เมื่อพูดถึงที่เที่ยวทางทะเลจังหวัดสูตลเชื่อว่าหลายๆ
คนคงจะคิดถึงเกาะหลีเป๊ะ และเกาะตะรุเตามาเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน
ซึ่งเกาะสวยทั้งสองแห่งนี้มีผู้คนเดินทางไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก
สำหรับใครที่ไม่ต้องการไปพบเจอกับความวุ่นวายและอยากจะพบกับอันซีนของจังหวัดสตูลที่แท้จริง
เราจะพาไปดูกันครับ กับ ปราสาทหินพันยอด อัญมณีลับที่ซ่อนความสวยงามไว้อยู่ในทะเลสตูล
การเดินทางไปปราสาทหินพันยอดนั้นเริ่มต้นจากการขึ้นเรือที่ท่าเรือปากบารา
โดยเรือที่จะพาเราเดินทางไปในวันนี้จะเป็นเรือหัวโทงเอกลักษณ์ของภาคใต้ที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เมื่อนักท่องเที่ยวทุกคนพร้อมกันบนเรือไกด์ของเราก็จะทำหน้าที่แนะนำตัวและอธิบายโปรแกรมของเราในวันนี้
พร้อมทั้งให้ข้อมูลแก่เราตลอดระยะเวลาการเดินทาง ได้เวลาออกเดินทางพี่คนขับพาเราแล่นออกสู่ท้องทะเลที่ถูกโอบล้อมไว้ด้วยภูเขาน้อยใหญ่
ยอมรับเลยว่าที่นี่มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก
ภูเขาทุกลูกยังถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวขจีทำให้รู้สึกสบายตาเมื่อได้มองจริงๆ
จุดแรกที่เราจะไปกันในวันนี้มีชื่อว่าสันหลังมังกร
สันหลังมังกรคืออะไรนั้นต้องตามไปดูกันครับ
โดยเมื่อเรือวิ่งมาได้สักพักก็จะถึงจุดที่ต้องแล่นผ่านป่าโกงกาง
ซึ่งมีความร่มรื่นเป็นอย่างมาก เมื่อวิ่งผ่านป่าโกงกางไปแล้วสันหลังมังกรก็เผยตัวออกมาให้เราได้เห็น
สันหลังมังกรที่ว่านี้ก็คือทะเลแหวกนั่นเองครับ
ซึ่งบริเวณตรงนี้จะเป็นสันทรายที่สามารถลงไปเดินเล่นถ่ายรูปกันได้ มีความขนาดความยาวประมาณ
3-4 กิโลเมตรเลยทีเดียว ทรายที่นี่ค่อนข้างละเอียดและนุ่มเท้าเอามากๆ
วิวโดยรอบก็สวยงาม ทุกคนต่างลงจากเรือมาเดินเล่นบนสันทรายหามุมถ่ายรูปของตัวเองกันอย่างสนุกสนาน
ในบางมุมถ่ายออกมาแล้วจะเหมือนกับเราว่าตัวเรายืนอยู่บนผืนน้ำเลยทีเดียว
เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำหรับโปรแกรมในวันนี้เลยครับสำหรับสันหลังมังกร เมื่อเก็บภาพความประทับใจกันจนพอใจแล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อ
ซึ่งเราต้องแล่นเรือผ่านกลับมาที่ป่าชายเลนทางเดิม แต่คราวนี้ไม่เหมือนเดิม
เพราะข้างทางป่าชายเลนนั้นมีเรือคายัคหลายลำผูกติดรอเราไว้อยู่ด้วย และความสงสัยในใจของเราก็ได้กระจ่างเพราะเรือคายัคเหล่านี้ก็คือกุญแจที่จะพาเราเข้าสู่ปราสาทหินพันยอดนั่นเอง
พี่คนเรือจัดการผูกเรือคายัคเข้ากับท้ายเรือหัวโทงแล้วลากเรือคายัคทั้งหมดวิ่งผ่านป่าชายเลนออกสู่ทะเลใช้เวลาไม่นานมากนักขบวนเรือคายัคที่ลากมาโดยเรือหัวโทงของเราก็มาอยู่ตรงหน้าปากทางเข้าปราสาทหินพันยอดได้สำเร็จ
แล้วก็มาถึงช่วงเวลาที่ทุลักทุเลที่สุดเมื่อนักท่องเที่ยวทุกคนต้องเปลี่ยนเรือกลางทะเล
ไปนั่งเรือคายัคเพื่อพายลอดผ่านประตูหินเข้าสู่ใจกลางปราสาทหินพันยอด
ด้วยความที่บริเวณหน้าปากทางเข้าปราสาทหินพันยอดนี้มีคลื่นลมที่แรงมากๆ กว่าจะลำเลียงนักท่องเที่ยวบนเรือหัวโทงทั้งหมดเข้าไปสู่กลางปราสาทหินพันยอดได้เล่นเอาพี่ๆ
คนเรือหอบจับกันเลยทีเดียว
นี่แค่เพิ่งเริ่มต้นยังไม่ทันเข้าไปถึงใจกลางก็รู้สึกได้ถึงความแอดเวนเจอร์แบบสุดๆ และวินาทีที่เรารอคอยก็มาถึงเมื่อเรือคายัคลำของเราค่อยๆ
ลอดผ่านประตูหินเข้าสู่ใจกลางปราสาทหินพันยอด
เราเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของสีน้ำภายในที่จะมีสีออกเขียวๆ แต่ใสมากๆ
และมีชายหาดเล็กๆ
รอเราอยู่ตรงหน้า
เรือมาจอดเทียบให้เราลงที่ชายหาดและเมื่อเราหันหน้าออกสู่ทางประตูหินที่เราเข้ามาเราก็รับรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้เราได้อยู่ใจกลางปราสาทหินพันยอดสิ่งมหัศจรรย์กลางทะเลสตูลแล้ว! ภาพของชั้นหินที่มีลักษณะเป็นเหมือนยอดปราสาทมีขนาดใหญ่
และมีสีสันสวยงามสะดุดตา เบื้องล่างคือน้ำทะเลใสสะอาดสีเขียวมรกต
ด้านบนคือท้องฟ้าที่วันนี้มีสีฟ้าสดใสสวยงาม
โดยรวมแล้วไม่ต้องสงสัยเลยนี่คืออันซีนไทยแลนด์อย่างแท้จริง!
เป็นภาพที่สุดจะบรรยาย ความลงตัวที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติ
ความงดงามที่เราสามารถพิชิตได้
เป็นความรู้สึกที่ทั้งดีใจและมีความสุขที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ ผู้คนรอบตัวเราต่างพากันยกกล้องขึ้นมาถ่ายความตื่นตาตื่นใจที่อยู่ข้างหน้า
ยิ่งเมื่อมองไปโดยรอบแล้วที่นี่เหมือนปราสาทดั่งที่ชาวบ้านตั้งชื่อไว้จริงๆ ใครจะไปรู้ว่านอกจากหลีเป๊ะและตะรุเตาแล้ว
ทะเลสตูลนั้นยังมีสิ่งมหัศจรรย์แบบนี้ซุกซ่อนอยู่ด้วย อยากแนะนำให้ทุกคนได้มาสัมผัสความสวยงามของที่นี่ด้วยตาตนเอง
เดินทางง่ายๆ จากท่าเรือปากบารา ลองมาแล้วคุณจะรู้ว่า
"ขุมทรัพย์กลางทะเลมีอยู่จริง"
------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น