นายโกเมศ คงประสิทธ์
หัวหน้าโครงการศึกษาศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนยะหริ่ง กล่าวว่า
เป็นโครงการพระราชดำริ เกิดขึ้นโดยเพื่อสนองพระราชดำริ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี
ของพระองค์ท่านโดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิชัยพัฒนามูลนิธิแม่ฟ้าหลวง
และมูลนิธิโททาลและประสานงานโดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
(กปร.) ได้จัดตั้งโครงการศูนย์เมื่อปีพ.ศ 2539 ได้ก่อสร้างโครงการการนี้ขึ้น
ทั้งอาคารสำนักงาน สะพานศึกษาธรรมชาติระยะทาง 1,250 เมตร และหอดูนก มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์คุ้มครองป่าชายเลนเพื่อให้มีภาพสมบูรณ์ทั้งของพื้นที่ที่โครงการและพื้นที่ใกล้ๆ
ซึ่งโครงการนี้อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าชายเลนยะหริ่ง จำนวนพื้นที่รวม 500
ไร่ ตั้งอยู่ที่ริมคลองยามู
ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมามีคณะนักเรียนนักศึกษาและประชาชนที่เข้ามาเยี่ยมชมจำนวนมากกว่า
20,000
คนโดยส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนนักศึกษาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
มีเจ้าหน้าที่ในการพาเยี่ยมชม ขั้นแรกเจ้าหน้าที่จะให้ความรู้ขั้นพื้นฐานในห้องประชุมและมีเจ้าหน้าที่พาเยี่ยมชมไปยังสะพานศึกษาธรรมชาติ
ทั้งสัตว์ป่า พันธุ์พืช ป่าชายเลน ระบบนิเวศต่างๆ
ในโครงการนี้ใช้ชุมชนมามีส่วนร่วมด้วย
ชุมชนจะอยู่รอบๆป่ามีส่วนในการดูแลป้องกันการบุกรุกต่างๆ
ชุมชนจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยวที่ผ่านเข้ามาเยี่ยมชม
และมีกลุ่มชาวบ้านตั้งกลุ่มนำเที่ยวในการเยี่ยมชมป่าชายเลน ดูนก ดูปลา
ดูวิถีชีวิตของชาวบ้านครบวงจร
ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจประชาชนชาวบ้านทุกๆท่านมาเยี่ยมชมป่าชายเลนโดยไม่มีการเก็บค่าใช้จ่าย
เยี่ยมชมฟรีเวลาทำการจันทร์-ศุกร์ เจ้าหน้าที่จะมีความพร้อมในการให้ความรู้และการนำเยี่ยมชมศึกษาธรรมชาติมาเรียนรู้และพักผ่อนหย่อนใจ
ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ คือ ลิงแสม มีจำนวนหลาย 100 ตัว เป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจ
นางมารียัม สาเฮาะ
นักวิชาการเผยแพร่ประจำโครงการศูนย์การศึกษาป่าชายเลนยะหริ่ง กล่าวว่า ที่นี่จะมีพันธุ์ไม้ที่เด่นๆ
ในป่าชายเลนก็ คือต้นโกงกางใบเล็ก ตะบูนดำ ตาตุ่มทะเล ต้นโปรง เป็นต้น
พันธุ์ไม้จะเป็นสมุนไพร เช่น ต้นโกงกางใบเล็ก
ใบเอามาพอกแผลเป็นการห้ามเลือดโดยธรรมชาติเป็นการปฐมพยาบาล
ต้นเป้งเอายอดมาต้มแก้ท้องเสีย และพันธุ์ไม้พื้นล่าง ต้นเหงือกปลาหมอดอกสีขาว
เป็นสมุนไพรเอาทั้งใบ ราก ผล ดอก มาต้มแก้โรคผิวหนัง
สัตว์ที่มีประโยชน์ชนิดหนึ่งก็คือแม่หอบเป็นสัตว์ 3 ชนิดอยู่ในตัวเดียวกัน หัวเหมือนกุ้ง
ตัวเหมือนกั้ง ก้ามเหมือนปู วิถีชาวบ้านบอกว่าสามารถรักษาโรคหอบได้ วิธีการคือ
เอาตัวที่เหมือนกั้งมาต้ม ตากแดด บดผสมกับน้ำผึ้ง กินเช้าช้อนเย็นช้อน
รักษาโรคหอบได้ เป็นสมุนไพรของชาวบ้านแต่ทางการแพทย์ยังไม่รับรอง
อยากจะฝากน้องๆคนที่สนใจมาเที่ยวชมป่าชายเลนป่าชายเลนเป็นป่าที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศ
ป่าเขียวขจีอยู่ตลอดอยู่ใกล้ชุมชนแต่ความสมบูรณ์ยังมีอยู่
น.ส.อาตีกะฮ์ ปูเตะ
เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปโครงการ กล่าวว่า
ที่นี่จะมีเกี่ยวกับธรรมชาติพันธุ์ไม้ในป่าชายเลน สัตว์ มีสะพานเส้นทางเดินศึกษา
มีต้นโกงกางใบเล็กเป็นพืชเด่นของที่นี่ แสมดํา ตาตุ่ม เป็นต้น การใช้ประโยชน์
เช่นตาตุ่มทะเลจะมีทั้งโทษและประโยชน์เวลาเราท้องผูกสามารถเอายาหยด 2 -3
หยดเป็นยาระบายอ่อนๆแต่ถ้าเยอะเกินไปจะเป็นยาขับถ่ายอย่างรุนแรงโดยรวมแล้วที่นี้จะเป็นแหล่งกำบังลมพายุจะต้านลมแรง
เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำเข้ามาวางไข่ที่นี่พอลูกปลาสามารถหากินเองได้ก็จะออกไปสู่ทะเล
ในส่วนของสัตว์ที่นี่จะมีลิงแสมเยอะที่สุดอยู่กันเป็นฝูงๆละ 30 -40
ตัว เมื่อก่อนจะมีคางแว่น 3-4
ตัว แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วอพยพไปที่อื่นเพราะเข้ากับลิงแสมไม่ได้
ที่นี่เป็นป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดในภาคใต้
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนยะหริ่ง
แห่งนี้มีทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลยเป็นสะพานที่สร้างด้วยไม้ตะเคียนทอง
เป็นระยะทางยาวโดยรอบ 1,250
เมตร
ตลอดเส้นทางเดินโดยรอบจะเห็นกลุ่มไม้ในสังคมป่าชายเลนทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้เถา
และไม้พื้นล่าง และมีซุ้มสื่อความหมายอธิบายเกี่ยวกับป่าชายเลน
พร้อมมีรูปภาพประกอบและยังมีสะพานทางเดินไม้ยกระดับ ศาลาพักผ่อน และหอชมนก
เพื่อชมทัศนียภาพเหนือยอดของพันธุ์ไม้ป่าชายเลน
นอกเหนือจากการเดินศึกษาป่าชายเลนตามเส้นทางเดิน แล้วยังมีการล่องเรือชมป่า
ชายเลนซึ่งจัดเป็นกิจกรรมหนึ่งของศูนย์ฯ
นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมธรรมชาติป่าชายเลน ตามลำคลองน้อยใหญ่ซึ่งแบ่ง เป็น 3 สายคือคลองบางปู
คลองกลาง คลองกอและ ตลอดสองฝั่งคลองจะเห็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์
ความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำ นกนานาชนิด
วิถีชีวิตของชาวบ้านกับป่าชายเลนและความสวยงามของสวนป่าโกงกาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น