วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2561

เรียนรู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทย สืบสานมวยไทย มรดกไทย มรดกโลก





          เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดยะลา กว่า 40 คน ต่างสนุกสนานกับการได้ออกกำลังกายและเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มวยไทย ซึ่งทางสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตยะลา ได้จัดโครงการ "ร้อนนี้พลศึกษา มีกีฬาเพื่อลูกรัก" ในช่วงปิดภาคเรียน ระหว่างวันที่ 3 เมษายน ถึง 10 พฤษภาคม 2561 ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนยะลา ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ หันมาสนใจการเล่นกีฬา และได้ฝึกทักษะกีฬาที่ตนเองชื่นชอบ นอกจากนี้ ยังเป็นการอนุรักษ์สืบสานกีฬามวยไทย มรดกไทย มรดกโลก ให้คงอยู่สืบไป โดยมี 3 ชนิดกีฬาเด่นของทางสถาบันฯ คือ กีฬา ว่ายน้ำมวยไทยและปันจักสีลัต ซึ่งในแต่ละชนิดกีฬามีเด็กและเยาวชนให้ความสนใจเข้าร่วมอย่างคึกคัก


นายซุฟญาณ นีโกบ เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์แม่ไม้มวยไทย สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตยะลา วิทยากรครูฝึก กล่าวว่า สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการที่ทางสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตยะลา จัดขึ้นทุกปีในช่วงปิดเทอมของน้อง ๆ เพื่อให้น้อง ๆ ได้มาเล่น มาฝึกกีฬา และมีความรู้ ทักษะทางด้านกีฬา ที่ตนเองถนัด ชื่นชอบ ทั้ง การฝึกเรียนว่ายน้ำ ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ไปเล่นน้ำแล้วเกิดอันตราย นอกจากนี้ ก็ยังมีมวยไทยและปันจักสีลัต ด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ทั้งในระยะสั้นให้เด็กได้ฝึกกีฬา ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และในระยะยาว ฝึกฝนในการเป็นนักกีฬาที่ตนเองชอบ โดยจะเป็นการปูพื้นฐานตั้งแต่ยุวชน เยาวชน ก่อนที่จะไปเล่นกีฬาอย่างจริงจัง


        สำหรับกีฬามวยไทย นี้ ในปีแรก ๆ ที่ทางสถาบันฯ เปิดสอน มีเด็กให้ความสนใจน้อยมาก ประมาณ 10 คน แต่ปัจจุบันกีฬามวยไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีเด็กและเยาวชนเข้ามาเรียนถึง 50 คน ทั้ง เด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ซึ่งจะรับเด็กตั้งแต่อายุ 6 ขวบถึง 15 ปี สอนในระดับพื้นฐาน ทักษะมวย แอโรบิค เกมส์ ส่วนบางคนที่เรียนในปีที่แล้ว ปีนี้มาเรียนอีก ก็จะมีการต่อยอดเรียนขั้นต่อไป


การเรียนก็จะเน้นให้เด็ก ๆ ได้สนุกกับกีฬามวยไทย เพื่อสืบทอด สืบสานกีฬามวยไทยไว้ต่อไป ซึ่งเด็ก ๆ ก็จะได้ผ่อนคลายไปในตัว ได้ความแข็งแรง หลัก ๆ คือ ต้องการให้เด็กมีความสุข ได้ออกกำลังกาย ได้มีความรู้เกี่ยวกับกีฬามวยไทย ด้วย


เด็กชายอธิยุต โหดสุบ นักเรียน ป.4 วัย 9 ขวบ จากโรงเรียนสาธิตพัฒนาวิทยา และ เด็กหญิงยลระตี จันทร์ตรี นักเรียน ป.3 วัย 8 ขวบ จากโรงเรียนอนุบาลยะลา ต่างบอกว่า ได้เรียนมวยไทย ชอบ และสนุกมาก และมีความแข็งแรงด้วย ได้ใช้ประโยชน์ในการป้องกันตัวเอง และยังได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย


   ขณะที่ นางสาวนิรอมละ กาลอ ผู้ปกครอง กล่าวว่า สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก เด็ก ๆ จะได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในช่วงปิดภาคเรียน มาเรียนรู้ทักษะกีฬา ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง รวมทั้งยังได้รู้จักการอยู่ร่วมกับคนอื่น มีความรัก ความสามัคคี ซึ่งกีฬามวยไทยก็เป็นกีฬาที่ลูกชื่นชอบ และเลือกที่จะมาเรียนเอง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น