นับตั้งแต่ประเทศไทยมีการประกาศใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
(พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) จังหวัดนราธิวาสจึงได้นำมาบังคับใช้ประกอบกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนราธิวาสได้ออกคำสั่งเพื่อกำหนดมาตรการในการควบคุมพื้นที่เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อาทิ การกำหนดพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019
การใช้มาตรการฉุกเฉินระงับการเดินทางเข้าออกของพาหนะต่างๆในจังหวัดนราธิวาส
ไม่เพียงเท่านั้นการเดินทางเข้าออกทางบก ผ่านด่านถาวรริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก
จุดผ่อนปรน และท่าข้าม ช่องทางธรรมชาติตลอดแม่น้ำสุไหงโก-ลกที่เชื่อมโยงทั้ง3อำเภอก็ถูกปิดกั้นด้วยกฎหมายอย่างเข้มงวดทำให้การเดินทางเข้าออกทั้งเพื่อการค้าและการท่องเที่ยวปิดตายมาตลอดหลายวันติดต่อกัน
ขณะที่การค้าขายในพื้นที่ก็ต้องมีข้อจำกัด
ที่ทำให้สถานประกอบการที่มีมวลชนมารวมตัวกัน
หรือมีความเสี่ยงในการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ถูกปิดตัวลง
ส่วนร้านอาหารก็รับได้เพียงลูกค้าที่มาซื้ออาหารและสินค้าต่างๆไม่สามารถนั่งพบปะสังสรรค์กันอย่างที่เป็นมา
นางกัญญาลักษณ์ ทองพันช่าง
ร้านน้องแก้มโอดิบกล่าวว่า ยอดจำหน่ายหายไปมากกว่า 50เปอร์เซ็นต์ ทางร้านจึงต้องปรับตัว
ลดจำนวนวัตถุดิบลง และเพิ่มบริการส่งถึงบ้าน ซึ่งแม้ได้รับผลกระทบหนักแต่ก็ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ
เพราะหากควบคุมการแพร่ระบาดได้ทุกคนจะปลอดภัย
ขณะที่นางพิมพ์ผกา นกเส้ง ร้านครัวนายพล ระบุ
ทางร้านยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ยอมรับว่ายอดจำหน่ายลดลงเกิน50เปอร์เซ็นต์
เพราะหากนั่งที่ร้านอย่างน้อยต่อโต๊ะประมาณ 300บาทขึ้นไป
แต่เมื่อสั่งกลับบ้านก็จะสั่งเป็นแกวถุง หรือ อาหารเพียงชุดเดียว
ซึ่งราคาจำหน่ายอยู่ที่ 100-200บาทเท่านั้น
ด้านนายแวอาลี แวดือรามันห์
บังลีวินเทจ ที่มักมีลูกค้าหลายกลุ่มวัยมารับประทานโรตีกับชาร้อน พร้อมกับชมบรรยากาศการจัดวางของเก่าที่มีคุณค่าทางจิตใจของสะสมของทางร้าน
ก็ให้ความร่วมมือปิดร้านทันทีที่มีคำสั่งออกมา พร้อมระบุว่า
รู้ว่าเปิดขายเฉพาะหน้าร้านยอดจำหน่ายจะหายไปมากกว่า 50
เปอร์เซ็นต์ แต่การให้ความร่วมมือ เพื่อให้ควบคุมการแพร่ระบาดมีประสิทธิภาพ
และพื้นที่จังหวัดนราธิวาสปลอดภัยสำหรับทุกคนโดยเร็วเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกคนควรตระหนักและให้ความสำคัญ
ซึ่งทางร้านรู้สึกภูมิใจที่ได้ให้ความร่วมมือกับทางราชการ
แม้เป็นเพียงส่วนเล็กๆแต่ก็คาดหวังว่าพลังความร่วมมือจากทุกคนจะช่วยปกป้องพื้นที่ได้
ในวันที่ 28 มี.ค.63 ยอดผู้ป่วยสะสมที่จังหวัดนราธิวาส จำนวน 8 ราย
รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 6 ราย
กลับบ้านแล้ว 1 รายและเสียชีวิต1 ราย
ไม่พบเชื้อ 166 ราย
หากเทียบกับพื้นที่จังหวัดข้างเคียง และประเทศเพื่อนบ้านยังถือว่าน้อยมาก
แต่เพราะความมุ่งมั่นตั้งใจของคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข
โรคและภัยสุขภาพจังหวัดนราธิวาส และคณะทำงานของอำเภอสุไหงโก-ลก และ
และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ปฏิบัติตามมาตรการที่นำมาใช้ควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด
ความเงียบเหงาที่เกิดขึ้นในวันนี้จึงเป็นเหมือนความหวังของทุกคนว่านี่คือแนวทางที่ดีที่สุดที่พวกเราจะปกป้องพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลกให้ปลอดภัยของไวรัสโควิด-19
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น