ในสมัยที่เมืองปัตตานีกำลังเจริญรุ่งเรืองเป็นเมืองท่าค้าขาย
เมืองปัตตานีในสมัยนั้นสามารถผลิตปืนใหญ่และผลิตขายแก่เพื่อนบ้านได้ดังนั้นเจ้าเมืองปัตตานีจึงได้ประกาศว่า หากใครมีทองเหลือง ห้ามนำทองเหลืองไปขาย
ต้องไปมอบกับเจ้าเมืองเท่านั้นเพื่อใช้หล่อปืนใหญ่
แชะ (เชค)
คอมบอค กับผู้ติดตามชื่อ อับดุลมุมิน
เป็นพ่อค้าและเป็นผู้รู้เผยแผ่ศาสนาอิสลามมาจากตรังกานูแชะคอมบอคผู้นี้
มีทองเหลืองจำนวนมากบรรทุกมาในเรือเมื่อมาถึงปัตตานีมีคนต้องการจะซื้อทองเหลือง
ด้วยความเกรงใจต่อคนซื้อแชะคอมบอคจึงขายทองเหลืองให้
และเรื่องก็ได้รู้ไปถึงเจ้าเมือง
เจ้าเมืองจึงสั่งให้องครักษ์จับตัวแชะคอมบอคและผู้ติดตาม
และเจ้าเมืองจึงสั่งให้ผู้ติดตามประหารแชะคอมบอค แต่ด้วยความเคารพและเกรงใจ
อับดุลมุมินหรือผู้ติดตามนั้นไม่ปฏิบัติตามคำของเจ้าเมือง เจ้าเมืองจึงให้เพชฌฆาตลงมือประหารเอง
แล้วนำศพไปทิ้งที่คลองปาเระ ซึ่งเป็นคลองเล็กๆอยู่ใกล้กับหมู่บ้านดาโต๊ะ
และต่อมาปรากฏว่าศพของแชะคอมบอคแปลกกว่าศพของคนธรรมดา
คือเมื่อน้ำลดศพก็จะลอยน้ำโผล่ขึ้นมาให้ชาวบ้านเห็น
จนกระทั่งมีชาวประมงคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวบ้านแถวนั้นก็อดที่จะสงสารไม่ได้ที่ต้องเห็นศพอยู่ในสภาพนี้
เขาจึงนำศพนำไปฝังไว้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในบริเวณนั้นโดยที่ปิดบังไม่ให้เจ้าเมืองได้รับรู้
ในวันที่เขานำศพไปฝัง ปรากฏว่าไม่สามารถบรรจุศพในหลุมได้ เพราะศพยาวขึ้น เป็นแบบนี้ถึง 3
ครั้งจนต้องพับขาศพ แต่ก่อนที่จะพับขาชาวบ้านก็ได้ดุอาร์หรือขอพรต่อพระอัลลอฮฺ
(ซ.บ) ว่าถ้าศพนี้ศักดิ์สิทธิ์จริง ขอให้หยุดยาวเพียงเท่านี้
ในที่สุดจึงฝังศพของแชะคอมบอคกับอับดุลมุมิน ในบริเวณเดียวกันได้สำเร็จ
ชาวบ้านจึงเรียกกูโบร์(สุสาน)แห่งนี้ว่า “กูโบร์ดาโต๊ะปาแย”
ซึ่งแปลว่า ดาโต๊ะยาว
และชื่อนี้จึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น