วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2561

สัมผัส 10 ชุมชน มนต์เสน่ห์เมืองปัตตานี วิถีพหุวัฒนธรรมแดนใต้



          ‘ปาตานี’ เมืองที่มากด้วยความเจริญรุ่งเรือง นับจากสมัยอาณาจักรลังกาสุกะ กระทั่ง เปลี่ยนผ่านประวัติศาสตร์มายุคแล้วยุคเล่า ก่อนจะกลายเป็น ‘ปัตตานี’ ที่แบ่งการปกครองออกเป็น 12 อำเภอ ในปัจจุบัน มีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวหลายด้าน ทั้งด้านธรรมชาติ โบราณสถานทางประวัติศาสตร์ และด้านประเพณีวัฒนธรรม โดยช่วงที่ผ่านมาสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี ได้พยายามผลักดันเรื่อง 10 ชุมชนท่องเที่ยวของปัตตานีอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ประกอบด้วย ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว ชุมชนท่องเที่ยวจะบังติกอ ชุมชนท่องเที่ยวตันหยงลุโล๊ะ ชุมชนท่องเที่ยวน้ำบ่อ ชุมชนท่องเที่ยวบางปู ชุมชนท่องเที่ยวยะหริ่ง ชุมชนท่องเที่ยวแหลมโพธิ์ ชุมชนท่องเที่ยวยะรัง ชุมชนท่องเที่ยวบาราโหม และชุมชนท่องเที่ยวตุยง
          ทั้งนี้แต่ละชุมชนมีจุดประสงค์ที่จะใช้กลไกเครือข่ายการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวแต่ละชุมชน เป็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ไม่ทำลายวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละชุมชน แต่ละพื้นที่มีสถานท่องเที่ยวที่หลากหลายไม่ซ้ำกัน คือ มีสถานที่ท่องเที่ยวครบวงจรจากทะเลจรดภูเขา




        ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว เป็นชุมชนที่มีทุนทางทรัพยากรสูง มีความอุดมสมบูรณ์และความงดงามตามธรรมชาติ ประกอบด้วย น้ำตกทรายขาว ผาพญางู ยอดเขาสันกาลาคีรี วัดทรายขาว มัสยิดนัจมุดดิน 300 ปี ที่สำคัญคือ การร่วมใจของชุมชนในการสร้างกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย เช่น กิจกรรมนำชมสวนผลไม้ด้วยการนั่งรถจิ๊บลุยเข้าสวน การทำบ้านพักแบบโฮมสเตย์ที่สะท้อนวิถีชีวิตที่เรียบง่าย การจัดกิจกรรมวิ่งป่าและจักรยานเสื้อภูเขาเพื่อพิชิตยอดเขาสันกาลาคีรี



        ชุมชนท่องเที่ยวจะบังติกอ มีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ คือ กุโบร์โต๊ะอาเย๊าห์ สถานที่ฝังพระศพเจ้าเมืองและเชื้อพระวงศ์หลายพระองค์ของเมืองปาตานีโบราณ มัสยิดจะบังติกอ หรือ ‘มัสยิดรายอฟาฏอนี’ ซึ่งมีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างมลายูปัตตานีกับตะวันตก รวมถึงวังจะบังติกอ และที่น่าสนใจคือ ชุมชนจะบังติกอ ชุมชนประวัติศาสตร์ที่มีวิถีชีวิตตามอัตลักษณ์ของความเป็นอิสลามที่สมถะ และดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมมลายูอันงดงาม



        ชุมชนท่องเที่ยวตันหยงลุโล๊ะ สถานที่ตั้งของ ‘มัสยิดกรือเซะ’ สถาปัตยกรรมเก่าแก่ สัญลักษณ์ของราชอาณาจักรปาตานีดารุสลาม และ ‘สุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว’ ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวไทยเชื้อสายจีน สภาพชุมชนโดยรอบมีความโดดเด่นน่าสนใจมาก หากใครไปเยือนชุมชนแห่งนี้ มนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งที่จะได้สัมผัส ณ มัสยิดกรือเซะ คือ มัคคุเทศน์น้อย หนึ่งในผลผลิตของชุมชนที่ต้องการพัฒนาเยาวชนให้ตระหนักที่จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่นตน และดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมัคคุเทศก์น้อยจะมาต้อนรับด้วยการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน และนำชมสถานที่ รวมทั้งบอกเล่าความเป็นมาให้ผู้มาเยือนมีความเข้าใจประวัติและความเป็นมาของมัสยิดได้อย่างชัดเจน



