"กิจกรรมมดะวะห์โลกที่มัรกัสตาเซะ
ยะลา ผลตอบรับเกินคาด ชาวมุสลิมเข้าร่วมกิจกรรม กว่า 150,000 คน ด้านผู้ทรงคุณวุฒิ
ชื่นชม เป็นกิจกรรมในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
นำไปสู่การเกิดความสันติสุขอย่างแท้จริง'.!!!"
วันเสาร์ ที่ 20 ตุลาคม 2561 เวลา
11:54.น."กิจกรรมอิสตีมะฮ์หรือดะวะห์โลก ที่จัดขึ้นบริเวณ ต.ตาเซะ จ.ยะลา
ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา
มีชาวมุสลิมทั้งจากในประเทศและต่างประเทศให้การตอบรับและเข้าร่วมกิจกรรมกว่า
150,000 คน ทั้งนี้เพื่อร่วมศึกษาแนวทางศาสนาที่ถูกต้องจากอูลามะห์ (ผู้รู้)
ขณะเดียวกันสถานีรถไฟตาเซะ ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใกล้กับสถานที่จัดกิจกรรม
ได้เปิดให้บริการเป็นกรณีพิเศษเพื่อแวะจอดรับผู้โดยสารที่ประสงค์เข้าร่วมกิจกรรม
ซึ่งมีผู้แจ้งความประสงค์ลงปลายทางที่สถานีตาเซะ ตลอดในช่วงการจัดกิจกรรม กว่า
15,000 คน
นายนิมุ มะกาเจ
ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นนี้เป็นความคิดริเริ่มมาจาก
นายอุดร น้อยทับทิม อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา
สิ่งที่น่าชื่นชมในการพบปะคือถือเป็นการพบปะในระดับโลกในสถานที่ที่เคยเป็นป่าแต่สามารถเนรมิตได้ในเวลารวดเร็ว
โดยมีเนื้อที่กว่า 2 พันไร่ เหมาะสำหรับปฏิบัติศาสนกิจและสำหรับที่พักอาศัยของผู้เข้าร่วมและแขกจากต่างประเทศ
มีรถผลิตน้ำดื่มสะอาดบริการฟรี มีบริการห้องน้ำเคลื่อนที่ให้บริการกว่า 100 ห้อง
มีรถบรรทุกน้ำและเรือท้องแบนพร้อมถังน้ำขนาดใหญ่ให้บริการสำหรับอาบน้ำละหมาด
มีหน่วยพยาบาลและเจ้าหน้าที่หมุนเวียน ตลอด 24 ชั่วโมง
นายนิมุ มะกาเจ เผยอีกว่า
นอกจากนี้มีรถไฟไว้บริการสำหรับจอดรับผู้มาร่วมงาน ทุกขบวน
ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีที่พี่น้องมุสลิม จะได้มาเรียนรู้
การดำเนินชีวิตแบบเรียบง่ายตามยุคสมัยเพื่อสร้างความสุขที่แท้จริงทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการมาพบปะระหว่างพี่น้องมุสลิมด้วยกันกว่าแสนคน
ถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
หากเราไม่เข้าใจซึ่งกันและกันทั้งศาสนาเดียวกันและต่างศาสนิก
ก็จะเกิดความบาดหมางขึ้น เราจะเดินไปข้างหน้าด้วยกันและบอกกล่าว
บอกเล่าแก่คนในพื้นที่และต่างพื้นทีให้ตระหนักและระมัดระวังตัวเอง
ค้นหาความสุขที่แท้จริง
การที่พี่น้องต่างพื้นที่มาร่วมกิจกรรมที่นี่ถือเป็นการยอมรับสภาวะของคนในพื้นที่ว่าที่นี่เป็นดินแดนหนึ่งที่จะต้องมาช่วยกันปรับเสริมให้ดีขึ้น
กิจกรรมในครั้งนี้นอกจากเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องข้อบัญญัติทางศาสนาแล้ว
ที่สำคัญคือการนำความรู้ทางศาสนาไปเผยแพร่และปรับใช้ให้เข้ากับวิถีชีวิตที่อยู่ในภาวะปัจจุบันเพื่อกล่อมเกลาให้ลูกหลานเรารอดพ้นจากอบายมุขและสิ่งเลวร้ายทั้งปวง
ถ้าเราสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปกล่อมเกลาและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ไม่หวาดระแวงซึ่งกันและกัน เชื่อมั่นว่าจะเกิดความสันติสุขอย่างแท้จริงได้
อย่างไรก็ตาม
ในระหว่างนี้ยังคงมีผู้ให้ความสนใจทยอยเดินทางมาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
โดยกิจกรรมดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันจันทร์ ที่ 22 ตุลาคม 2561..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น