ผู้นำศาสนาอิสลามในจังหวัดชายแดนภาคใต้
เรียกร้องให้ชุมชนมุสลิม งดนำศพผู้ติดยาเสพติดทำพิธีในมัสยิด
ถือเป็นกรณีตัวอย่างกรณีแรก เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวต่อบาปตามหลักศาสนาอิสลาม
ขณะเดียวกันเชื่อว่า
ปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในต้นตอของปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยในวันอังคาร
(8 พ.ย.59) นี้
นายอิสมาแอล ฮะรี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา กล่าวว่า ปัจจุบัน คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดชายแดนภาคใต้
ออกมาตรการที่สอดคล้องกับนโยบายของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4
ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) โดยสั่งห้ามไม่ให้นำศพผู้ติดยาเสพติดเข้าประกอบพิธีในมัสยิด
“เราชาวมุสลิมทุกคน
ไม่เอา ไม่เห็นด้วย ไม่สนับสนุน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ยานรกทุกชนิด
ขอสนับสนุนอย่างจริงใจต่อมาตรการนี้
ขอให้อิหม่ามประจำมัสยิดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้บ้านเรา นำมาตรการเช่นนี้ ไปบังคับใช้ในเขตของท่านด้วย
และ ขอดูอาห์ให้เอกองค์อัลลอฮ์
จงชี้นำพี่น้องเราและศาสนิกอื่นสู่หนทางที่เที่ยงธรรม เเละห่างไกลจากยาเสพติด
อบายมุขทั้งหลายทั้งปวงด้วย” นายอิสมาแอลกล่าว
นายอิสมาแอล
กล่าวว่า เชื่อว่าปัญหายาเสพติดคือหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ทาง กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า
จึงได้ดำเนินนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
ทำให้สามารถจับกุมผู้ขาย และยึดของกลางเป็นยาเสพติดจำนวนมาก
ผู้นำทางศาสนาจึงได้ขานรับนโยบายในเรื่องนี้ด้วย
นายซาการียา
(ขอสงวนนามสกุล) ชาวบ้านในตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังตา จังหวัดยะลา กล่าวว่า
ในต้นเดือนพฤศจิกายน 2559
ชาวบ้านร่วมกับผู้นำศาสนาได้ประกาศห้ามไม่ให้นำศพผู้เสพยาเสพติดรายหนึ่ง
เข้าทำพิธีในมัสยิด ทำให้ครอบครัวต้องพาศพไปทำพิธีที่บ้าน
และต้องนำศพไปฝังในสุสานที่ห่างไกลจากศพของคนอื่น ซึ่งถือว่าเป็นกรณีแรก
และกรณีเดียวที่เกิดขึ้นถึงขณะนี้
“การที่ผู้นำศาสนาในหมู่บ้านไม่เรียกคนมาร่วมละหมาดศพคนใช้ยาเสพติดกันมากๆ
จะทำให้ผู้ใช้ยาเสพติดเกิดความรู้สึกไม่ดี เมื่อไม่มีใครมาสนใจให้ความสำคัญกับศพตัวเอง
ตามกฏหมายอิสลามจะมีบทลงโทษที่ชัดเจนสำหรับผู้ใช่ยาเสพติด หนึ่งให้ตีจำนวน 40
ครั้ง สอง
ห้ามเป็นผู้ปกครองให้ลูกสาวที่จะทำพิธีแต่งงาน สามไม่รับรองการเป็นพยาน”
ดร.อับดุลเลาะ
กล่าวเพิ่มเติมว่า จะอนุญาตให้ผู้ที่เลิกยาเสพติด
และมีความรู้สึกสำนึกผิดอย่างจริงใจ ให้สามารถทำพิธีกรรมทางศาสนาได้
ด้านพันเอกจตุพร
กลัมพสุต ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองข่าวภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4
ส่วนหน้า ได้ระบุว่า กองทัพเชื่อว่าปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในปัจจัยของการก่อเหตุความวุ่นวายในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
“นับจากปี
2554
มีหลักฐานและมีการจับกุมยาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้จำนวนมาก
ซึ่งตีเป็นมูลค่า 200 ล้าน
และเป็นหนึ่งของปัญหาภัยแทรกซ้อนที่ทำให้เกิดความไม่สงบในภาคใต้” พันเอกจตุพร
กล่าว
ด้านนายอิสมะแอ
เยาวชนผู้เคยใช้ยาเสพติดจากจังหวัดยะลา ระบุว่า
เห็นด้วยกับมาตรการทางสังคมที่เกิดขึ้น เนื่องจากเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวของชุมชน
และผู้นำศาสนาจะช่วยแก้ปัญหายาเสพติดได้อย่างเด็ดขาด
“การใช้ยาเสพติดผิดหลักศาสนาอิสลาม
เพราะจะทำให้เราอยู่อย่างขาดสติ และอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น
เห็นด้วยถ้าจะมีการใช้มาตรการที่เด็ดขาดมาแก้ปัญหายาเสพติด” นายอิสมาแอกล่าว
ข้อมูลโดย http://news.muslimthaipost.com/news/27480
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น