เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดยะลา
กว่า 40 คน ต่างสนุกสนานกับการได้ออกกำลังกายและเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มวยไทย
ซึ่งทางสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตยะลา ได้จัดโครงการ "ร้อนนี้พลศึกษา
มีกีฬาเพื่อลูกรัก" ในช่วงปิดภาคเรียน ระหว่างวันที่ 3
เมษายน ถึง 10 พฤษภาคม 2561 ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนยะลา
ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ หันมาสนใจการเล่นกีฬา
และได้ฝึกทักษะกีฬาที่ตนเองชื่นชอบ นอกจากนี้ ยังเป็นการอนุรักษ์สืบสานกีฬามวยไทย
มรดกไทย มรดกโลก ให้คงอยู่สืบไป โดยมี 3
ชนิดกีฬาเด่นของทางสถาบันฯ คือ กีฬา ว่ายน้ำมวยไทยและปันจักสีลัต
ซึ่งในแต่ละชนิดกีฬามีเด็กและเยาวชนให้ความสนใจเข้าร่วมอย่างคึกคัก
นายซุฟญาณ
นีโกบ เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์แม่ไม้มวยไทย สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตยะลา
วิทยากรครูฝึก กล่าวว่า สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการที่ทางสถาบันการพลศึกษา
วิทยาเขตยะลา จัดขึ้นทุกปีในช่วงปิดเทอมของน้อง ๆ เพื่อให้น้อง ๆ ได้มาเล่น
มาฝึกกีฬา และมีความรู้ ทักษะทางด้านกีฬา ที่ตนเองถนัด ชื่นชอบ ทั้ง
การฝึกเรียนว่ายน้ำ ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ไปเล่นน้ำแล้วเกิดอันตราย นอกจากนี้
ก็ยังมีมวยไทยและปันจักสีลัต ด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน
ทั้งในระยะสั้นให้เด็กได้ฝึกกีฬา ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และในระยะยาว
ฝึกฝนในการเป็นนักกีฬาที่ตนเองชอบ โดยจะเป็นการปูพื้นฐานตั้งแต่ยุวชน เยาวชน
ก่อนที่จะไปเล่นกีฬาอย่างจริงจัง
สำหรับกีฬามวยไทย
นี้ ในปีแรก ๆ ที่ทางสถาบันฯ เปิดสอน มีเด็กให้ความสนใจน้อยมาก ประมาณ 10 คน แต่ปัจจุบันกีฬามวยไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
มีเด็กและเยาวชนเข้ามาเรียนถึง 50 คน ทั้ง
เด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ซึ่งจะรับเด็กตั้งแต่อายุ 6 ขวบถึง
15 ปี สอนในระดับพื้นฐาน ทักษะมวย แอโรบิค เกมส์
ส่วนบางคนที่เรียนในปีที่แล้ว ปีนี้มาเรียนอีก ก็จะมีการต่อยอดเรียนขั้นต่อไป
การเรียนก็จะเน้นให้เด็ก
ๆ ได้สนุกกับกีฬามวยไทย เพื่อสืบทอด สืบสานกีฬามวยไทยไว้ต่อไป ซึ่งเด็ก ๆ
ก็จะได้ผ่อนคลายไปในตัว ได้ความแข็งแรง หลัก ๆ คือ ต้องการให้เด็กมีความสุข
ได้ออกกำลังกาย ได้มีความรู้เกี่ยวกับกีฬามวยไทย ด้วย
เด็กชายอธิยุต
โหดสุบ นักเรียน ป.4 วัย 9 ขวบ จากโรงเรียนสาธิตพัฒนาวิทยา และ
เด็กหญิงยลระตี จันทร์ตรี นักเรียน ป.3 วัย 8 ขวบ จากโรงเรียนอนุบาลยะลา ต่างบอกว่า ได้เรียนมวยไทย ชอบ และสนุกมาก
และมีความแข็งแรงด้วย ได้ใช้ประโยชน์ในการป้องกันตัวเอง และยังได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย
ขณะที่
นางสาวนิรอมละ กาลอ ผู้ปกครอง กล่าวว่า สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก เด็ก
ๆ จะได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในช่วงปิดภาคเรียน มาเรียนรู้ทักษะกีฬา
ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง รวมทั้งยังได้รู้จักการอยู่ร่วมกับคนอื่น มีความรัก ความสามัคคี
ซึ่งกีฬามวยไทยก็เป็นกีฬาที่ลูกชื่นชอบ และเลือกที่จะมาเรียนเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น