วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ความสุขของคนเป็นแม่ เมื่อลูกพ้นจาก “ขุมยานรก”



      สืบเนื่องจาก พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ประกาศยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติ 20 ปี โดยใช้หลักการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน ในการดูแลพื้นที่ให้ปลอดภัย สร้างความเข้าใจต่อประชาชนนอกเหนือจากการป้องกันแก้ปัญหาการก่อเหตุรุนแรงของกลุ่มก่อความไม่สงบ ได้เพิ่มอีกหนึ่งนโยบาย ดำเนินการอย่างเร่งด่วนควบคู่คือ การแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดภายใน 3 เดือนแรก เนื่องจากพี่น้องประชาชนต่างเป็นห่วงลูกหลานที่ตกเป็นทาสของยาเสพติดนับวันเพิ่มเป็นจำนวนมาก และต่างจับตารอคอยความหวังเห็นการกวาดล้างยาเสพติดให้สิ้น จับผู้ค้าดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดและแยกเสพบำบัดเพื่อคืนคนดีสู่สังคม
       นางนิแย (สงวนนามสกุล)  อายุ 54 ปี ชาวบ้านใน อ.เมืองปัตตานี กล่าวถึงลูกชายที่กว่าจะหลุดจากวงจรยานรกมาได้จากถูกเพื่อนชักจูง  ก็จะถามลูกตลอดว่าไปไหน พอรู้มาว่าน่าจะไปข้องแวะเรื่องยาเสพติด คนเป็นแม่กลุ้มใจและเสียใจอยู่ตลอดเวลา หวั่นลูกชายจะเสียอนาคต กระทั่งลูกชายเข้าค่ายโครงการศูนย์ขวัญแผ่นดิน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและฝึกอาชีพรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ทุกคืนได้ขอพรให้ลูกกลับมาพ้นจากยาเสพติด ทุกวันนี้ลูกกลับมาเป็นลูกแม่อีกครั้ง เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือและดีมากหากแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เข้ามาดูแลเรื่องปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง เพราะมีอีกหลายครอบครัวที่ทุกวันนี้บุตรหลานตนเองยังคงตกเป็นทาสยาเสพติด ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีการจริงจังกับการเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาตรงนี้ร่วมกับพ่อแม่และผู้นำชุมชน
        เมื่อก่อนลูกมักจะตะโกนใส่แม่ตลอด แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ส่วนการที่แม่ทัพภาคที่ 4 จะลุยปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ขอสนับสนุนด้วย เพราะลูกหลานในหมู่บ้านมีจำนวนมากกลัวไปเสพยา บางทีพ่อแม่ไปทำงาน ไม่มีเวลาดูแลลูก อยากจะให้แม่ทัพภาคที่ 4 ช่วยดูแลสอดส่องอย่างจริง โดยมีผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านช่วยกันเป็นหูเป็นตาเพื่อให้หมู่บ้านปลอดยาเสพติดนางนิแย กล่าว

      ขณะที่นายบูรฮัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี เคยติดยาเสพติดและเข้าร่วมโครงการค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและฝึกอาชีพผู้เสพยาเสพติด กล่าวว่า ตอนนี้เป็นช่างเชื่อมโลหะมีรายได้แล้ว เมื่อก่อนสภาพแย่มากเหมือนวัยรุ่นทั่วไปเอาแต่ซิ่งมอเตอร์ไซด์ไปวันๆ แต่เมื่อเข้าโครงการนี้แล้ว ก็ได้โอกาสฝึกอาชีพจนเอามาใช้ได้จริง มีเงินจากอาชีพช่างเชื่อม นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก อยากให้ผู้ใหญ่สนับสนุนการกวาดล้างยาเสพติดในหมู่บ้านต่อไป
นายอิฟฟาน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี กล่าวว่า เคยติดยาเสพติด ก่อนตัดสินใจอาสาเข้าร่วมโครงการฯ ทุกวันนี้เป็นช่างซ่อมมอเตอร์ไซด์ มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมาก มีชีวิตเป็นของตนเองและเงินที่ได้จากการทำงานทุกวันนี้จะฝากไว้กับแม่ โดยตั้งใจเก็บเงินก้อนใหญ่สร้างขยายบ้านที่อยู่ให้ทุกคนในครอบครัวได้มีความสุขสบายและสิ่งที่อยากฝากบอกถึงน้องๆ ที่คิดจะใช้ยาเสพติดว่าพี่เจอมาแล้ว อย่าไปยุ่งกับมันเลยเพราะชีวิตมีแต่พังกับพัง

นายเซ็ง แมะตีเมาะ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี กล่าวว่าเราก็หวังมานานแล้วว่าจะมีหน่วยงานอื่น หรือผู้มีบทบาทหน้าที่มีอำนาจในการสามารถเข้ามาเป็นหลักคุ้มครองคุ้มภัยให้กับผู้ที่คิดอยากร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดที่รื้อรังมายาวนานให้หมดสิ้นไปเสียที พอมีแนวนโยบายของแม่ทัพภาคที่ 4 ออกมาอย่างจริงจัง ทางด้านนายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองปัตตานี ก็มีคำสั่งการรับแนวทางให้ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นสานต่อจากที่เคยทำมาก่อนให้เพิ่มความเข้มแข็งเข้มข้นและจะต้องทำตั้งแต่หมู่บ้านขยายออกไป ให้ปัญหายาเสพติดหมดสิ้นไป
         ส่วนมาตรการของหมู่บ้านจะแบ่งเป็น 7 โซน หากรู้ว่าหมู่บ้านไหนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทางผู้นำสี่เสาหลักและกรรมการหมู่บ้านจะไปเยี่ยมเพื่อหาทางช่วยเหลือและตักเตือน หากไม่ฟังก็ต้องเจอกฎเหล็กของชุมชน อย่างเช่น อำเภอ หรืออิหม่ามจะไม่มีการออกใบรับรองใดๆ ไม่ว่าจะการแต่งงาน การรับสิทธิในกองทุนต่างๆ ของหมู่บ้านให้กับผู้ที่ข้องแวะยาเสพติด และนับว่าประจวบเหมาะดีเหลือเกินที่แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ท่านมีความเข้มข้นกับการปราบปรามยาเสพติด กวาดล้างให้หมดหมู่บ้าน หวังมานานแล้วว่าจะได้เจ้าหน้าที่รัฐมาช่วยแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ปัญหาของยาเสพติดถือว่าเป็นตัวขัดขวางสันติสุขในพื้นที่ด้วย หากแก้ไขจุดนี้ไม่ได้ก็เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักขัดกวางการแก้ไขปัญหาเหตุความไม่สงบในพื้นที่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ด้วยนายเซ็ง กล่าว
ขอบคุณทีมข่าว SMILE ชายแดนใต้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น