ชาวลำพะยา
อ.เมืองยะลา ปลื้มใจ! พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทรงดำริสร้างฝายกักเก็บน้ำ
ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ให้ได้มีแหล่งน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรแบบยั่งยืน
พร้อมเผยจะหากษัตริย์พระองค์ใดเปรียบเสมือน “ในหลวง
รัชกาลที่ 9” มิได้อีกแล้ว
ที่
ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา
ก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทรงเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรฝายกักเก็บน้ำ ที่ได้ทรงดำริให้สร้างขึ้น
เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ให้ได้มีแหล่งน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรแบบยั่งยืน
โดยมีภาพถ่ายขณะที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ได้เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ทรงเสด็จมาเยี่ยมพสกนิกร เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2523
โดยครั้งนั้นการเสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรฝายกักเก็บน้ำ
ที่ได้ทรงดำริให้สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ในระยะยาวของพสกนิกร ในพื้นที่ ต.ลำพะยา ซึ่งส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเกษตรกรรม
ทำไร่ ทำนา ทำสวน จากนั้นจึงได้เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมพสกนิกรที่เฝ้ารอรับเสด็จ
ที่วัดสิริปุณณาราม หรือวัดลำพะยา ตามภาพถ่ายที่ได้บันทึกเอาไว้
นายยูโซะ
สาและ อายุ 70 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ลำพะยา
ซึ่งอดีตเคยเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านหนุ่น เล่าให้ฟังว่า
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ได้ทรงดำริให้มีการจัดสร้างฝายเก็บน้ำ
เพื่อประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่
โดยเมื่อตอนที่พระองค์ได้เสด็จมาทอดพระเนตรที่ฝาย ก็รู้สึกดีใจที่พระองค์จะเสด็จมา
เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะเป็นไปได้ที่พระมหากษัตริย์จะเสด็จไปยังพื้นที่ต่างๆ
โดยตนเองก็ได้เข้ารับเสด็จในครั้งนั้นด้วย
ขณะที่พระองค์ทรงเสด็จมายังฝายเก็บน้ำ ก็ทรงได้ทอดพระเนตรภูมิศาสตร์โดยรอบ
พร้อมทั้งมีพระราชดำรัสให้ทางชลประทานยะลา ดำเนินการสร้างฝายกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ขึ้นอีก
เพราะทรงเล็งเห็นผลประโยชน์แล้วว่า
ฝายที่ทรงดำริให้จัดสร้างขึ้นในครั้งนี้จะสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ชาวบ้านอีกนับร้อยชีวิต
ซึ่งหลังจากที่ฝายกักเก็บน้ำบ้านหนุ่น
ได้สร้างเสร็จ ประชาชน เกษตรกรในพื้นที่ก็ได้รับประโยชน์มากมาย
เพราะเมื่อก่อนนั้นตอนที่ยังไม่มีฝาย การทำนา
ทำการเกษตรในแต่ละปีชาวบ้านเองต้องไปทำนบกั้นน้ำตามมีตามเกิด
แต่ภายหลังจากพระองค์ท่านดำริให้จัดสร้างฝายแห่งนี้แล้ว
ประชาชนที่มีอาชีพเกษตรกรก็ได้รับประโยชน์อย่างล้นหลาม แต่ ณ ตอนนี้ก็เกิดปัญหาน้ำขาดแคลนจากความแห้งแล้งจากการตัดไม้ทำลายป่า
นายยูโซะ
สาและ กล่าวอีกว่า
ตนเองรู้สึกเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ไม่อยากให้พระองค์ท่านจากไป ตนเองมองว่าไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดที่มีชีวิตอย่างในหลวง
พระองค์ทรงปฏิบัติอย่างเสมอภาค ถือว่าประชาชนเป็นคนของในหลวงทุกคน
แต่กลุ่มคนบางกลุ่มกลับลืมคิดว่า เราเองเป็นคนของในหลวง
แม้พระองค์ท่านจะทรงดำริสอนอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้นำมาคิดทบทวน
จะหากษัตริย์พระองค์ใดเปรียบเสมือนพระองค์ในโลกนี้ไม่ได้อีกแล้ว
ทั้งนี้
โครงการฝายพระราชดำริ ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา ได้มีการสำรวจพื้นที่เมื่อปี 2515
โดยใช้พื้นที่ราชพัสดุ หมู่ที่ 2 ต.ลำพะยา ซึ่งเคยเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์
จัดสร้างเป็นฝายเก็บน้ำ โดยให้ชลประทานยะลา เป็นผู้รับผิดชอบ
โดยตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมในพื้นที่ได้ใช้สอยน้ำไม่น้อยกว่า
550 ไร่
แต่หลังจากสร้างฝายเสร็จ
เมื่อปี 2523 และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ได้เสด็จมาทอดพระเนตรโครงการ ก็ทรงดำริให้จัดสร้างฝายเก็บน้ำขนาดใหญ่ขึ้นอีก 1
แห่ง แต่ก็ยังไม่ได้มีการเริ่มก่อสร้าง เนื่องจากปัญหาการครอบครองที่ดินในพื้นที่
โดยในปัจจุบันฝายเก็บน้ำลำพะยา มีเกษตรกรได้รับประโยชน์มากถึง 4,600
ไร่
----------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น