ผู้เสพยาเสพติด คือ ผู้ป่วย ควรได้รับการบำบัดรักษา
สาเหตุที่แยกผู้ติดยาเสพติดว่าเป็นผู้ป่วย
เพราะผู้ติดยาเสพติดจะมีภาวะ “สมองติดยา” เกิดแรงกระตุ้นจนนำพาไปสู่ความอยากยา
มีความจำเป็น ต้องหายาเสพติดเพื่อนำมาเสพ เมื่อเสพแล้วจะมีความสุข ภาวะสมองติดยา
มีระยะเวลาในการป่วยของแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับชนิดของสารเสพติดแต่ละตัวและปริมาณการใช้
รวมถึงปัจจัยแทรกซ้อนมากมาย ภาวะการติดยาเสพติด สามารถรักษาได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลา
และความเข้าใจของครอบครัว ชุมชน
ปัญหาการกลับไปเสพติดซ้ำเกิดจากผลกระทบทางด้านจิตใจ ครอบครัวขาดความอบอุ่น
ร่างกายและจิตใจไม่เข้มแข็งพอ
นโยบายผู้เสพ
คือ ผู้ป่วย รัฐบาลถือว่า ผู้เสพทุกคน เป็นผู้ป่วย และจะให้โอกาสในการบำบัดรักษา
รวมถึงดูแลช่วยเหลือให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข
การเสพยาเสพติดเป็นความผิดตามกฎหมายมีโทษถึงจำคุก
โดยรัฐบาลได้ให้โอกาสผู้เสพยาเสพติด ทุกคนเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในระบบสมัครใจ
โดยไม่ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย หากพบผู้ใกล้ชิด ใช้ยาเสพติดขอให้ทำความเข้าใจ
และแนะนำให้เข้ารับการบำบัดรักษาได้ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งตามสิทธิหลักประกันสุขภาพ
ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โรงพยาบาลชุมชน (รพช.)
โรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) โรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.) รวมถึง โรงพยาบาลเฉพาะทาง ได้แก่
โรงพยาบาลธัญญารักษ์ 7 แห่ง และโรงพยาบาลสังกัดกรมสุขภาพจิต 16 แห่ง
ขั้นตอนการบำบัดรักษา
มี 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
1.
ขั้นเตรียมการ (Pre-Admission) ได้แก่
ขั้นตอนการสอบถามอาการ การตรวจร่างกายการประเมินคัดกรอง
และการนัดหมายให้เข้ารับการบำบัด
2. ขั้นถอนพิษยา (Detoxification) เป็นการบำบัดอาการทางกายที่เกิดจากการใช้ยาเสพติด และภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
มีทั้งแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ขึ้นอยู่กับสภาพการเสพการติด
3. ขั้นตอนการฟื้นฟูสมรรถภาพ (Rehabilitation) เป็นการปรับสภาพร่างกายจิตใจ
และสังคมของผู้เลิกยาให้มีความเข้มแข็ง ปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพและพฤติกรรม
ให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุข
4. การติดตามดูแล (Aftercare)
เป็นการติดตามดูแลผู้ที่ผ่านการบำบัดรักษา ทั้ง 3 ขั้นตอนแล้ว เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติด
รูปแบบการบำบัดรักษา เน้นนโยบายผู้เสพคือผู้ป่วย
โน้มน้าว/ชักชวน/จูงใจให้ผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในระบบสมัครใจ
โดยสถานพยาบาลในระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลธัญญารักษ์ สังกัดกรมการแพทย์
และโรงพยาบาล สังกัดกรมสุขภาพจิต ในพื้นที่
ดำเนินการคัดกรองโดยใช้แบบคัดกรองผู้ป่วยที่ใช้ยาและสารเสพติด กระทรวงสาธารณสุข (V2) เพื่อจำแนกผู้ป่วยยาเสพติดเป็นกลุ่มผู้ใช้
ผู้เสพ และผู้ติด และดำเนินการบำบัดฟื้นฟูหรือส่งต่อตามสภาพการเสพติด
ภายใต้มาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ดังนี้
1.กรณีผู้ใช้
: ให้การบำบัดฟื้นฟูในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป
โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลธัญญารักษ์ สังกัดกรมการแพทย์ และโรงพยาบาล
สังกัดกรมสุขภาพจิต ด้วยการให้ความรู้และส่งเสริมสุขภาพ (Health Education
& Promotion) การให้คำแนะนำแบบสั้น (Brief Advice : BA) หรือการบำบัดแบบสั้น (Brief Intervention : BI) อย่างน้อย
1 ครั้ง และการช่วยเหลือของครอบครัว โรงเรียน และชุมชน
รวมถึงการบำบัดโรคร่วมทางจิตเวช (ถ้ามี)
2. กรณีผู้เสพ
: ให้การบำบัดฟื้นฟูในโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์
โรงพยาบาลธัญญารักษ์ สังกัดกรมการแพทย์ โรงพยาบาล สังกัดกรมสุขภาพจิต
การบำบัดในรูปแบบ ศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
3.กรณีผู้ติด
: ให้การบำบัดฟื้นฟูในโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลธัญญารักษ์
สังกัดกรมการแพทย์ และโรงพยาบาล สังกัดกรม
สุขภาพจิต
สถานที่ในการบำบัดรักษา ผู้ที่ใช้ยาเสพติดหรือผู้ปกครองหรือครอบครัวนำผู้เสพ
ซึ่งรัฐบาลถือว่าเป็นผู้ป่วยเข้ามารับการบำบัดรักษา
ได้ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งตามสิทธิหลักประกันสุขภาพ
ซึ่งอาจจะเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือโรงพยาบาลชุมชนที่เป็นโรงพยาบาลระดับอำเภอที่มีอยู่กว่า
หนึ่งหมื่นแห่งทั่วประเทศ รวมไปถึงโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์
และโรงพยาบาลเฉพาะทาง ซึ่งได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์ ที่มีอยู่ ๗ แห่งทั่วประเทศ
ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา และปัตตานี
และโรงพยาบาล ในสังกัดกรมสุขภาพจิตจำนวน 16 แห่ง
เตรียมตัวอย่างไร
ขั้นตอนในการเตรียมตัว สำหรับผู้ป่วยที่สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาล
ดังนี้
1.เตรียมความพร้อมผู้ป่วยและญาติผู้ดูแล
ซึ่งทั้งผู้ป่วยและญาติต้องเข้าใจขั้นตอนการบำบัดรักษา ว่ามีแนวทางอย่างไร
ใช้เวลาเท่าไร
2.เตรียมเอกสารที่แสดงตัวตนของผู้ป่วย เช่น
บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
หรือบัตรที่ทางราชการออกให้และมีรูปถ่ายของผู้ป่วยติดไว้
3.การบำบัดรักษายาเสพติดไม่มีค่าใช้จ่ายใด
ๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นถ้าหากมีโรคร่วมโรคแทรก เช่น วัณโรค ท้องเสีย ไวรัสตับอักเสบ ฯลฯ
ผู้ป่วยสามารถใช้สิทธิบัตรประกันสุขภาพหรือบัตรทอง บัตรประกันสังคม
ร่วมได้ในสถานพยาบาลตามที่ระบุในบัตร
ผู้เสพยาเสพติดและญาติที่สนใจจะส่งบุตรหลานเข้ารับการรักษา
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1165 ตลอด 24 ชั่วโมง
กรณีพบผู้เสพที่มีอาการคลุ้มคลั่งอาละวาด
สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง กรณีพบเบาะแสยาเสพติด
สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น