นายชัชพงศ์ เพชรกล้า ประธานสภาวัฒนธรรม
ตำบลหน้าถ้ำ อ.เมือง จ. ยะลา กล่าวว่า วัดถ้ำนี้เป็นวัดเก่าแก่ ของจังหวัดยะลา
อายุ 172 ปี สร้างเมื่อ พ.ศ. 2390 สมัยปลายรัชกาลที่ 3 ด้วยความเมตตาของเจ้าเมืองยาลอ หรือพระยาณรงค์ฤทธิ์
เป็นเจ้าเมืองยาลอคนที่ 4 ซึ่งมาตั้งเมืองอยู่ที่ท่าสาป
จากนั้นก็ได้มีครอบครัวของชาวไทยพุทธประมาณ 10 ครัวเรือน
ได้อพยพจากเมืองยะหริ่งเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้ และพบว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีถ้ำ
โดยภายในถ้ำมีพระนอนเก่าแก่ในสมัยอาณาจักรศรีวิชัยอยู่ด้วย จึงขออนุญาตเจ้าเมือง
ตั้งนกรากอยู่ที่นี่ และยังพบว่าเดิมทีในพื้นที่แห่งนี้ก็มีพี่น้องชาวไทยมุสลิมอาศัยอยู่ด้วย
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พื้นที่แห่งนี้จึงเป็นชุมชนพหุวัฒนธรรม อยู่กันสองวิถี
คือพุทธและมุสลิม ต.หน้าถ้ำมี 4 หมู่บ้าน เป็นมุสลิม 2 หมู่ เป็นไทยพุทธ 2 หมู่
แต่ทุกคนสามารถอยู่ด้วยกันด้วยความสงบกันตั้งแต่โบราณ จนถึงทุกวันนี้
โดยภาพรวมของตำบลหน้าถ้ำพบว่า
มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหลายแห่งอาทิ วัดถ้ำคูหาภิมุข
เป็นที่ประดิษฐษฯของพระนอน ศรีวิชัย คือพระพุทธไสยาสน์ จะอยู่ภายในถ้ำด้านบน
ยาวประมาณ 25 เมตร สร้างในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยว
อีกจุดหนึ่งซึ่งเป็น
ไฮไลท์ของที่นี่เหมือนกันคือถ้ำมืดซึ่งที่บริเวณหน้าผาได้จารึกพระนามาภิไธย่อของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 7 ที่มีคำย่อว่า ป.ป.ร. อีกจุดหนึ่งก็คือ ถ้ำศิลป์
ซึ่งมีความสูงมากถ้ำพระนอน และเป็นแหล่งโบราณ เป็นที่อยู่ที่อาศัยของคนในสมัย
ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และยุคประวัติศาสตร์ ที่นั่นมีร่องรอยของภาพเขียนฝาผนัง
แสดงถึงวิถีชีวิตของคน ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และยุคประวัติศาสตร์
ทั้งหมดนี้ก็ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลป์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางกรมศิลป์ได้มีแผนในการบูรณะปรับปรุงให้สถานที่เหล่านี้คงความงดงามอยู่คู่บ้านคู่เมืองตลอดไป
นายชัชพงศ์ กล่าวอีกว่า
ในปัจจุบันพบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น
ทั้งนี้เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นในความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นที่น่าภูมิใจ
เนื่องจากชาวพุทธของพื้นที่
ซึ่งนอกจากชาวไทยพุทธเดินทางมาท่องเที่ยวแล้วยังพบว่าพี่น้องชาวไทยมุสลิมก็เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน
ด้าน นางสุนันท์ มหาสุวรรณ
นักท่องเที่ยวจากจังหวัดสงขลา กล่าว่า
ตนเองและคณะรู้สึกดีใจที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดยะลา และ
ได้เข้ามาเยี่ยมวัดถ้ำแห่งนี้
ซึ่งเมื่อมาเที่ยวแล้วพบว่าบรรยากาศไม่เหมือนกับที่เป็นข่าว
พอมาสัมผัสที่แห่งนี้จริงๆแล้ว ไม่มีความน่ากลัวอย่างที่คิด
ประทับใจในสถานที่แห่งนี้มาก และได้มากราบไหว้ ร่วมทำบุญกับเพื่อนๆที่มาด้วยกัน
และคิดว่าต้องกลับมาเที่ยว ณ ที่แห่งนี้อีกแน่นอน
จึงอยากเชิญชวนพี่น้องทุกๆท่านทั่วประเทศเลย ให้มาสัมผัสด้วยตนเอง ว่า
ยะลายังเหมือนเดิม ยะลายังเป็นเมืองที่น่าอยู่
และคนยะลาอัธยาศัยดีและน่ารักมากด้วย
สำหรับวัดถ้ำคูหาภิมุขแห่งนี้
ปัจจุบัน ทางจังหวัดได้จัดทำเป็นแหล่งเที่ยว OTOP นวัติวิถี
โดยประชาชนในพื้นที่ได้
ร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดกิจกรรมในวันสำคัญต่าง ๆ
เช่นพิธีห่มผ้าพระนอน และ ห่มผ้าพ่อท่านบรรทม ในวันที่ 13
เมษายน ของทุกปี ซึ่งจะมีบรรดาลูกหลานและญาติๆ ของชาวตำบลหน้าถ้ำ
ตลอดจนพุทธศาสนิกชนที่สนเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ประเพณีเดือนสิบ ชิงเปรต
ประเพณีแก้บน 100 ปี ประเพณีตักบาตรเทโว
หากนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวในสถานที่แห่งนี้ได้
ซึ่งการเดินทางมีความสะดวกสบายห่างจากตัวเมืองยะลาประมาณ 7
กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 10 นาที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น