การเข้ามาสัมผัสพื้นที่หมู่บ้านแห่งนี้
สิ่งแรกที่เห็นคือ ความสะอาด
และความร่มรื่นของผืนป่าและต้นไม้ที่มีอยู่เต็มพื้นที่ตลอด2ข้างทาง
ถนนสะอาดเพราะการแบ่งกลุ่มทำความสะอาด
ลูกบ้านทุกครัวเรือนมีส่วนร่วมกับการรักษาความสะอาดพื้นที่สาธารณะที่เป็นพื้นที่ส่วนรวมของทุกคน อาชีพหลักของคนที่นี่คือการทำสวน
ปลูกผัก กรีดยาง โดยเน้นการเกษตรแบบปลอดสารพิษ “การกินอิ่ม”ของที่นี่ คือ
รอบรั้วของชาวบ้านจะเต็มไปด้วยพืชผัก เลี้ยงสัตว์
เลี้ยงปลาที่ปลอดสารพิษเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่เมื่อใกล้ถึงมื้ออาหาร
ก็ออกมาจัดหาวัตถุดิบที่มีอยู่รอบบ้านไปประกอบอาหาร เงินทองจากอาชีพเกษตรกรจึงแทบจะไม่นำออกมาใช้จ่าย
จึงไม่แปลกใจเมื่อผู้ใหญ่ 4 ว.บอกว่า ที่นี่มีกลุ่มออมทรัพย์
จำนวน 8 กลุ่ม รวมเงินฝากสะสมมากกว่า 60 ล้านบาท ที่สามารถดูแล
สนับสนุนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของสมาชิกในทุกครอบครัวตั้งแต่เกิด วัยเรียน
วัยทำงาน วัยสูงอายุ จนเสียชีวิต และแม้รายได้จากการทำการเกษตรจะมีไม่มากนัก
แต่เพราะที่นี่ส่งเสริมให้ทุกคนรักการออม
เก็บเล็กผสมน้อยเท่าที่มีจากรายได้ที่แทบไม่มีรายจ่ายทำให้หลายครอบครัวมีเงินเก็บหลักแสนถึงหลักล้าน
และหากต้องการกู้เงิน ก็สามารถยื่นกู้ในกลุ่มออมทรัพย์ โดยไม่ต้องไปใช้บริการธนาคารพาณิชย์
หรือเงินกู้นอกระบบใดๆ
อีกทั้งยังมีการบริหารกองทุนอย่างเข้มแข็งในรูปแบบคณะกรรมการซึ่งมีวาระไม่เกิน 2ปี
และหมุนเวียนให้คนในหมู่บ้านได้มีโอกาสเข้ามาบริหารเงินกองทุนนี้โดยไม่มีการผูกขาดจากใคร
ในขณะที่ในด้านการสร้างสังคมพหุวัฒนธรรม
“แตกต่างแต่ไม่แตกแยก” ที่มีนายอาแซ
นิโด ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายการศึกษาและวัฒนธรรมเป็นผู้รับผิดชอบหลัก “ที่นี่ถือว่ามีความโดดเด่นในการสร้างการยอมรับในความต่างของศาสนา
สิ่งทีเห็นในเชิงประจักษ์คือ เมื่อมีงานบุญหรือกิจกรรมของส่วนรวมของพี่น้องไทยพุทธ
กลุ่มพี่น้องมุสลิมก็จะไปร่วมงานและช่วยงานกันเต็มกำลัง เมื่อถึงคราวงานบุญของพี่น้องมุสลิม
พี่น้องชาวไทยพุทธก็พร้อมไปช่วยเหลือโดยไม่จำเป็นต้องร้องขอ
สิ่งที่เห็นจนชินตาของคนที่นี่คือโรงครัวของอิสลามที่มักจะไปตั้งที่วัดน้ำขาวยะกาเพื่อให้บริการผู้มาเยือนอยู่บ่อยครั้ง” อายุสูงสุดของประชาชนในหมู่บ้านแห่งนี้
อยู่ที่ 99 ปี ทุกวันที่ 20
ของทุกเดือนลูกบ้านจะต้องตรวจสุขภาพด้วยปิงปอง 7 สี
ที่แบ่งระดับของความรุนแรงของโรค ทำให้ส่วนใหญ่มักตรวจพบอาการก่อนที่จะป่วยหนัก
โดยมีระบบส่งต่อที่เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลและโรงพยาบาลทำให้มีระบบส่งต่อที่มีประสิทธิภาพ
กลับออกมาจากหมู่บ้านแห่งนี้ด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
สุขที่ได้เห็นคนที่นี่มีความสุขจากระบบการบริหารจัดการที่เป็นระบบและมีความเป็นเอกภาพจากผู้ใหญ่บ้านนักพัฒนาและพลังความสามัคคีของคนในหมู่บ้าน
ที่ทำให้ทุกคนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างเข้มแข็งโดยไม่ต้องเป็นมือล่างที่รอคอยความช่วยเหลือจากใคร
หากมีโอกาสก็อยากจะเก็บกระเป๋าย้ายไปเป็นลูกบ้านของบ้านน้ำขาวยะกาดูบ้าง
เผื่อจะได้มีเงินเก็บเป็นกอบเป็นกำเช่นเดียวกับคนที่นี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น