วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

เมืองทุเรียน-กาแฟ อีกเสน่ห์ของยะลา


                ข้อแรกที่คิด ณ วันนี้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด (จีดีพี) ตั้งแต่ปี 2559 รายได้ประชาชาติต่อหัวต่อคนยะลาน้อยที่สุดในภาคใต้ ขนาดเทียบกับสามจังหวัดด้วยกันยังตกมากกว่าปัตตานี นั่นเพราะความเป็นศูนย์กลางของจังหวัดยะลาลดลงไป เหตุผลที่ลด เพราะการคมนาคม ในอดีตเมื่อ 50 ปีที่แล้ว คนเดินทางด้วยรถไฟ ทุกคนต้องมายะลา มุสลิมไปทำพิธีฮัจญ์ ก็มาขึ้นรถไฟที่ยะลา แต่พอโลกยุคใหม่เปลี่ยนก็ไปเครื่องบิน ความจำเป็นต้องมายะลาไม่มีแล้วนายพงษ์ศักดิ์ว่า ความเป็นศูนย์กลางของสามจังหวัดก็ลดลง เพราะฉะนั้นความสามารถในการแข่งขันของเมืองก็ลดลงด้วย ข้อสอง ถนนหนทางดีขึ้น สมัยก่อนคนสะบ้าย้อยจะไปกรุงเทพฯก็มาขึ้นรถไฟที่ยะลา เดี๋ยวนี้คนสะบ้าย้อยก็ขับรถไปเอง โดยไม่ต้องมาผ่านเมือง นี่คือโจทย์ใหญ่ที่มองว่าจะต้องสร้างเมืองในเรื่องความสามารถในการแข่งขันกลับคืนมา ข้อสาม เรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจยะลา คนยะลาพึ่งยางพาราถึง 70% ของเศรษฐกิจทั้งหมด พอราคายางลดลงก็พากันซบเซา ไม่มีตัวอื่นมาชดเชย แต่ถ้าเป็นการท่องเที่ยวอาจจะมีที่เบตง แต่ในตัวเมืองยังไม่มีถ้าผมเป็นคนร่างนโยบาย ก่อนอื่นต้องถามว่าทำไมต้องมายะลา ก็ไม่มีคำตอบแต่ถ้าถามว่าทำไมต้องไปปัตตานี ยังมีเหตุผลคือ ไปไหว้ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ไปไหว้หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ หรือทำไมต้องไปนราธิวาส ก็อาจไปขึ้นเครื่องบิน แต่มายะลายังไม่มีเหตุที่ต้องมาข้อสี่ ประชากรน้อยที่สุดยะลามีประชากร 520,000 คน ปัตตานี 700,000 คน นราธิวาส 790,000 คนนายพงษ์ศักดิ์ยกตัวอย่าง คนนราธิวาสมากกว่ายะลา 270,000 คน กินข้าวยำคนละห่อ คนนราธิวาสกินข้าวยำมากกว่าคนยะลา 270,000 ห่อต่อมื้อ ห่อละ 10 บาท มื้อหนึ่ง 2 ล้านเจ็ด ถ้าสามมื้อก็ 8 ล้าน เดือนหนึ่ง 240 ล้านบาท ปีหนึ่ง 2,800 ล้านบาท เฉพาะค่าข้าวยำ นี่คือสิ่งที่มีผลทั้งสิ้นยะลามีต้นทุนที่ดีมากในเรื่องภาคเกษตร ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ปลูกผลไม้ทุกชนิดอร่อยหมด แต่ผลผลิตมวลรวมในภาคเกษตรหมื่นสองพันล้าน ซึ่งต่ำมาก เพราะพึ่งยางพาราอย่างเดียว
                จังหวัดยะลาปลูกผลไม้ ส้มโชกุนสุดยอดคือโชกุนยะลา ปลูกกล้วยหินดีที่สุด เป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI (Geographical Indication) ลองกองยะลาดีที่สุด หอม หวาน แห้ง ปลูกทุเรียนยะลาดีที่สุด แต่ที่อื่น เอาไปหาประโยชน์หมด เพราะไม่เคยทำแบรนด์ดิ้ง (ตราสินค้า)ทุกคนไม่รู้ว่านี่คือทุเรียนยะลา เช่น มูซานคิง พวงมณี หมอนทองสุดยอดที่สุดแถวบันนังสตาขึ้นไปข้อห้า ส่งเสริมการปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้า ยะลาดีที่สุดเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว ผมลงไปจับเรื่องเกษตร แต่สิ่งหนึ่งที่พบคือ มายเซต (ความเชื่อที่มีผลต่อพฤติกรรม) ของคนทำเกษตรล้าหลังมาก สองพันธุ์ทั้งหมดไม่เคยมีการปรับปรุง เนื่องจากว่าเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ จึงไม่มีใครกล้าออกนอกพื้นที่ไปทำการวิจัยพัฒนา สาม เหตุการณ์เพิ่งจะดีเมื่อสองสามปี ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาเต็มที่ การตลาดก็ยังไม่มี ทุกคนมาหาประโยชน์จากสิ่งที่เป็นความสมบูรณ์ของยะลา เช่น ผลไม้ ซื้อไปแล้วเอาไปขายต่อในนามของอีกจังหวัดหนึ่ง และบวกราคา นี่เป็นเรื่องที่เรารับไม่ได้เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว นายกเทศมนตรีนครยะลา จัดประชุมวิชาการเกษตร ครั้งแรกสุดของยะลา เชิญกรมวิชาการเกษตรมาร่วมจัดกับเทศบาล 3 วัน เชิญเกษตรกรทั้งจังหวัดกว่าพันคน อบรมเพื่อสร้างและเปลี่ยนมายเซตสี่ สมัยก่อนลองกองเยอะมาก แต่ราคาลงเหลือ 2-3 บาท ทำให้เกษตรกรไม่มีแรงจูงใจที่จะปลูก ก็ปล่อยทิ้ง แต่วันนี้ผมคิดว่าการปล่อยทิ้ง ถ้าทำให้มีค่าขึ้นมา สมมติขายได้ 50 บาท ก็ได้กำไร 50 บาท เพราะเป็นสิ่งที่เขาไม่ได้คาดหวัง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น