วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

28 กรกฎาคม 2560 มหามงคล "เฉลิมพระชนมพรรษา"



ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความ ปรารถนาดี เพื่ออำนวยพรแก่ท่านทั้งหลายทั่วกัน และขอขอบใจท่านเป็นอย่างมากที่มีไมตรีจิตสนับสนุนข้าพเจ้าในภารกิจทุกอย่างเสมอมา"

ในปีที่แล้ว บ้านเมืองของเรามีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น คือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรได้เสด็จสวรรคตเมื่อเดือนตุลาคม กล่าวได้ว่า นำความโศกเศร้าอาดูรและนับเป็นความสูญเสียของชาวไทยทั้งประเทศ



ข้าพเจ้ารู้สึกตื้นตันและประทับใจที่ได้เห็นประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ถ้วนหน้า มีจิตจงรักภักดี และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณพรั่งพร้อมกันมาถวายสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง

ขอขอบใจทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจช่วยงานพระบรมศพอย่างพร้อมเพรียง ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ข้อนี้น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า คนไทยนั้นมีจิตใจดี มีความกตัญญูกตเวที มีความเอื้ออารีต่อกัน มีความรักชาติแผ่นดิน เป็นคุณสมบัติประจำชาติ และมีความรู้ความสามารถไม่แพ้ชนชาติอื่นใด

ดังนั้น ไม่ว่าจะมีอุปสรรค ปัญหา หรือเหตุไม่ปกติใดๆเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา ก็เชื่อได้ว่า ถ้าเราจะร่วมกันคิดอ่านและช่วยกันปฏิบัติแก้ไข ทุกสิ่งทุกอย่าง จะสามารถคลี่คลายลุล่วงไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน


ปีใหม่นี้ ขอให้ชาวไทยทุกคนตั้งใจให้แน่วแน่ที่จะรักษาคุณสมบัตินี้ให้เหนียว แน่น และทำความคิด จิตใจ ให้แจ่มใส ด้วยปัญญาที่กระจ่าง พิจารณาทุกสิ่งที่เกิดมีขึ้นตามความเป็นจริง โดยปราศจากอคติ ให้มีความมุ่งมั่น มีกำลังใจ ในอันที่จะร่วมกันปฏิบัติสรรพกิจน้อยใหญ่ในภาระหน้าที่ตามแนวพระบรมราโชบายที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานไว้ ให้งานทุกอย่างสำเร็จผล เป็นความดี ความเจริญ ทั้งแก่ตนเอง แก่ส่วนรวม และประเทศชาติ เป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

ในการนี้ ข้าพเจ้าขอปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับประชาชนชาวไทยโดยเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานเช่นกัน



นสพ.ไทยรัฐอัญเชิญพระราชดำรัสที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานพรปีใหม่ พ.ศ.2560 แก่ประชาชนชาวไทย เมื่อค่ำวันที่ 31 ธันวาคม 2559

ถือเป็นนิมิตหมายในการเริ่มต้นศักราชใหม่ ภายใต้รัชกาลปัจจุบัน

จับใจความสำคัญที่สะท้อนถึงความตั้งมั่นในพระราชหฤทัย ในการร่วมกับประชาชนชาวไทยฝ่าฟันวิกฤติปัญหาด้วย พลังแผ่นดินอันเป็นคุณสมบัติพิเศษประจำชาติ เพื่อทำให้บ้านเมืองอยู่อย่างปกติสุข

 สืบสานพระราชปณิธานพระราชบิดา

และพอดีกับห้วงสถานการณ์ปลายปี 2559 ถึงต้นปี 2560 ได้เกิดภาวะอุทกภัย น้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ 11 จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา กระบี่ พัทลุง นราธิวาส ยะลา ปัตตานี ตรัง ชุมพร ระนอง รวมถึงประจวบคีรีขันธ์ สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชนจำนวนมาก

ชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัยต้องเผชิญทุกข์แสนสาหัส ซึ่งนั่นก็ได้เห็นถึงน้ำพระทัย ในหลวงรัชกาลที่ 10ที่ทรงห่วงใยประชาชนของพระองค์ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้องคมนตรี ผู้แทนพระองค์อัญเชิญถุงยังชีพพระราชทาน สิ่งของพระราชทาน และชุดธารน้ำใจสภา กาชาดไทย ไปมอบให้ประชาชนผู้เดือดร้อน พร้อมพระราชทานลายพระหัตถ์ห่วงใยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2560

