วันที่
10 ก.ค.62 ที่สวนศักดิ์ศรี หมู่ที่ 2 หมู่บ้านบ่อน้ำร้อน ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง
จ.ยะลา ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายศักดิ์ศรี สง่าราศรี เจ้าของสวนศักดิ์ศรี
บอกว่าขณะนี้ ทุเรียนโอฉี่หรือหนามดำ
กำลังเป็นที่นิยมในการบริโภคและนำไปปลูกกันมาก โอฉี่หรือหนามดำ ซึ่งเป็นทุเรียนที่มีการปลูกกันมากรองลงมาจากทุเรียนสายพันธุ์
“รายากูหงิด” หรือ “ทุเรียนสายพันธุ์มูซังคิง”
ในรัฐปีนังและรัฐกลันตัน ของมาเลเซีย โดย “ทุเรียนโอฉี่หรือหนามดำ
” เกิดจากการที่ นายเหลียว เชือก เกี๋ยง หรือมิสเตอร์เกี๋ยง
นำเอาเมล็ดทุเรียนไม่ทราบพันธุ์จากประเทศไทยเมื่อ 30
ปีก่อนไปปลูกจนต้นโตติดผลดกเต็มต้น มีทรงผลสวย เปลือกบาง เมล็ดเล็ก
เนื้อสุกเป็นสีเหลืองอมส้ม เหมือนทองคำ เนื้อละเอียดเนียน
รสชาติหวานมันและหวานแหลมมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื้อเยอะ
รับประทานอร่อยมาก ที่สำคัญ “ทุเรียนโอวฉี” หรือ “ทุเรียนหนามดำ” จัดเป็นสายพันธุ์เบา
หมายถึงมีดอกและติดผลได้ง่ายหลังปลูกเพียงแค่ 4–5 ปี
สามารถมีดอกและติดผลได้แล้ว น้ำหนักผลเฉลี่ยระหว่าง 2-3 กิโลกรัม และไม่มีรสขม
ราคาที่หน้าสวนอยู่ที่ 650 บาทต่อกิโลกรัม น้ำหนักเฉลี่ยลูกละ 3.5 – 5 กิโลกรัม ราคาต่อลูกจึงอยู่ที่ 2,000 - 3,250 บาทโดยประมาณ
เมื่อนำผลผลิตออกจำหน่ายได้รับความนิยมจากผู้ซื้อจากมาเลเซีย
สิงคโปร์ และคนไทย อย่างกว้างขวาง โดยมีราคาหน้าสวนระหว่างกิโลกรัมละ 600–650 บาท และเมื่อส่งเข้าประกวดจนได้รับรางวัลแชมเปี้ยน 4
ปีซ้อนที่กรมวิชาการเกษตรของมาเลเซียจัดขึ้นที่รัฐปีนัง
และได้รับความนิยมจากชาวสวนเกษตรกรอย่างแพร่หลายในประเทศมาเลเซีย
กับทุเรียนเพาะเมล็ด ของ นายเหลียว เชือก เกี๋ยง หรือมิสเตอร์เกี๋ยง
ได้จดทะเบียนรับรองพันธุ์ ในชื่อ “ทุเรียนโอฉี่หรือหนามดำ ”
“ทุเรียนโอฉี่หรือหนามดำ ” มีจุดเริ่มจาก นายเหลียว
เชือก เกี๋ยง หรือมิสเตอร์เกี๋ยง เมื่อ 30 ปีก่อนได้นำเอาเมล็ดทุเรียนจากประเทศไทย
ไม่ทราบพันธุ์ไปปลูกจนต้นโตติดผลดกเหมือนกับ “ทุเรียนสายพันธุ์มูซังคิง”
แต่รูปทรงของผลจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ผลโตเต็มที่มีน้ำหนักเฉลี่ยใกล้เคียงกันระหว่าง 3.5 – 5
กิโลกรัมต่อผล ซึ่งมีลักษณะเด่นของพันธุ์ โดยสังเกต ที่ไส้แกนกลางจะมีไส้สนิมอยู่
ผลของทุเรียน และที่ก้นทุเรียนต้องมีสีดำ
อันเป็นลักษณะเด่นที่ไม่พบเห็นในทุเรียนสายพันธุ์อื่นทั่วไป
นายศักดิ์ศรี
สง่าราศรี เจ้าของสวนศักดิ์ศรีเบตง บอกว่า หลังได้ศึกษาทุเรียน โอฉี่หรือ หนามดำ
จนเป็นที่สนใจเลย ตัดสินใจแตกแขนงธุรกิจเกษตร เพาะต้นกล้าโอฉี่ หรือ หนามดำ
เป็นคนแรกๆ ที่ผลิตต้นกล้าพันธุ์ทุเรียน”โอฉี่” โดยเอากิ่งพันธุ์จาก สวนทุเรียนของ นายเหลียว เชือก เกี๋ยง
หรือมิสเตอร์เกี๋ยง อยู่ที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย
เป็นแม่พันธุ์นำเข้ามาลิมสเตอร์เกี๋ยงได้เดินทางมาถึงสวนเพื่อดูการเพาะปลูกให้เป็นไปตามต้นกำเนิดสายพันธุ์
จนเจ้าของสายพันธุ์การันตีของสายพันธุ์
โดยได้นำกล้าพันธุ์โอฉี่มาเพาะปลูกจนมีดอกและติดผลดกเป็นธรรมชาติต่อมาได้มีการขยายพันธุ์ด้วยวิธีเสียบยอดออกวางขาย
ซึ่งได้รับความนิยมจนมีผู้มาติดต่อซื้อกล้าพันธุ์โอฉี่นำไปปลูกอย่างกว้างขวาง
ไม่แพ้ “ทุเรียนมูซางคิง” ราคาอยู่ในระดับเดียวกัน
ปัจจุบันทุเรียนทั้ง 2 ชนิด มีการปลูกเป็นการพาณิชย์เพื่อเก็บผลส่งต่างประเทศ เช่น
จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ประเทศ ในแถบยุโรป และ อเมริกา
ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างมากใครต้องการต้นพันธุ์ไปปลูกไปติดต่อได้ที่คุณศักดิ์ศรี
โทร.098-016-2806 และคุณไกรวุฒิ 086-347-5765
---------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น