วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

รายงานพิเศษ : ความสุข..อันเนื่องมาจากพระมหากรุณาธิคุณ “รอยพระบาทยาตราปัตตานี”


พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนพสกนิกรชาวปัตตานี และพระราชทานแนวพระราชดำริ เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาสำคัญๆ ให้แก่จังหวัดปัตตานีมากมาย พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ดังรอยพระบาทยาตราปัตตานี ต่อไปนี้

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2497 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานธงชัยเฉลิมพลให้กับโรงเรียนพลตำรวจภูธร ภาค 9 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิกจังหวัดปัตตานี ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2509 ได้ย้ายไปอยู่ที่ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา

วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2502 เสด็จพระราชดำเนินจากจังหวัดสงขลา ถึงจังหวัดปัตตานี นายเกษม สุขุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระแสงราชศาสตรา หลังจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินต่อไปยังที่ว่าการอำเภอโคกโพธิ์ เวลา 13.45 น. ทรงเยี่ยมราษฎรอำเภอโคกโพธิ์อย่างทั่วถึง ประมาณ 1 ชั่วโมง เสวยพระกระยาหารกลางวัน ณ ที่ว่าการอำเภอ เวลา 15.30 น. เสด็จพระราชดำเนินออกจากอำเภอโคกโพธิ์ ไปยังค่ายตำรวจตระเวนชายแดน ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดน กราบทูลพระกรุณานำตำรวจตระเวนชายแดนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทรงมีพระราชดำรัสตอบ และทรงอวยพรให้ตำรวจตระเวนชายแดนทุกคนมีความสุขความเจริญโดยทั่วกัน เวลา 16.30 น. เสด็จพระราชดำเนินต่อไปยังโรงเรียนบ้านตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี


วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2502 เวลา 09.15 น. เสด็จพระราชดำเนินยังศาลากลางจังหวัดปัตตานี ประชาชนชาวจังหวัดปัตตานี ชาวไทยพุทธทั้งเชื้อสายไทยและจีน ชาวไทยมุสลิม ได้ร่วมใจกันจัดขบวนแห่คชสีห์ ขบวนแห่นก รวมทั้งขบวนแห่งของชาวจีน ซึ่งเป็นการถวายพระพรและถวายพระเกียรติอย่างสูงสุด เสร็จพิธีแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กราบบังคมทูลนำข้าราชการและราษฎรเฝ้าทูลละอองพระบาท ทรงมีพระราชดำรัสกับประชาชน ราษฎรผู้หนึ่งนำปืนพญาตานีจำลอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดปัตตานีทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เวลา 11.30 น. เสด็จพระราชดำเนินถึงศาลยุติธรรมจังหวัดปัตตานี ประทับฟังการพิจารณาคดีแล้วเสด็จต่อไปยังที่ว่าการอำเภอยะรัง เสด็จเยี่ยมราษฎรจนถึง เวลา 12.22 น. จึงเสด็จต่อไปยังจังหวัดยะลา

วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2516 เสด็จพระราชดำเนิน ณ สนามบินบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

วันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2517 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร ณ บ้านสือดัง ตำบลเตราะบอน บ้านปละโละ ตำบลมะนังดาลำ ค่ายลูกเสือสุริยสุนทร ตำบลละหาน หลังจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าเรืออำเภอสายบุรี ประทับเรือกอและ ซึ่งจัดเป็นเรือยนต์พระที่นั่ง เสด็จตามแม่น้ำสายบุรี ไปยังบ้านบน ตำบลปะเสยะวอ อำเภอสายบุรี แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงพยาบาลคริสเตียนสายบุรี ตำบลตะลุบัน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี

วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ.2518 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี

วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2519 เสด็จพระราชดำเนินทรงฝังลูกนิมิตวัดในอำเภอยะหริ่ง เสด็จพระราชดำเนินมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี

วันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2519 เสด็จพระราชดำเนิน ณ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง (ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี) ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี

วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2520 เสด็จพระราชดำเนินในพิธียกฉัตรทองคำยอดเจดีย์ ณ วัดช้างให้ ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

วันที่ 2 กันยายน พ.ศ.2520 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธียกช่อฟ้าอุโบสถวัดหงสาราม ตำบลท่าข้าม อำเภอปะนาเระ พระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้านจังหวัดปัตตานี ณ ที่ว่าการอำเภอสายบุรี และทรงเยี่ยมราษฎรจังหวัดปัตตานี

วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2522 เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี

วันที่ 10 กันยายน พ.ศ.2522 เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโครงการชลประทานปัตตานี และทรงเยี่ยมราษฎร ณ วัดสุขาวดี ตำบลยะรัง อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี

วันที่ 10 กันยายน พ.ศ.2523 เสด็จพระราชดำเนินโดยเรือ ไปยังวัดถัมภาวาส เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรบ้านยะวอ ตำบลปะเสยะวอ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี



วันที่ 17 กันยายน พ.ศ.2523 เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานรางวัลแก่ครูโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนาอิสลาม ณ มัสยิดกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ.2524 เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรภูมิประเทศ และทรงเยี่ยมราษฎรบ้านโต๊ะชูด ตำบลพิเทน และบ้านน้ำดำ ตำบลน้ำดำ กิ่งอำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี

วันที่ 6 กันยายน พ.ศ.2526 เสด็จพระราชดำเนินฝายโต๊ะมิเยาะ หมู่ที่ 1 บ้านข่าลิง ตำบลพิเทน กิ่งอำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี

วันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2535 เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมบ้านทุ่งเค็จ อำเภอสายบุรี เพื่อทอดพระเนตรโครงการพัฒนาพรุ แฆแฆทั้งนี้ เนื่องจากทรงเล็งเห็นว่าพรุดังกล่าว ถึงแม้ว่าจะมีขนาดใหญ่แต่เป็นพรุที่เสื่อมโทรม ใช้ประโยชน์ไม่ได้ น่าจะมีการศึกษาหาวิธีการที่จะระบายน้ำในยามน้ำหลาก และเก็บกักน้ำไว้ใช้ทำการเพาะปลูกในยามหน้าแล้ง ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่นับหมื่นไร่ได้มีน้ำใช้ในฤดูแล้ง แล้วจึงเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร เพื่อวางแผนและมอบหมายให้กรมชลประทานดำเนินงานโครงการพรุ แฆแฆเพื่อประชาชนได้ใช้ประโยชน์ต่อไป

วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2536 เสด็จพระราชดำเนินไปยังมัสยิดกลางปัตตานี นายสัมพันธ์ ทองสมัคร รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ นายพลากร สุวรรณรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กราบบังคมทูลและเบิกตัวผู้นำศาสนาจาก 14 จังหวัดเข้าเฝ้า และทรงพระกรุณาฉายภาพร่วมกับผู้นำศาสนาอิสลาม


พสกนิกรชาวจังหวัดปัตตานีทุกหมู่เหล่า ทุกเชื้อชาติศาสนา ต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียน และพระราชทานแนวพระราชดำริ เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาสำคัญๆ ให้แก่จังหวัดปัตตานีมากมาย โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี เป็นพื้นที่ยังคงเกิดสถานการณ์ความไม่สงบ ทุกคนมีกำลังใจตั้งใจมุ่งมั่นและร่วมสืบสานพระราชปณิธาน ดำเนินชีวิตตามรอยเบื้องพระยุคลบาท น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนาน้อมนำคำสอนของพระองค์ อยู่อย่างพอเพียง มีความรักสามัคคี เผื่อแผ่ มีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ เป็นหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิต ตลอดจนทำความดีเพื่อพ่อของแผ่นดินตลอดไป

-------------------

ม.อ. ปัตตานี / แหล่งข้อมูล


ดวงเนตร จิวะรังสิมา สวท.ปัตตานี / เรียบเรียง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น