ข้าราชการสังกัดสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดยะลา
ชาว ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา หลังว่างจากงานประจำได้หันมาเลี้ยงกุ้งฝอย
ลงทุนไม่สูงเป็นอาชีพเสริมส่งขายไปทั่วประเทศ เป็นแห่งแรกในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีรายได้หลักหมื่นต่อเดือน
นายสัญชัย
มัดดา เปิดเผยว่า การเลี้ยงกุ้งฝอยจะไม่มีปัญหาเหมือนกับกุ้งชนิดอื่น เลี้ยงง่าย
ส่วนพันธุ์กุ้งก็จะหาได้ตามแหล่งธรรมชาติ ทั้งท้องนา บึง
ซึ่งจะเป็นกุ้งนาแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์นำมาเลี้ยง ใช้เวลาเพียง 6
เดือน ก็สามารถส่งจำหน่ายเป็นแม่พันธุ์ได้ทันที แต่ถ้าเป็นกุ้งที่นำไปบริโภค
ระยะเวลา 3 เดือน ก็สามารถส่งขาย และนำไปประกอบอาหารได้
โดยจะส่งไปจำหน่ายที่จังหวัดภูเก็ต , ตรัง , สงขลา , นราธิวาส , สุพรรณบุรี
, ชุมพร และจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามที่ลูกค้าสั่ง
ในราคาตัวละ 1 บาท
สำหรับอาหารกุ้งฝอยจะใช้ข้าวสวยที่หุงสุก
แล้วนำมาใส่ในตะกร้าเล็กแช่ลงไปในน้ำให้กุ้งฝอยกิน นอกจากนี้ก็จะต้องใส่ผักตบชวา
ผักบุ้ง ลอยในน้ำ เพื่อให้กุ้งได้หลบขึ้นมาหายใจ เพราะกุ้งเป็นสัตว์ที่ไม่มีปอด
โดยการลงทุนครั้งแรกใช้เงินประมาณ 3 พันบาท
ในการทำบ่อเท่านั้น
“ถ้าเกษตรกรรายใด
สนใจจะเลี้ยงกุ้งฝอย อันดับแรกก็จะต้องเตรียมบ่อขนาดความกว้างพอเหมาะ
วางไว้ในพื้นที่ว่างรอบบริเวณบ้าน ในส่วนของตนเองนั้นจะทำเป็นบ่อปูน
มีหลังคาปิดบังแดดและจะต้องปรับสภาพพื้นให้เรียบ อัดพื้นให้แน่นพร้อมทำระบบน้ำ
เมื่อเสร็จแล้วควรแช่น้ำไว้สักสองอาทิตย์เพื่อให้หมดค่าความด่างของปูน หลังจากนั้นก็ปล่อยน้ำทิ้งใส่น้ำอีกสองวัน
และเริ่มปล่อยแม่พันธ์กุ้งได้เลย น้ำที่ใช้ก็จะใช้ได้ทั้งน้ำบาดาลและน้ำประปา”
ส่วนปัญหาที่พบมักจะเป็นเรื่องน้ำ
ถ้ามีการควบคุมระบบน้ำไม่ดีจะทำให้บ่อน้ำเน่าเสีย และทำให้ตัวลูกพันธุ์ตายได้
นอกจากนี้ก็ยังมีปัญหาเรื่องการขนส่งไปยังลูกค้า
ขณะนี้มีแม่พันธุ์อยู่เป็นหมื่นตัวแล้ว
ต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือด้านการขนส่ง เนื่องจากในพื้นที่ 3
จังหวัดภาคใต้ การดูแลในเรื่องของการขนส่งค่อนข้างจะละเอียดจนเกินไป
ทำให้การขนส่งไปยังภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคเหนือ ทำได้ยาก ซึ่งจะทำให้เกษตรกรเสียโอกาสในการส่งแม่พันธุ์
หากมีภาครัฐมาช่วยเหลือในเรื่องของการขนส่งจะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดีขึ้นกว่านี้
หากลูกค้าสนใจสั่งซื้อกุ้งฝอย
สามารถติดต่อในเพจชื่อ “นาวา ฟาร์ม กุ้งฝอย” หรือติดต่อที่หมายเลข โทร.08-9732-9659
(บังมัด)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น