ประวัติ
เดิมจังหวัดยะลามิได้อยู่ในที่ปัจจุบัน
ได้โยกย้ายสถานที่ตั้งถึง 4 ครั้ง ครั้งแรกอยู่ที่ตำบลยะลอกูเบ
(อยู่ระหว่างเขตอำเภอยะหากับอำเภอเมืองยะลา) ครั้งที่ 2
ย้ายตัวเมืองมาตั้งที่ตำบลท่าสาป ริมฝั่งแม่น้ำปัตตานี ครั้งที่ 3 ย้ายไปตั้งที่ตำบลสะเตง
ครั้งที่ 4 ย้ายมาตั้งที่ตำบลบ้านนิบง อันเป็นที่ตั้งเมืองในปัจจุบัน
การที่ต้องย้ายที่ตั้งเมืองบ่อย ๆทำให้ข้าราชการภายใต้การดำริของ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาขณะนั้น
และประชาชนชาวยะลาได้พร้อมใจกันก่อสร้างหลักเมืองขึ้นที่บริเวณศูนย์วงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัด
โดยเริ่มวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2505เวลา 10.30น.
เพื่อเป็นศิริมงคลแก่พี่น้องชาวยะลาจนถึงทุกวันนี้
สถานที่ตั้ง
ศาลหลักเมืองยะลา
ตั้งอยู่ในกลางวงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัด เป็นที่สักการบูชา
เคารพนับถือของชาวจังหวัดยะลา โดยประมาณปลายเดือน พฤษภาคม
มีงานสมโภชเจ้าพ่อหลักเมืองซึ่งเป็นงานเทศกาลประจำปีงานหนึ่งของภาคใต้
นอกจากนี้ศาลหลักเมืองยะลายังเป็นจุดศูนย์กลางของผังเมืองรูปใยแมงมุม
ซึ่งมีคำว่าเมืองยะลา เป็นเมืองที่มีผังเมืองสวยที่สุดใน ประเทศ
ความสำคัญต่อชุมชน
หลักเมืองยะลาเป็นสถานที่สำคัญเพราะเป็นเสาหลักของจังหวัดยะลา
ทำให้เมืองนครยะลามีความร่มเย็นเป็นสุข ไม่ต้องโยกย้ายสถานที่ไปที่ไหนอีกต่อไป
ประชาชนต่างก็ไปกราบไหว้บูชาหลักเมืองกันเป็นนิจ
และทุกปีจะมีการจัดงานฉลองสมโภชศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
มีการออกร้านของหน่วยราชการต่าง ๆ มีพ่อค้าประชาชนมาแสดงงานอาชีพมากมาย
ตลอดจนมีมหรสพให้ชมกันตลอดทั้ง 7 วัน 7 คืน นับตั้งแต่วันที่ 25 - 31 พฤษภาคม พ.ศ.2505
และยึดถือเป็นงานสมโภชประจำปีตลอดมาจนกระทั่งปัจจุบัน
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม
เสาหลักเมืองทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์
มีช่างจากกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบแกะสลักเสาหลักเมือง
ลักษณะของเสาเป็นแท่งกลมต้นเสาวัดโดยรอบ 105 เซนติเมตร ปลายเสา 48เซนติเมตร สูง 1.25
เมตร เสานี้วางอยู่บนฐานซึ่งมีลักษณะกลม แกะสลักลวดลายแบบไทย
ลงรักปิดทองรอบฐานชั้นบน และกลาง แกะสลักเป็นรูปนักรบโบราณถือโล่และดาบ
กล่าวกันว่า(จากวิญญาณผู้มาเข้าทรง)
เป็นวิญญาณของแม่ทัพคนหนึ่งของพระเจ้าตากสินมหาราช
ยอดเสาหลักเมืองแกะเป็นรูปพระพรหม มี 4 หน้า
ลงรักปิดทองทั้งองค์ตัวศาลหลักเมืองก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก
ตกแต่งด้วยหินขัดทั้งหลังเป็นรูปจตุรมุขหันหน้าไปตามทิศทั้ง 4 มีบันไดขึ้นทั้ง 4
ทิศ รูปลักษณ์ 4 เหลี่ยม ย่อมุมไม้สิบสอง หลังคามุงด้วยกระเบื้องสลับสี
ตัวศาลากว้าง 6 เมตร ยาว 6 เมตร สูง 6.50 เมตร
ตั้งอยู่บนเนินดินซึ่งถมปรับเป็นวงกลมรัศมีห่างจากตัวศาลโดยรอบ 10 เมตร
สูงจากระดับถนน 1.50 เมตร มีถนนทางเข้า 4ทิศ รอบ ๆ
ตัวศาลจะมีสระน้ำและปลูกไม้ประดับดูร่มรื่น
และในฐานะที่เป็นเสาหลักเมืองคู่กับเมืองยะลามาจนทุกวันนี้ก็ด้วยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน (รัชกาลที่ 9)
ทรงพระสุหร่ายประพรมและทรงเจิม และพระราชทานแก่ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ
เมื่อวันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 และได้ฤกษ์ประกอบพิธีฝังเสา
และปักยอดหลักเมือง เมื่อ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 เวลา 12.11 น.
เส้นทางเข้าสู่สถานที่สำคัญ
ปัจจุบันหลักเมืองยะลาเป็นศูนย์กลางเมืองยะลาอยู่ตรง
วงเวียนชั้นในสุด เป็นที่ทำการของส่วนราชการต่าง ๆ เช่นศาลากลางจังหวัด ศาล
สำนักงานที่ดิน สถานีวิทยุกระจายเสียง และที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา
บรรดาถนนทุกสายที่มาจากอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดจะมาร่วมกันที่หลักเมือง
จากศาลากลางจังหวัดไปยังหลักเมืองประมาณ 10 เมตร
-------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น