“ผมเป็นคนที่มีความเชื่อว่า...การที่จะรักตัวเองจะต้องพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีความสุข
จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้” เริ่มต้นประโยคของภาพยนตร์สั้นเรื่อง
“หลง(รัก)” ที่มีนัยยะบ่งบอกถึง “ความสุข”ที่หลายคนอาจไม่รู้ว่ามีอยู่จริงใน “ปัตตานี”แค่เพียงประโยคเริ่มต้นสั้น ๆ
กับมุมมองภาพของตัวละครที่กำลังเดินทางด้วยรถไฟเพียงลำพังก็สามารถึงดึงดูดใจผู้ชมให้รู้สึกอยากชมต่อแล้ว
ไม่แปลกเลยที่คลิปภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้จะได้รับการแชร์และรับชมกันอย่างล้นหลามผ่านสื่อโซเชี่ยลในขณะนี้...
วันนี้ข่าวภาคใต้ชายแดนจึงขอนำเรื่องราวเบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้มาฝากกันค่ะ
ขอเริ่มต้นจากที่มาของการประกวดภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้กันก่อน
ซึ่งมาจากกิจกรรมประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานีเชิงรุก “ปัตตานีมั่นใจ เที่ยวได้ทุกวัน” จัดขึ้นโดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี
ซึ่งมีกิจกรรมการประกวดแบ่งออกเป็น 4 ประเภทได้แก่ บทความ ภาพถ่าย ภาพยนตร์สั้น
และทูตท่องเที่ยว ซึ่งทั้ง 4
ประเภทได้รับความสนใจจากพี่น้องทั้งในจังหวัดปัตตานีและจังหวัดใกล้เคียงส่งผลงานเข้าประกวดเป็นจำนวนมาก
ทีมบูเดาะกราฟิก จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี
หนึ่งในทีมที่สนใจส่งผลงานภาพยนตร์สั้นเข้าประกวด
กับผลงานที่มีชื่อเรื่องว่า...หลง(รัก)และสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
ทีมข่าวภาคใต้ชายแดนได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องๆทีมบูเดาะกราฟิก
น้องๆกลุ่มนี้เป็นนักศึกษาแผนกวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิก ชั้นปวส.2 วิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี ประกอบด้วย 1.นายรอซดัน
อัลวาน 2.นายอามิน
เจ๊ะสะแลแม 3.นายซานูซี แวดอเล๊าะ 4.นายซุฟญัน
สาเมาะ และ 5 นายซุลกิฟลี สามะแอ และมีอาจารย์ที่ปรึกษาคือ
อ.ฮัสลี นิฮะ อาจารย์ประจำแผนกคอมพิวเตอร์กราฟิก
โดยนายรอซดัน อัลวาน
เล่าถึงที่มาและแรงบันดาลใจของผลงานชิ้นนี้ว่า “...ปกติผมและเพื่อนๆชื่นชอบเรื่องของการผลิตงานด้านสื่อทุกประเภทอยู่แล้ว
โดยเฉพาะเรื่องของการทำคลิปรีวิวท่องเที่ยวที่ผมและเพื่อนๆเคยร่วมกันทำลงสื่อโซเชี่ยลบ่อยครั้ง
และเมื่อได้เห็นป้ายประกาศว่ามีการประกวดภาพยนตร์สั้น หัวข้อ ปัตตานีมั่นใจ
เที่ยวได้ทุกวัน ผมและเพื่อนๆจึงสนใจและตัดสินใจสมัครอย่างไม่รีรอ
พวกผมเริ่มจากการตีความโจทย์ของแคมเปญ “ปัตตานีมั่นใจ
เที่ยวได้ทุกวัน” ผมสนใจคำว่า “มั่นใจ”
จึงตีความคำนี้ให้ออกมาในลักษณะการเดินทางเพียงลำพังของชายหนุ่มผู้ค้นหาดินแดนแห่งความสุข
แต่เรื่องการเดินทางมายังปัตตานีนั้นเป็นเรื่องที่ยากต่อการตัดสินใจของคนภายนอก
จึงเพิ่มเรื่องราวให้ออกมาในลักษณะการนั่งรถไฟหลงสถานี
จนได้มาเจอความสวยงามที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างที่เขาตามหา จนเกิดความหลงรักจังหวัดปัตตานีในที่สุด
นี่คือแนวคิดและที่มาของเรื่องนี้ครับ...”
