เมื่อวันที่
25 พ.ย. 61 ที่หอประชุมโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิยะลา
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา
ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี บุคคลในครอบครัว
และความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ เนื่องในวันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น “วันขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล” และเดือนพฤศจิกายน
เป็น “เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี” ทั้งนี้
เพื่อกระตุ้นให้สังคมเห็นความสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้น
และร่วมมือกันป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงในครอบครัวและชุมชนของตนเอง โดยมีนายนิมะ
มะกาเจ เป็นประธานเปิดกิจกรรม พร้อมด้วยนางสุภาพร วุฒิศาสตร์
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา และปล่อยขบวนรถรณรงค์
ออกจากโรงเรียนธรรมวิทยา ผ่านแหล่งชุมชน
และรณรงค์ประชาสัมพันธ์บริเวณตลาดสดเมืองใหม่ และสนามโรงพิธีช้างเผือก
เพื่อรณรงค์ให้สังคมได้ตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี
และครอบครัวในปัจจุบัน
ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีนักเรียนและผู้เกี่ยวของเข้าร่วม จำนวน 350 คน
สำหรับกิจกรรมนอกจากจะมีการปล่อยขบวนรถ
รณรงค์ยุติความรุนแรงฯ แล้ว
ยังมีนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว
พ.ศ.2550 การบรรยายให้ความรู้แก่นักเรียน หัวข้อ “รู้เท่าทันความรุนแรงในสังคมยุคปัจจุบัน”
อีกด้วย
นายนิมะ
มะกาเจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี
เป็นปัญหาที่สำคัญและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเด็ก สตรี รวมถึงผู้สูงอายุและคนพิการ
ซึ่งมีสถิติปรากฏให้เห็นและมีแนวโน้มมากขึ้นทุกปี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็ว
ซึ่งส่งผลให้คนในครอบครัว สังคม มีความเครียด
ประกอบกับสังคมส่วนรวมขาดความเข้าใจและตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว
ข้อมูลจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
พบว่าการกระทำความรุนแรงในครอบครัว ปี 2560 มีจำนวน1,309 ราย (ด้านร่างกาย 61.7
เปอร์เซ็นต์ ด้านเพศ 5.4 เปอร์เซ็นต์ ด้านจิตใจ 28.6 เปอร์เซ็นต์)
ส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำของบุคคลใกล้ชิด ซึ่งความรุนแรงต่อเด็ก สตรี
และความรุนแรงในครอบครัว ยังเป็นปัญหาที่อยู่ในความเงียบ
เพราะผู้ที่ตกอยู่ในสภาพปัญหาส่วนใหญ่จะต้องจำทนรับสภาพ และหลายรายถูกกระทำซ้ำ ๆ
จึงขอเรียกร้องทุกภาคส่วนของสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก
สตรี และครอบครัวในทุกรูปแบบ
ดังนั้น
การบรรเทาหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าว
จึงควรเริ่มต้นที่ครอบครัวเพราะเป็นสถาบันแรกที่ให้ความรัก ความอบอุ่น
และตอบสนองความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ รวมทั้งการถ่ายทอดการเรียนรู้
ปลูกฝังเจตคติค่านิยม พฤติกรรมของบุคคล
และทำหน้าที่หล่อหลอมบุคคลให้เป็นไปตามความคาดหวัง ดังนั้น ชุมชนต้องเข้ามามีบทบาทในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวตลอดจนการป้องกันและเฝ้าระวังปัญหาก่อนที่จะเกิดความรุนแรงขึ้น
โดยถือว่าการยุติความรุนแรงเป็นเรื่องของทุกคน ทุกฝ่าย
จำเป็นต้องเชื่อมโยงกันทำงานด้วยความตระหนักมีความเข้าใจอย่างแท้จริง
สามารถนำไปจัดการดูแลคนในชุมชน และส่งเสริมให้ครอบครัวมีความเข้มแข็งอบอุ่น เช่น
ใช้เวลาร่วมกัน และทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสถานภาพอันดีของครอบครัว
ต่อไป
------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น