วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

"สมเด็จพระบรมฯ" สานต่อพระราชดำริ "เสด็จพ่อ" "แปลคัมภีร์อัลกุรอาน" ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ชาวมุสลิมไม่เคยลืมเลือน


กว่า 50 ปีแล้วที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำรัสให้จุฬาราชมนตรี นำพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานของศาสนาอิสลาม มาแปลความหมายเป็นภาษาไทย กระทั่งพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานฉบับแปลไทยเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากทำให้ชาวไทยมุสลิมคนรุ่นหลังได้รู้ความหมายคัมภีร์สำคัญของศาสนา เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับชีวิตประจำวัน

ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามสืบทอดมาหลายชั่วอายุคนการละหมาดเป็นหนึ่งในพิธีสำคัญที่พวกเขาทำทุกวันเพราะนี่เป็นการประกอบกิจบูชาสักกาพระระอัลลอหฺ ด้วยการอ่านบทสรรเสริญ และการวิงวอน ไม่ได้มีเพียงพิธีกรรมสำคัญต่างๆ เท่านั้น  ที่จำเป็นต่อชาวไทยมุสลิมส่วนการศึกษาคำสอนจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งเป็นคัมภีร์สำคัญทางศาสนาอิสลามก็มีความสำคัญต่อชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศไทยเช่นกัน นิมู มากาเจ เล่าให้เราฟังว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำริว่าพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานเป็นคัมภีร์สำคัญทางศาสนาอิสลาม และเป็นวรรณกรรมที่สำคัญของโลกเรื่องหนึ่งซึ่งได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ อย่างแพร่หลายหากมีการแปลความหมายเป็นภาษาไทยด้วยก็จะช่วยให้ชาวไทยมุสลิมที่ไม่รู้ภาษาอาหรับหรือไม่ก็คนไทยที่สนใจสามารถศึกษาคำสอนของศาสนาอิสลามได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น 

อดีตล่ามที่เคยถวายงานให้กับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังเล่าให้ฟังอีกว่า  พระองค์ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ นายต่วนสวรรณศาสน์ อดีตจุฬาราชมนตรีในสมัยนั้น แปล และขยายความพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานจากภาษาอาหรับให้เป็นภาษาไทย ก่อนจะพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนการจัดพิมพ์พระมหาคัมภีร์อัลกุละอานเผยแพร่ในระยะแรกกระทั่งเป็นพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานแปลไทยต้นแบบ   

ปัจจุบันชาวไทยมุสลิมได้ใช้ประโยชน์จากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย อันเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไว้เป็นหลักคำสอนให้ทุกคนได้ปฏิบัติตนเป็นคนดีตามหลักของศาสนา โดยชาวไทยมุสลิมทุกคนต่าง  รำลึกใน พระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หาที่สุดมิได้

ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2559 มีรายงานว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีกำหนดจะเสด็จพระราชดำเนินไปยังจังหวัดปัตตานี ในวันพรุ่งนี้ (14 พฤศจิกายน) เพื่อทรงเป็นองค์ประธานในการพระราชทานถ้วยรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี
โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกุรณาโปรดเกล้าฯ เดิมไว้ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานโล่เกียรติคุณ และเงินรางวัลแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นประจำปี 2558 รวมทั้งผู้แทนโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ครูและนักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้ ประจำปี 2558 ที่ที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี

ในการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ ถือเป็นพระราชกรณียกิจต่อเนื่องจากที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมุสลิม โดยครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2505 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชดำรัสให้แปลคัมภีร์อัลกุรอานเป็นภาษาไทย และวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2511 เป็นวันแรกที่พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานฉบับความหมายภาษาไทยได้ถูกจัดพิมพ์ขึ้นถวาย และได้พระราชทานแก่มัสยิดทั่วประเทศ
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำรัสในงานเฉลิมฉลอง 14 ศตวรรษแห่งอัลกุรอานไว้ว่า คัมภีร์อัลกุรอาน มิใช่จะเป็นคัมภีร์ที่สำคัญในศาสนาอิสลามเท่านั้น แต่ยังเป็นวรรณกรรมสำคัญของโลกเล่มหนึ่งซึ่งมหาชนรู้จักยกย่อง และได้แปลเป็นภาษาต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย
เรียบเรียง : อติ สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณข้อมูล : mediastudio

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น