วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

สะบ้าย้อยเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ เทือกเขาสันกาลาคีรี


เทือกเขาสันกาลาคีรี ภูเขาที่สลับซับซ้อน เป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย ผืนป่าผืนนี้ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิดที่น่าสนใจ ประกอบกับมีจุดเด่นของธรรมชาติที่สวยงาม เป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำเทพา ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่ตลอดไป การดำเนินการสำรวจเพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติจึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะสามารถป้องกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ให้คงอยู่ตลอดไป


ความเป็นมา: จากการบินตรวจสภาพพื้นที่ป่าในท้องที่จังหวัดสงขลาของ นายสมภพ สุขวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2538 ได้พบว่า พื้นที่ป่าเทือกเขาสันกาลาคีรี ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขาโต๊ะเทพ ป่าควนหินลับ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาแดน ป่าควนเจดีย์ ป่าเขาพระยาไม้ และป่าควนกำแพง และป่าสงวนแหงชาติป่าควนราสอ ป่าควนน้ำร้อน ป่าควนสอหรอ ป่าควนบางพลา ยังเป็นผืนป่าที่มีความสมบูรณ์ และป่าผืนนี้ยังเป็นป่าต้นน้ำลำธารของแม่น้ำเทพาที่มีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องที่อำเภอสะบ้าย้อยและอำเภอใกล้เคียง นอกจากนี้ราษฎร หมู่ที่ 2 บ้านไร่เหนือ ตำบลบาโหย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ร่วมกับสภาตำบลบาโหย ได้เสนอให้จัดตั้งป่าผืนนี้ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เพื่อที่จะอนุรักษ์ป่าผืนนี้ให้คงอยู่


กรมป่าไม้ได้มีคำสั่งที่ 1127/2543 ลงวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2543 ให้ นายสมน้อย ภัทรเมธา เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 6 ช่วยราชการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ไปปฏิบัติราชการประจำทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสันกาลาคีรี จังหวัดปัตตานี จังหวัดสงขลา และจังหวัดยะลา เพื่อดำเนินการสำรวจพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นอุทยานแห่งชาติ


อุทยานแห่งชาติสันกาลาคีรีได้รายงานผลการสำรวจตามหนังสือลงวันที่ 15 มกราคม 2544 ว่า พื้นที่ที่ทำการสำรวจมีความเหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ประกอบด้วย ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขาโต๊ะเทพ ป่าควนหินลับ ท้องที่ตำบลบาโหย ตำบลจะแหน และตำบลทุ่งพอ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาแดน ป่าควนเจดีย์ ป่าเขาพระยาไม้ และป่าควนกำแพง ท้องที่ตำบลเขาแดง และป่าสงวนแหงชาติป่าควนราสอ ป่าควนน้ำร้อน ป่าควนสอหรอ ป่าควนบางพลา และป่าโต๊ะเทพ ท้องที่ตำบลทุ่งพอ และตำบลเขาแดง อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา มีพื้นที่รวม 134,599ไร่ หรือประมาณ 215.36 ตารางกิโลเมตร และได้รับความเห็นชอบจากองค์การบริหารส่วนตำบลทุกตำบล และคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการลักลอบทำลายทรัพยากรป่าไม้ประจำจงหวัดสงขลา ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2544 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2544


ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปลักษณะของอุทยานแห่งชาติสันกาลาคีรี เป็นภูเขาสลับซับซ้อนทอดตัวยาวไปจนจดชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยมีเขาควนกำแพงเป็นยอดเขาสูงสุด มีความสูงประมาณ 500 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารที่ก่อกำเนิดลุ่มแม่น้ำเทพา


ลักษณะภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จึงทำให้ฝนตกชุก มีฤดูฝนยาวนานระหว่างเดือนพฤษภาคม - เดือนมกราคม และฤดูร้อนระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - เดือนเมษายน
พืชพรรณและสัตว์ป่า
สภาพผืนป่าเป็นป่าดิบชื้น มีเรือนยอดของต้นไม้ปกคลุมหนาแน่น มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญและมีค่าหายากหลายชนิด อาทิเช่น หลุมพอ ไข่เขียว สยา ตะแบก เสียดช่อ ตังหน ตะเคียน แคหิน กฤษณา เป็นต้น
สัตว์ป่าส่วนใหญ่ที่พบเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดกลางและขนาดเล็ก นก สัตว์เลื้อยคลาน แมลง และสัตว์ป่าที่มีค่าหายากต่างๆ เช่น สมเสร็จ กระทิง เสือโคร่ง เสือปลา กระจง เก้ง เลียงผา ไก่ป่า นกกางเขนดง นกเงือกกรามช้าง นกเงือกกรามช้างปากเรียบ นกแก็ก นกเงือกหัวแรด นกกก เป็นต้น
การเดินทาง
รถยนต์
การเดินทางไปยังพื้นที่อุทยานแห่งชาติสันกาลาคีรี สามารถเดินทางโดยรถยนต์ตามเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 43 (สงขลา-ปัตตานี) แล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 4085 ผ่านอำเภอเทพา ถึงอำเภอสะบ้าย้อย จากอำเภอสะบ้าย้อยไปตามเส้นทางหลวงจังหวัดหมายเลข 4095 ผ่านบ้านเขาแดงจนถึงบ้านถ้ำตลอด แล้วเลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 40 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
ที่ตั้งและแผนที่
สถานที่ติดต่อ : หมู่ที่ 2 ต.บาโหย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
โทรศัพท์ : 0 7432 9644 ถึง 5
อีเมล: sankarakiri@windowslive.com
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ : นายปรีชา เฝือคง
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ
- ยังไม่เสียค่าบริการ -


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น