วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561

กิจกรรมสร้างสันติสุขในพื้นที่ จชต.




       "กิจกรรมมดะวะห์โลกที่มัรกัสตาเซะ ยะลา ผลตอบรับเกินคาด ชาวมุสลิมเข้าร่วมกิจกรรม กว่า 150,000 คน ด้านผู้ทรงคุณวุฒิ ชื่นชม เป็นกิจกรรมในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี นำไปสู่การเกิดความสันติสุขอย่างแท้จริง'.!!!"
วันเสาร์ ที่ 20 ตุลาคม 2561 เวลา 11:54.น."กิจกรรมอิสตีมะฮ์หรือดะวะห์โลก ที่จัดขึ้นบริเวณ ต.ตาเซะ จ.ยะลา ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีชาวมุสลิมทั้งจากในประเทศและต่างประเทศให้การตอบรับและเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 150,000 คน ทั้งนี้เพื่อร่วมศึกษาแนวทางศาสนาที่ถูกต้องจากอูลามะห์ (ผู้รู้) ขณะเดียวกันสถานีรถไฟตาเซะ ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใกล้กับสถานที่จัดกิจกรรม ได้เปิดให้บริการเป็นกรณีพิเศษเพื่อแวะจอดรับผู้โดยสารที่ประสงค์เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งมีผู้แจ้งความประสงค์ลงปลายทางที่สถานีตาเซะ ตลอดในช่วงการจัดกิจกรรม กว่า 15,000 คน
นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นนี้เป็นความคิดริเริ่มมาจาก นายอุดร น้อยทับทิม อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา สิ่งที่น่าชื่นชมในการพบปะคือถือเป็นการพบปะในระดับโลกในสถานที่ที่เคยเป็นป่าแต่สามารถเนรมิตได้ในเวลารวดเร็ว โดยมีเนื้อที่กว่า 2 พันไร่ เหมาะสำหรับปฏิบัติศาสนกิจและสำหรับที่พักอาศัยของผู้เข้าร่วมและแขกจากต่างประเทศ มีรถผลิตน้ำดื่มสะอาดบริการฟรี มีบริการห้องน้ำเคลื่อนที่ให้บริการกว่า 100 ห้อง มีรถบรรทุกน้ำและเรือท้องแบนพร้อมถังน้ำขนาดใหญ่ให้บริการสำหรับอาบน้ำละหมาด มีหน่วยพยาบาลและเจ้าหน้าที่หมุนเวียน ตลอด 24 ชั่วโมง



       นายนิมุ มะกาเจ เผยอีกว่า นอกจากนี้มีรถไฟไว้บริการสำหรับจอดรับผู้มาร่วมงาน ทุกขบวน ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีที่พี่น้องมุสลิม จะได้มาเรียนรู้ การดำเนินชีวิตแบบเรียบง่ายตามยุคสมัยเพื่อสร้างความสุขที่แท้จริงทั้งในโลกนี้และโลกหน้า กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการมาพบปะระหว่างพี่น้องมุสลิมด้วยกันกว่าแสนคน ถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน หากเราไม่เข้าใจซึ่งกันและกันทั้งศาสนาเดียวกันและต่างศาสนิก ก็จะเกิดความบาดหมางขึ้น เราจะเดินไปข้างหน้าด้วยกันและบอกกล่าว บอกเล่าแก่คนในพื้นที่และต่างพื้นทีให้ตระหนักและระมัดระวังตัวเอง ค้นหาความสุขที่แท้จริง การที่พี่น้องต่างพื้นที่มาร่วมกิจกรรมที่นี่ถือเป็นการยอมรับสภาวะของคนในพื้นที่ว่าที่นี่เป็นดินแดนหนึ่งที่จะต้องมาช่วยกันปรับเสริมให้ดีขึ้น
กิจกรรมในครั้งนี้นอกจากเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องข้อบัญญัติทางศาสนาแล้ว ที่สำคัญคือการนำความรู้ทางศาสนาไปเผยแพร่และปรับใช้ให้เข้ากับวิถีชีวิตที่อยู่ในภาวะปัจจุบันเพื่อกล่อมเกลาให้ลูกหลานเรารอดพ้นจากอบายมุขและสิ่งเลวร้ายทั้งปวง ถ้าเราสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปกล่อมเกลาและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่หวาดระแวงซึ่งกันและกัน เชื่อมั่นว่าจะเกิดความสันติสุขอย่างแท้จริงได้ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ยังคงมีผู้ให้ความสนใจทยอยเดินทางมาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยกิจกรรมดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันจันทร์ ที่ 22 ตุลาคม 2561..



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น