เกษตรกร
ม.6 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา นายวิรัช เพชรปล้อง และนางฐิติพร สังข์ทอง
สองสามีภรรยา หันมาปลูกมะพร้าวพันธุ์กลางก้นจีบจากเดิมเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ปลูกเพียง 50 กว่าต้น ตัดผลผลิตขายได้
อาทิตย์ละ 70 -100 ลูก มีรายได้เดือนละประมาณสี่พันบาท
หลังชาวบ้านนิยมรับประทาน ผลผลิตป้อนตลาดมีไม่เพียงพอ
หันมาขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเป็นกว่า 200 ต้น
คาดหากตัดเก็บผลผลิตได้ทุกต้นปีหนึ่งจะมีรายได้กว่าแสนบาท
นางฐิติพร
สังข์ทอง เกษตรกร เปิดเผยว่า เมื่อก่อนที่นี่จะเป็นพื้นที่นาร้าง เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ตนเองและสามี ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ ที่ไร้ประโยชน์ หันมาทำเกษตรทฤษฏีใหม่
ปลูกผสมผสาน ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวง ร.9 ปลูกทั้ง
มะพร้าว สละ มะนาว ข้าวโพด กล้วย มังคุด ละมุด ไผ่ฯลฯ ปลูกคละแซมกันไปกับมะพร้าว
พร้อมทั้ง ขุดบ่อ เลี้ยงปลา ปลูกบัวสาย เลี้ยงไก่ ซึ่งผลผลิตที่ปลูก ที่เลี้ยง
ทุกอย่าง ก็ขายได้หมด โดยจะเก็บไปขายเองที่ตลาดเกษตรยะลา มีรายได้ตลอดทั้งปี
ด้วยวิถีพอเพียง อย่างที่ในหลวง สอนโดยไม่อด
ในส่วนของการปลูกมะพร้าวพันธุ์กลางก้นจีบ
นั้น เมื่อก่อนปลูกไม่มาก เพียง 55 ต้น ตัดผลผลิตขาย
อาทิตย์ละไม่ต่ำกว่า 100 ลูก หลังชาวบ้านนิยมรับประทานสด
มีตลาดแปรรูป ที่แน่นอน ทำให้ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมีมีเพียงพอ ก็เลยหันมาปลูกเพิ่ม
เป็น 350 ต้น เต็มพื้นที่ที่ว่างอยู่
ซึ่งคาดว่าถ้าตัดเก็บผลผลิตได้ทุกต้น ขายในราคาลูกละ 15 บาท
ในอนาคตปีหนึ่งก็จะมีรายได้ประมาณกว่าหนึ่งแสนบาท
นอกจากนี้ก็ยังมีรายได้จากการเพาะพันธุ์มะพร้าว สำหรับผู้ที่สั่งเพาะและต้องการนำไปปลูก
โดยจะขายในราคาต้นละ 50 บาท ด้วย
สำหรับการดูแลมะพร้าวพันธุ์กลางก้นจีบ
ก็ไม่ยุ่งยากอะไร เราจะต้องเอาใจใส่ ดุแลเรื่องปุ๋ย คอยสังเกตแมลงดำหนาม ด้วง
ตัดแต่งใบแห้งออก จะช่วยให้มะพร้าวโตเร็วมีผลผลิตมาก ลูกดก นอกจากปลูกมะพร้าวแล้ว
ในระหว่างร่อง ช่วงห่างระยะ 4-5 เมตร เราก็สามารถลงปลูกผลไม้
พืชผักต่างๆ ไว้ได้ จะได้มีผลผลิตไว้รับประทาน และขาย เพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง
ส่วนตลาดมะพร้าว ก็ไม่มีปัญหาอะไรสามารถเก็บผลผลิตขายได้ทุกอาทิตย์อย่างน้อยก็ 70
ลูก มีทั้งลูกค้าประจำ ลูกค้าทั่วไป ซึ่งชอบรับประทาน
สำหรับมะพร้าวที่นี่ จะได้มาตรฐาน GAP ไม่มีสารพิษ
รับประทานได้อย่างปลอดภัย ส่วนประโยชน์ของมะพร้าวก็มีมากมาย สามารถกินสด
ทำเป็นกะทิแกง ทำขนม แปรรูปสกัดเป็นน้ำมัน รสชาติก็หวาน หอม อร่อย เนื้อหนา
ถ้าเกษตรกร ที่สนใจจะปลูกมะพร้าวก็ขอแนะนำพันธุ์นี้ 4 ปี ก็จะเริ่มออกผลผลิต
และมีประโยชน์มากกว่า มะพร้าวน้ำหอมบางพันธุ์ ที่จะรับประทานน้ำ และเนื้ออ่อนๆ
ได้เพียงอย่างเดียวซึ่งอาจจะไม่คุ้มกับการลงทุน เพราะ
ไม่สามารถนำเนื้อไปแปรรูปอย่างอื่นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น