให้ต้นส้มโอแตกยอดและออกดอกรุ่นใหม่
ซึ่งจะให้ผลผลิตจำนวนมากในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน และช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน
ส้มโอปูโก ซึ่งในอดีตเคยถูกมองข้ามและไม่ได้รับการบำรุงดูแล
จนมีผู้นำไปปลูกในต่างพื้นที่และสร้างชื่อเสียงเป็นส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม
ในวันนี้กำลังได้รับการส่งเสริมพัฒนาให้กลับมาสร้างชื่อเสียงให้กับ อ.ยะรัง
อีกครั้ง โดยมีเป้าหมายให้เป็นผลไม้เด่นดีมีคุณภาพของ จ.ปัตตานี ภายใต้ชื่อใหม่ว่า
“ปูโกเพชรยะรัง”
---------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น