       ชุมชนท่องเที่ยวน้ำบ่อ มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คือ หาดแฆแฆ ชายหาดที่มีเม็ดทรายเป็นสีทองยามพระอาทิตย์ตก มีโขดหินแกรนิตขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตามากมาย และนอกจากเสน่ห์ของธรรมชาติแล้ว เสน่ห์ของชุมชนอีกประการหนึ่ง คือ การดำรงชีวิตแบบวิถีประมงพื้นบ้าน ซึ่งตลอดเส้นทางผ่านจะพบเห็นชาวบ้านทำปลากะตักแห้ง วางตากเรียงรายทั้ง 2 ข้างทาง โดยเฉพาะฝั่งถนนที่ติดทะเล ผู้ผ่านมาจะสัมผัสกับภาพชาวบ้านขณะตากปลาท่ามกลางต้นมะพร้าวรายเรียงทอดตัวไปตามชายหาดขาว โดยมีฉากหลังเป็นทะเลสีครามสวยงาม



        ชุมชนท่องเที่ยวบางปู เป็นชุมชนที่มีจุดเด่นในเรื่องของการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มีแหล่งท่องเที่ยวภายในชุมชนเป็นป่าชายเลนที่มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ กิจกรรมหลักที่สนับสนุนการท่องเที่ยว เช่น การล่องเรือชมป่าชายเลน อุโมงค์โกงกาง การตกปลาในอ่าวปัตตานี การนั่งเรือชมพระอาทิตย์ และดูนกนานาพันธุ์ รวมถึงจุดเด่นสำคัญประการหนึ่งคือ ธรรมชาติของผู้คนที่ใสซื่อบริสุทธิ์ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาท้องถิ่นของตน
ชุมชนท่องเที่ยวยะหริ่ง มีจุดเด่นคือ วังยะหริ่งเป็น 1 ในวัง 7 หัวเมืองที่ยังคงมีความสมบูรณ์มากที่สุด สร้างขึ้นตอนปลายสมัยรัชกาลที่ 5 ที่สะท้อนความสวยงามทั้งด้านสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์



         ชุมชนท่องเที่ยวแหลมโพธิ์ เป็นชุมชนเด่นที่ครอบคลุมการท่องเที่ยว 3 ประเภท ได้แก่ การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมจากสภาพวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะ ‘แหลมตาชี’ สถานที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ ณ จุดเดียวกัน
        ชุมชนท่องเที่ยวยะรัง มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คือ เมืองโบราณยะรัง ที่ตั้งของอาณาจักรลังกาสุกะในอดีต ดินแดนที่พระพุทธศาสนารุ่งเรืองมาก่อนที่ศาสนาอิสลามจะเผยแพร่เข้ามา ถือเป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ รวมถึงจุดเด่นในเรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่นในการถ่ายทอดการทำอาหารโบราณ



         ชุมชนท่องเที่ยวบาราโหม เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ด้วยแหล่งโบราณสถานที่เก่าแก่ร่วม 500 ปี  ในยุคสมัยที่ปัตตานีเป็นเมืองท่าที่รุ่งเรือง มีชาวต่างชาติทั้งอาหรับ เปอร์เซีย ยุโรป ฯลฯ เข้ามาค้าขายเป็นจำนวนมาก และยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยมีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ในระดับประเทศ



        ชุมชนท่องเที่ยวตุยง มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยว เป็นที่ตั้งของวังหนองจิก  ในวัง 7 หัวเมือง ซึ่งได้รับการบูรณะและรับรองจากกรมศิลปากรให้เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่ควรอนุรักษ์ไว้สืบไป และยังมีวัดมุจลินทวาปีวิหาร หรือ ‘วัดตุยง’ ซึ่งเป็นพระอารามหลวง
      เหล่านี้เป็นตัวอย่าง‘จุดแข็ง’ สำคัญสะท้อนรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งยากจะหาที่ใดเทียบเคียง หากตัดปัญหาเรื่อง ‘ไฟใต้’ ออกไปได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น