นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
(ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมฟื้นฟูป่าต้นน้ำและการจัดการน้ำแบบมีส่วนร่วม
บูโด-กะพ้อ เพื่อชุมชนยั่งยืน ภายใต้กิจกรรมอนุรักษ์เฝ้าระวัง ฟื้นฟู
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โครงการพัฒนาเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.)
จังหวัดปัตตานี ที่บ้านเจาะกะพ้อใน ตำบลตะรุบี อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี
โดยมีนายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี นายดนยา สะแลแม
ประธานเครือข่าย ทสม.จังหวัดปัตตานี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ บูโด-สุไหงปาดี
หัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม นอกจากานี้
รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ
“การฟื้นฟูป่าต้นน้ำ..ชุมชนได้ประโยชน์อย่างไร” อีกด้วย
นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า
รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญมางานดี ๆ
ที่เป็นความตั้งใจและได้มาสัมผัสธรรมชาติสิ่งแวดล้อมในที่แห่งนี้
สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่า คือ การได้มาพบปะพี่น้องประชาชน นักเรียน
ที่จะเป็นอนาคต
เป็นเครือข่ายอาสาสมัครในการเข้ามาดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
อยากให้ลูกหลานหรือน้อง ๆ ได้เข้ามาสัมผัสและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติ
ซึ่งต้องเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน น้ำถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญ
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดความอุดสมบูรณ์ด้วยน้ำ
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกจำเป็นต้องใช้น้ำ
หมู่บ้านแห่งนี้เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่โชคดีที่ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำ หัวใจสำคัญคือเราจะต้องอนุรักษ์
ฟื้นฟู น้ำที่มีอยู่คู่พื้นที่ให้ดีที่สุด ใช้น้ำที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ที่สุด
ขอชื่นชมและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนโดยเฉพาะลูก ๆ
เยาวชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนี้
นายดนยา สะแลแม ประธานเครือข่าย ทสม.จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า
นอกจากการทำฝายเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำแล้ว
กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการบอกต่อในเรื่องการเรียนรู้ของชุมชนโดยเฉพาะเรื่องการจัดการน้ำ
ซึ่งจะเห็นได้ว่าในครั้งนี้มีเด็ก เยาวชน นักเรียน ประชาชน
และหน่วยงานในพื้นที่ทุกภาคส่วนมาร่วมกันสร้างฝายมีชีวิต เนื่องจากน้ำมีความเกี่ยวข้องการกับการดำรงชีวิตของทุกคน
ไม่ใช่แค่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
กิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการจุดประกายกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนทุกภาคส่วน
ในการร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในพื้นที่ ที่สำคัญ คือ เด็ก ๆ
ลูกหลานในพื้นที่ต้องมาเรียนรู้และร่วมกันอนุรักษ์
รวมทั้งต้องปลูกฝังให้เห็นคุณค่าของน้ำอีกด้วย
ด้าน นางสาวยุวธิตา สาเมาะ นักเรียนโรงเรียนวังกะพ้อพิทยาคม อำเภอกะพ้อ
จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า
วันนี้ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันทำฝายกับทุกคนในพื้นที่
รวมทั้งได้ร่วมปล่อยปลาและปลูกต้นไม้ ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฟื้นฟูพื้นที่
ที่เป็นบ้านเกิด และมีความภาคภูมิใจที่พื้นที่แห่งนี้ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์
ในอนาคตหากคนในชุมชนร่วมมือกัน
เชื่อว่าพื้นที่แห่งนี้จะยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ต่อไป
และขอฝากให้คนที่จะมาท่องเที่ยวในพื้นที่ช่วยกันดูแลและรักษาความสะอาด เพื่อป้องกันการทำลายสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศ
และเพื่อให้คนในพื้นที่สามารถใช้น้ำจากฝายดังกล่าวได้อย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับกิจกรรมฟื้นฟูป่าต้นน้ำและการจัดการน้ำแบบมีส่วนร่วม บูโด-กะพ้อ
เพื่อชุมชนยั่งยืนในครั้งนี้ เกิดขึ้นสืบเนื่องจากการสำรวจจัดเก็บข้อมูลบ้านเจาะกะพ้อใน
ตำบลกะรุบี อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี เพื่อเฝ้าระวังภัยพิบัติของชุมชน
ร่วมกับเครือข่าย ทสม.จังหวัดปัตตานี พบว่าในช่วงฤดูฝนมีปริมาณน้ำหลากจากป่าต้นน้ำ
บูโด-กะพ้อ ท่วมพื้นที่บ้านเจาะกะพ้อใน
ส่งผลให้เกิดการชะล้างและพังทลายหน้าดินอย่างฉับพลัน ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้
ส่วนในช่วงฤดูแล้งประสบปัญหาปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร
ส่งผลให้สวนไม้ผลของชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นพื้นที่กว้าง
และจากกการประชุมหารือเพื่อฟื้นฟูป่าต้นน้ำของแกนนำชุมชน
ร่วมกับภาคีหน่วยงานต่าง ๆ ที่ประชุมได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว
จึงได้จัดกิจกรรม “ฟื้นฟูป่าต้นน้ำและการจัดการน้ำแบบมีส่วนร่วม บูโด-กะพ้อ
เพื่อชุมชนยั่งยืน” ขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 สิงหาคม 2561 เพื่ออนุรักษ์
ฟื้นฟูป่าต้นน้ำที่สำคัญของชุมชน
รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชุมชน
มีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 230 คน โดยกิจกรรมประกอบด้วย
การจัดแสดงนิทรรศการของส่วนราชการและเครือข่ายภาคประชาชน และการจัดทำฝายชะลอน้ำ
หรือฝายมีชีวิต จำนวน 1 ฝาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น