ในช่วงเดือนเมษายนเช่นนี้
ใครหลายๆ คนคงกำลังคิดถึงวันหยุดยาวประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นั้นก็คือ
วันสงกรานต์ อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นวันที่ถือได้ว่าเป็นวันแห่งความสุขเลยก็ว่าได้
เพราะนอกจากเราจะได้สาดน้ำเล่นกันคลายร้อน แถมยังได้หยุดยาวต่อเนื่อง 3-5
วันกันเลยทีเดียว ซึ่งคนส่วนใหญ่ใน เทศกาลสงกรานต์เช่นนี้
ก็จะร่วมกันทำบุญร่วมกันในครอบครัว ไหว้ผู้สูงอายุ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต
และเล่นน้ำกันในสถานที่ต่างๆ
ซึ่งวันมหาสงกรานต์
2561 ในปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 14 เมษายน เวลา 9 นาฬิกา 1 นาที 48 วินาที จันทรคติ
ตรงกับ วันเสาร์ แรม ๑๔ ค่ำ เดือนห้า (๕) ปีจอ
ประวัติวันสงกรานต์
คำว่า
“สงกรานต์” มาจากภาษาสันสกฤตว่า “สํ-กรานต” ซึ่งแปลว่า ก้าวขึ้น ย่างขึ้น
หรือย้ายขึ้น โดยมีนัยความหมายว่า การเข้าสู่ศักราชราศีใหม่ หรือวันขึ้นปีใหม่
นั้นเอง โดยเทศกาลสงกรานต์
นั้นเป็นประเพณีที่มีความเก่าแก่และคนไทยสืบทอดกันมาแต่โบราณคู่กับประเพณีตรุษจีนกันเลยทีเดียว
จึงได้มีการรวมเรียกกันว่า “ประเพณีตรุษสงกรานต์” ซึ่งแปลว่าการส่งท้ายปีเก่า
ต้อนรับปีใหม่ นั้นเอง
วันมหาสงกรานต์
ในสมัยโบราณ
คนไทยถือว่า วันขึ้น 1 ต่ำ เดือนอ้าย ซึ่งจะตรงในช่วงเดือน พฤศจิกายนหรือธันวาคม
ให้เป็นวันขึ้นปีใหม่ แต่ในสมัยรัชกาลที่
5 ได้มีการเปลี่ยนให้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ จนต่อมาในสมัยยุค จอมพล ป.
พิบูลสงคราม ในปี พ.ศ. 2483 ได้เปลี่ยนวันปีใหม่ให้เป็นวันสากล คือ วันที่ 1
มกราคม แต่ถึงอย่างไร
คนโบราณก็ยังคงคุ้นเคยกับวันปีใหม่ไทยในเดือนเมษายน จึงได้กำหนดให้วันที่ 13
เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ไทยร่วมด้วย
กิจกรรมในวันสงกรานต์
ทำบุญตักบาตร
วันมหาสงกรานต์
ประชาชนจะลุกขึ้นมาตอนเช้าเพื่อที่จะจัดเตรียมอาหาร ไปตักบาตรถวายพระ
พอจัดเตรียมอาหารเสร็จก็จะ บรรจงลงภาชนะมีถ้วยโถโอชามที่สวยงาม
แล้วเอาวางเรียงลงในถาด เพื่อนำไปทำบุญตักบาตรและเลี้ยงพระประจำหมู่บ้านของตน เรื่องการแต่งตัว
จะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่สะอาดสวยงามมิดชิดเหมาะแก่การไปวัดของชาวบ้าน
ก่อพระเจดีย์ทราย
ใน สมัยก่อนทีเรื่องเล่าขานกันว่าทุกคนเมื่อเข้าวัดมาแล้วเวลาเดินออกจากวัดจะ
มีเม็ดทรายติดเท้าออกไปด้วยเพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการเติมเต็มจึงมีการขนทราย
เข้าวัดหรือการก่อพระเจดีย์ทรายนั้นเองแต่ถึงอย่างไรแล้วการก่อพระเจดีย์
ทรายก็เป็นเพียงกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมกันทำเพราะตอน
เย็นๆชาวบ้านก็จะพากันไปที่ท่าน้ำแล้วขนทรายกันมาคนละถังเพื่อนำทรายมาก่อ
เป็นพระเจดีย์นั่นถือว่าเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่จะให้ชาวบ้านมีความสามัคคี
กรมเกลียวเพราะเมื่อขนทรายเข้าวัดแล้วทรายก็จะล้นวัดพระสงฆ์ก็จะนำทรายที่
ชาวบ้านขนมานำไปคืนสู่แม่น้ำดังเดิมเพราะไม่รู้จะเก็บไว้ทำอะไรเพราะฉะนั้น
แล้วเวลาขนทรายเข้าวัดควรจะขนเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นพอเพราะจะสร้างความ
ลำบากให้พระเณรในภายหลัง
สรงน้ำ
รดน้ำ และเล่นน้ำ การ สรงน้ำพระพุทธรูป มีดอกไม้
ธูปเทียน ไปบูชา แล้วเอาน้ำอบไปประพรมที่องค์พระ
ทำเป็นสังเขปพอเป็นพิธีว่าได้แสดงความเคารพบูชาและสรงน้ำท่านในวันขึ้นปี ใหม่แล้ว
เมื่ออัญเชิญพระพุทธรูปมา ก็มีการแห่แหนกันอย่างสนุกสนาน
สรงน้ำพระพุทธรูปแล้วก็มีการสรงน้ำพระสงฆ์
โดยมากมักเป็นสมภารเจ้าวัดเป็นการสรงน้ำจริงๆ
สรงเสร็จครองไตรจีวรใหม่ที่อุบาสกอุบาสิกานำ มาถวาย
ท่านก็ขึ้นธรรมาสน์เทศน์อำนวยพรปีใหม่ให้แก่ผู้ที่ไปสรงน้ำ นอกจากนี้ยังมีการ
รดน้ำญาติผู้ใหญ่ หรือผู้ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ เพื่อขอศีลขอพรตามประเพณี
เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับวันสงกรานต์
ในวันสงกรานต์ของประเทศไทยในแต่ละภาคจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป
ดังนี้
–
สงกรานต์ภาคกลาง
13
เมษายน จะเรียกว่า “วันมหาสงกรานต์” และถือเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติอีกด้วย
14
เมษายน จะเรียกว่า “วันเนา” และถือเป็นวันครอบครัว
15
เมษายน จะเรียกว่า “วันเถลิงศก” ถือว่าเป็นวันเริ่มจุลศักราชใหม่
– สงกรานต์ภาคเหนือ
13
เมษายน จะเรียกว่า “วันสงขารล่อง” ความหมายว่า อายุสิ้นปีหมดไปอีกปี
14
เมษายน จะเรียกว่า “วันเน่า” วันที่ห้ามพูดคำหยาบคาย
15
เมษายน จะเรียกว่า “วันพญาวัน” ถือว่าเป็นวันเริ่มจุลศักราชใหม่
– สงกรานต์ภาคใต้
13
เมษายน จะเรียกว่า “เจ้าเมืองเก่า”
เชื่อกันว่าวันที่เทวดารักษาบ้านเมืองจะกลับบนสวรรค์
14
เมษายน จะเรียกว่า “วันว่าง” วันที่ปราศจากเทวดารักษาเมือง
15
เมษายน จะเรียกว่า “วันรับเจ้าเมืองใหม่”
วันรับเทวดาองค์ใหม่เพื่อดูแลบ้านเมืองแทนองค์เดิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น