นายอามิน
เจ๊ะสะแลแม เล่าถึงกระบวนการในการถ่ายทำว่า “...เมื่อเราได้บทภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แล้ว
สิ่งที่เราตั้งเป็นคอนเซปต์ของผลงานชิ้นนี้คือการเล่าเรื่องด้วยภาพ
เล่าด้วยมุมมองที่สวยงามของจังหวัดปัตตานีเสมือนเป็นการรีวิวผ่านการถ่ายภาพ
เช็คอิน และแฮชแท็ค “ปัตตานีมั่นใจ เที่ยวได้ทุกวัน” เมื่อทุกคนเข้าใจคอนเซปต์ที่ตรงกัน
เราก็เริ่มถ่ายทำโดยมีการวางแผนถ่ายทำในสถานที่ที่ใกล้และสะดวกที่สุดก่อน
ซึ่งอุปสรรคในการถ่ายทำมีมากมายเกินจะเล่า ทั้งลืมอุปกรณ์ สถานที่ไม่พร้อม
ไม่มีรถยนต์ในการขนอุปกรณ์ไปถ่ายทำในพื้นที่ต่างอำเภอ หรือสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ
ผมอยากจะบอกว่ามันถาโถมเข้ามาพร้อมๆกันจนทำให้รู้สึกเหนื่อย
แต่พวกเราก็ไม่ท้อและไม่คิดจะหยุดทำ พวกเราใช้เวลาในการลงพื้นที่ถ่ายทำกว่า 2 สัปดาห์ บางสถานที่ถ่ายแล้วกลับมาดูไฟล์ ไม่เป็นที่พอใจ
ก็ต้องกลับไปถ่ายใหม่ บางสถานที่ถ่ายใหม่ถึง 3 ครั้ง
ซึ่งการทำงานในครั้งนี้มันทำให้เราได้อะไรหลายๆอย่าง
ได้พบปะพูดคุยกับผู้คนในพื้นที่ที่เรายังไม่เคยไป
ได้เห็นมุมสวยๆอีกหลากหลายมุมของปัตตานีที่เรายังไม่เคยเห็น ได้ทำความเข้าใจกับอุปสรรคและเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาที่เข้ามา
ผมว่ามันคุ้มค่ามากๆ ไม่ใช่แค่เพียงเงินรางวัล หรือชื่อเสียงที่ได้รับ
แต่เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากห้องเรียน
ที่พวกได้ร่วมกันทำเพื่อจังหวัดที่เรียกว่าบ้านเกิด
(ปัตตานี)ให้เป็นที่รู้จักของคนภายนอก นี่แหละที่เป็นความภาคภูมิใจและคุ้มค่าที่สุดแล้วสำหรับผมกับเพื่อนๆ
นายรอซดัน อัลวาน
กล่าวต่อถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัล “...วินาทีที่มีสายโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าได้รับรางวัล พวกเราดีใจมาก
ผมอยากจะขอบคุณอาจารย์ฮัสลี นิฮะ อาจารย์ที่ปรึกษาในทุกๆเรื่อง และขอบคุณทุกๆคน
ทุกๆสถานที่ ที่ให้ความเอื้อเฟื้อช่วยเหลือพวกเราในการถ่ายทำ
ที่สำคัญขอบคุณวิทยาลัยอาชีวศึกษาที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้กับพวกเรา
เราโชคดีที่ได้มาเรียนแผนกวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิก
วิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานีที่มีการสนับสนุนและส่งเสริมให้นักศึกษาอย่างพวกเราได้ลงมือสร้างผลงานมาอย่างต่อเนื่อง
ทำให้พวกเรากล้าที่จะคิด กล้าที่จะลงมือทำ
พวกเราจะตั้งใจเรียนและมุ่งมั่นการสร้างสรรค์ผลงานต่อไปให้ทุกคนได้เห็น
ฝากติดตามผลงานของพวกเราด้วยครับ...”
ข่าวภาคใต้ชายแดนและน้องๆทีมบูเดาะกราฟิก
หวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นสื่อหนึ่งในการส่งต่อความมั่นใจให้กับคนภายนอกให้รู้สึกอยากมาเที่ยวปัตตานี
และเชื่อว่าจะเป็นสื่อหนึ่งที่จะนำพาความสุข
ความสงบร่วมเย็นกลับคืนสู่จังหวัดปัตตานีปลายด้ามขวานทองอย่างยั่งยืนในเร็ววัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น