วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

สัมผัสความงดงามของวัดคูหาภิมุข โบราณสถานเก่าแกกว่า 1,300 ปี ที่ชุมชนหน้าถ้ำ จ.ยะลา

         วัดถ้ำคูหาภิมุข ตั้งอยู่ที่ ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา  โบราณสถานกว่า 1,300 ปี ในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย ยังคงงดงามด้วยศิลปะสมัยโบราณ ที่รอให้บรรดานักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมาสัมผัส โดยในแต่ละวันพบว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพื่อกราบไหว้บูชาพระพุทธไสยาส หรือพระนอน ในสมัยอาณาจักศรีวิชัย ซึ่งมีอายุมากว่า 1,300 ปี ตั้งตระหง่านอยู่ภายในถ้ำ



          นายชัชพงศ์ เพชรกล้า ประธานสภาวัฒนธรรม ตำบลหน้าถ้ำ อ.เมือง จ. ยะลา กล่าวว่า วัดถ้ำนี้เป็นวัดเก่าแก่ ของจังหวัดยะลา อายุ 172 ปี สร้างเมื่อ พ.ศ. 2390 สมัยปลายรัชกาลที่ 3 ด้วยความเมตตาของเจ้าเมืองยาลอ หรือพระยาณรงค์ฤทธิ์ เป็นเจ้าเมืองยาลอคนที่ 4 ซึ่งมาตั้งเมืองอยู่ที่ท่าสาป จากนั้นก็ได้มีครอบครัวของชาวไทยพุทธประมาณ 10 ครัวเรือน ได้อพยพจากเมืองยะหริ่งเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้ และพบว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีถ้ำ โดยภายในถ้ำมีพระนอนเก่าแก่ในสมัยอาณาจักรศรีวิชัยอยู่ด้วย จึงขออนุญาตเจ้าเมือง ตั้งนกรากอยู่ที่นี่ และยังพบว่าเดิมทีในพื้นที่แห่งนี้ก็มีพี่น้องชาวไทยมุสลิมอาศัยอยู่ด้วย ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พื้นที่แห่งนี้จึงเป็นชุมชนพหุวัฒนธรรม อยู่กันสองวิถี คือพุทธและมุสลิม ต.หน้าถ้ำมี 4 หมู่บ้าน เป็นมุสลิม 2 หมู่ เป็นไทยพุทธ 2 หมู่ แต่ทุกคนสามารถอยู่ด้วยกันด้วยความสงบกันตั้งแต่โบราณ จนถึงทุกวันนี้



         โดยภาพรวมของตำบลหน้าถ้ำพบว่า มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหลายแห่งอาทิ วัดถ้ำคูหาภิมุข เป็นที่ประดิษฐษฯของพระนอน ศรีวิชัย คือพระพุทธไสยาสน์ จะอยู่ภายในถ้ำด้านบน ยาวประมาณ 25 เมตร สร้างในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยว อีกจุดหนึ่งซึ่งเป็น ไฮไลท์ของที่นี่เหมือนกันคือถ้ำมืดซึ่งที่บริเวณหน้าผาได้จารึกพระนามาภิไธย่อของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่มีคำย่อว่า ป.ป.ร. อีกจุดหนึ่งก็คือ ถ้ำศิลป์ ซึ่งมีความสูงมากถ้ำพระนอน และเป็นแหล่งโบราณ เป็นที่อยู่ที่อาศัยของคนในสมัย ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และยุคประวัติศาสตร์ ที่นั่นมีร่องรอยของภาพเขียนฝาผนัง แสดงถึงวิถีชีวิตของคน ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และยุคประวัติศาสตร์ ทั้งหมดนี้ก็ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลป์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางกรมศิลป์ได้มีแผนในการบูรณะปรับปรุงให้สถานที่เหล่านี้คงความงดงามอยู่คู่บ้านคู่เมืองตลอดไป



           นายชัชพงศ์ กล่าวอีกว่า ในปัจจุบันพบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น ทั้งนี้เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นในความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นที่น่าภูมิใจ เนื่องจากชาวพุทธของพื้นที่ ซึ่งนอกจากชาวไทยพุทธเดินทางมาท่องเที่ยวแล้วยังพบว่าพี่น้องชาวไทยมุสลิมก็เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน
           ด้าน นางสุนันท์ มหาสุวรรณ นักท่องเที่ยวจากจังหวัดสงขลา กล่าว่า ตนเองและคณะรู้สึกดีใจที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดยะลา และ ได้เข้ามาเยี่ยมวัดถ้ำแห่งนี้ ซึ่งเมื่อมาเที่ยวแล้วพบว่าบรรยากาศไม่เหมือนกับที่เป็นข่าว พอมาสัมผัสที่แห่งนี้จริงๆแล้ว ไม่มีความน่ากลัวอย่างที่คิด ประทับใจในสถานที่แห่งนี้มาก และได้มากราบไหว้ ร่วมทำบุญกับเพื่อนๆที่มาด้วยกัน และคิดว่าต้องกลับมาเที่ยว ณ ที่แห่งนี้อีกแน่นอน จึงอยากเชิญชวนพี่น้องทุกๆท่านทั่วประเทศเลย ให้มาสัมผัสด้วยตนเอง ว่า ยะลายังเหมือนเดิม ยะลายังเป็นเมืองที่น่าอยู่ และคนยะลาอัธยาศัยดีและน่ารักมากด้วย




           สำหรับวัดถ้ำคูหาภิมุขแห่งนี้ ปัจจุบัน ทางจังหวัดได้จัดทำเป็นแหล่งเที่ยว OTOP นวัติวิถี โดยประชาชนในพื้นที่ได้ ร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดกิจกรรมในวันสำคัญต่าง ๆ เช่นพิธีห่มผ้าพระนอน และ ห่มผ้าพ่อท่านบรรทม ในวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี ซึ่งจะมีบรรดาลูกหลานและญาติๆ ของชาวตำบลหน้าถ้ำ ตลอดจนพุทธศาสนิกชนที่สนเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ประเพณีเดือนสิบ ชิงเปรต ประเพณีแก้บน 100 ปี ประเพณีตักบาตรเทโว หากนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวในสถานที่แห่งนี้ได้ ซึ่งการเดินทางมีความสะดวกสบายห่างจากตัวเมืองยะลาประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 10 นาที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น