ส่วนเรื่องการนำผ้าซับน้ำมาประกอบในการทำกระเป๋า
ตามที่นายกรัฐมนตรีแนะนำ ทางสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนราธิวาส
จะเป็นผู้ดำเนินการเข้ามาแนะนำส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายหลัก 12
ด้านของรัฐบาล ด้านที่ 5 การพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก รัฐบาลให้ความสำคัญกับชุมชนในการนำความรู้และทรัพยากรในพื้นที่มาผลิตเป็นสินค้าและบริการ
เพื่อเพิ่มศักยภาพของเศรษฐกิจฐานรากให้สามารถสร้างรายได้ กระจายรายได้สู่ชุมชน
สนับสนุนสินค้าชุมชน และยกระดับวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็ง
โดยพืชกระจูดพบมากทางภาคใต้และภาคตะวันออก
ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช นราธิวาส ระยอง
กระจูดสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
โดยนิยมนำเส้นกระจูดมาตากให้แห้งเพื่อใช้จักสานเป็นเสื่อและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆเมื่อก่อนคนไม่รู้จักกระจูด
ประโยชน์ ความทนทานกี่ปี แต่เมื่อหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยเหลือ ประชาสัมพันธ์ไปตามกรุงเทพ
จังหวัดอื่น รวมถึงในโลกโซเซียล ทำให้ผลิตภัณฑ์กระจูดมีชื่อเสียง
เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมของคนทั่วไปอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน "...อยากขอบคุณนายกรัฐมนตรีมาก
ที่ให้ความสำคัญและทำให้ผลิตภัณฑ์กระจูดโด่งดัง ชาวต่างชาติได้รู้จัก ดีใจมากที่นายกรัฐมนตรี
มองเห็นแม่บ้านในระดับรากหญ้าให้มีงานทำ มีชีวิตที่ดีขึ้น..."
นางพัชรินทร์
บินเจ๊ะมิง กล่าวด้วยว่า ทางกลุ่มพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงาน อีกทั้ง
ได้แนะนำวิธีการดูแลรักษาผลิตภัณฑ์กระจูด ถ้าเป็นเสื่อมีอายุใช้งานราว 10 ปี
แต่ก็อยู่ที่ผู้ใช้ด้วย ทำความสะอาดโดยการล้าง-ฉีด น้ำได้ วางผึ่งแดดไม่หักไม่กรอบ
ไม่มีปัญหาเรื่องมอด แมลง และทางกลุ่มรับประกันสีไม่ตก ถ้าเป็นกระบุง สามารถพับได้
ส่วนกระเป๋ารับน้ำหนักได้ 2-3 กิโลกรัม วิธีทำความสะอาดเหมือนกัน
พร้อมเชิญชวนอุดหนุนผลิตภัณฑ์
เพราะเซเว่นและห้างงดแจกถุงพลาสติก สามารถนำกระเป๋ากระจูดไปใช้แทนได้
สำหรับผู้สนใจไปศึกษาเรียนรู้หรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์กระจูดกลุ่มบ้านทอนอามาน
ติดต่อไปที่โทรศัพท์หมายเลข 08-6289-6671
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น