สืบเนื่องจาก
พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4
ได้ประกาศยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติ 20 ปี โดยใช้หลักการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน
ในการดูแลพื้นที่ให้ปลอดภัย
สร้างความเข้าใจต่อประชาชนนอกเหนือจากการป้องกันแก้ปัญหาการก่อเหตุรุนแรงของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ได้เพิ่มอีกหนึ่งนโยบาย ดำเนินการอย่างเร่งด่วนควบคู่คือ
การแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดภายใน 3 เดือนแรก เนื่องจากพี่น้องประชาชนต่างเป็นห่วงลูกหลานที่ตกเป็นทาสของยาเสพติดนับวันเพิ่มเป็นจำนวนมาก
และต่างจับตารอคอยความหวังเห็นการกวาดล้างยาเสพติดให้สิ้น
จับผู้ค้าดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดและแยกเสพบำบัดเพื่อคืนคนดีสู่สังคม
นางนิแย
(สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ชาวบ้านใน อ.เมืองปัตตานี
กล่าวถึงลูกชายที่กว่าจะหลุดจากวงจรยานรกมาได้จากถูกเพื่อนชักจูง ก็จะถามลูกตลอดว่าไปไหน
พอรู้มาว่าน่าจะไปข้องแวะเรื่องยาเสพติด คนเป็นแม่กลุ้มใจและเสียใจอยู่ตลอดเวลา
หวั่นลูกชายจะเสียอนาคต กระทั่งลูกชายเข้าค่ายโครงการศูนย์ขวัญแผ่นดิน
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและฝึกอาชีพรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
ทุกคืนได้ขอพรให้ลูกกลับมาพ้นจากยาเสพติด ทุกวันนี้ลูกกลับมาเป็นลูกแม่อีกครั้ง
เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือและดีมากหากแม่ทัพภาคที่ 4
ได้เข้ามาดูแลเรื่องปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง
เพราะมีอีกหลายครอบครัวที่ทุกวันนี้บุตรหลานตนเองยังคงตกเป็นทาสยาเสพติด
ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีการจริงจังกับการเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาตรงนี้ร่วมกับพ่อแม่และผู้นำชุมชน
“เมื่อก่อนลูกมักจะตะโกนใส่แม่ตลอด
แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ส่วนการที่แม่ทัพภาคที่ 4
จะลุยปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ขอสนับสนุนด้วย เพราะลูกหลานในหมู่บ้านมีจำนวนมากกลัวไปเสพยา
บางทีพ่อแม่ไปทำงาน ไม่มีเวลาดูแลลูก อยากจะให้แม่ทัพภาคที่ 4 ช่วยดูแลสอดส่องอย่างจริง
โดยมีผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านช่วยกันเป็นหูเป็นตาเพื่อให้หมู่บ้านปลอดยาเสพติด”
นางนิแย กล่าว
ขณะที่นายบูรฮัน
(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี
เคยติดยาเสพติดและเข้าร่วมโครงการค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและฝึกอาชีพผู้เสพยาเสพติด
กล่าวว่า ตอนนี้เป็นช่างเชื่อมโลหะมีรายได้แล้ว
เมื่อก่อนสภาพแย่มากเหมือนวัยรุ่นทั่วไปเอาแต่ซิ่งมอเตอร์ไซด์ไปวันๆ
แต่เมื่อเข้าโครงการนี้แล้ว ก็ได้โอกาสฝึกอาชีพจนเอามาใช้ได้จริง
มีเงินจากอาชีพช่างเชื่อม นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก
อยากให้ผู้ใหญ่สนับสนุนการกวาดล้างยาเสพติดในหมู่บ้านต่อไป
นายอิฟฟาน
(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี กล่าวว่า เคยติดยาเสพติด ก่อนตัดสินใจอาสาเข้าร่วมโครงการฯ
ทุกวันนี้เป็นช่างซ่อมมอเตอร์ไซด์ มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมาก
มีชีวิตเป็นของตนเองและเงินที่ได้จากการทำงานทุกวันนี้จะฝากไว้กับแม่
โดยตั้งใจเก็บเงินก้อนใหญ่สร้างขยายบ้านที่อยู่ให้ทุกคนในครอบครัวได้มีความสุขสบายและสิ่งที่อยากฝากบอกถึงน้องๆ
ที่คิดจะใช้ยาเสพติดว่าพี่เจอมาแล้ว อย่าไปยุ่งกับมันเลยเพราะชีวิตมีแต่พังกับพัง
นายเซ็ง
แมะตีเมาะ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี กล่าวว่าเราก็หวังมานานแล้วว่าจะมีหน่วยงานอื่น
หรือผู้มีบทบาทหน้าที่มีอำนาจในการสามารถเข้ามาเป็นหลักคุ้มครองคุ้มภัยให้กับผู้ที่คิดอยากร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดที่รื้อรังมายาวนานให้หมดสิ้นไปเสียที
พอมีแนวนโยบายของแม่ทัพภาคที่ 4 ออกมาอย่างจริงจัง
ทางด้านนายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองปัตตานี
ก็มีคำสั่งการรับแนวทางให้ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นสานต่อจากที่เคยทำมาก่อนให้เพิ่มความเข้มแข็งเข้มข้นและจะต้องทำตั้งแต่หมู่บ้านขยายออกไป
ให้ปัญหายาเสพติดหมดสิ้นไป
“ส่วนมาตรการของหมู่บ้านจะแบ่งเป็น
7 โซน หากรู้ว่าหมู่บ้านไหนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ทางผู้นำสี่เสาหลักและกรรมการหมู่บ้านจะไปเยี่ยมเพื่อหาทางช่วยเหลือและตักเตือน
หากไม่ฟังก็ต้องเจอกฎเหล็กของชุมชน อย่างเช่น อำเภอ
หรืออิหม่ามจะไม่มีการออกใบรับรองใดๆ ไม่ว่าจะการแต่งงาน การรับสิทธิในกองทุนต่างๆ
ของหมู่บ้านให้กับผู้ที่ข้องแวะยาเสพติด
และนับว่าประจวบเหมาะดีเหลือเกินที่แม่ทัพภาคที่ 4
คนใหม่ท่านมีความเข้มข้นกับการปราบปรามยาเสพติด กวาดล้างให้หมดหมู่บ้าน
หวังมานานแล้วว่าจะได้เจ้าหน้าที่รัฐมาช่วยแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ปัญหาของยาเสพติดถือว่าเป็นตัวขัดขวางสันติสุขในพื้นที่ด้วย
หากแก้ไขจุดนี้ไม่ได้ก็เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักขัดกวางการแก้ไขปัญหาเหตุความไม่สงบในพื้นที่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ด้วย”
นายเซ็ง กล่าว
ขอบคุณทีมข่าว
SMILE
ชายแดนใต้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น