ด้วยความรักและห่วงใย ขอเป็นกำลังใจในการร่วมกันฟื้นฟูและพัฒนา เพื่อขวัญที่ดี จิตใจและร่างกายที่เข้มแข็ง นำมาซึ่งความสุขและความมั่นคงของชาติ



พระราชทานทั้งกำลังทรัพย์ กำลังกาย และกำลังใจ

ในสถานการณ์ต่อเนื่องกัน สมเด็จพระเจ้า อยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ ยังทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยเฉพาะกิจ 904 กองพัทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ กองร้อยรักษาความสงบ กองพันทหารม้าที่ 20 กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ ข้าราชบริพาร หน่วยราชการในพระองค์ข้าราชบริพาร หน่วยราชการในพระองค์ พร้อมหน่วยงานกรุงเทพมหานคร ร่วมกันกำจัดผักตบชวา วัชพืชที่กีดขวางทางระบายน้ำ ขุดลอกคลองในพื้นที่กรุงเทพฯ

 ด้วยทรงห่วงใยในปัญหาขยะและผักตบชวากีดขวางทางระบายน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในเขต กทม. สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วม รวมถึงการจราจรที่ติดขัดอย่างหนัก ก่อผลกระทบทั้งด้านสุขภาพจิตและความเสียหายทางเศรษฐกิจ



 แสดงให้เห็นเลยว่า ทุกข์ของพสกนิกรอยู่ในพระเนตรพระกรรณ

 ที่สำคัญทรงปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องไม่ใช่แค่ยามภัยพิบัติเท่านั้น ดังเห็นได้จากการพระราชทานทุนการศึกษาและอาหารกลางวันให้ที่ต่อเนื่องมาจาก มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารตั้งแต่ พ.ศ.2553
โดยมีพระราชดำริให้นำพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และทรัพย์จากผู้บริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งการสร้างโรงเรียน การให้ทุนการศึกษา เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนที่ยากจน ได้มีโอกาสศึกษาอย่างต่อเนื่อง
นั่นก็เพราะทรงตระหนักในคุณค่าความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศให้มีคุณภาพด้วยการให้การศึกษา เพราะการศึกษาจะสร้างโอกาสให้ได้เรียนรู้วิชาการความรู้ต่างๆที่จะสามารถนำมาใช้ประกอบอาชีพ พัฒนาตนเองให้มีความรู้ ความสามารถ อันเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สังคม ตลอดจนประเทศชาติ

 ด้วยสายพระเนตรที่มองการณ์ไกลถึงอนาคตของประเทศไทย


ไม่ใช่แค่การศึกษาด้านเดียว ยังมีเรื่องของการดูแลเสริมสร้างสุขภาพอนามัยของประชาชน การรักษาพยาบาล โดยเฉพาะคนยากจนด้อยโอกาสในชนบทห่างไกลที่พระราชทานความช่วยเหลือคนเจ็บป่วย ผู้พิการทุพพลภาพ รับเป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ รวมถึงพระราชทานทรัพย์สนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ผ่านโรงพยาบาล สมเด็จพระยุพราชทั้ง 21 แห่ง ทั่วทุกภาคของประเทศ ตลอดช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ช่วยฟื้นคุณภาพชีวิตของพสกนิกร ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากพื้นฐานที่พระราชบิดาได้ทรงวางแนวทางไว้ โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงใส่พระทัยกับการสานต่อโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระราชบิดาที่ทรงริเริ่มและมีโครงการไว้แล้วกว่า 4,447 โครงการ
ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ โครงการพัฒนาด้านการเกษตร โครงการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม โครงการพัฒนาด้านส่งเสริมอาชีพ โครงการพัฒนาด้านสาธารณสุข โครงการพัฒนาด้านสาธารณสุข โครงการพัฒนาด้านคมนาคม โครงการสวัสดิการสังคมและการศึกษา และโครงการอื่นๆที่พระองค์ทรงตั้งพระราชหฤทัยแน่วแน่ จะสานต่อโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชต่อไป



นอกจากการใส่พระทัยด้านการศึกษา การสาธารณสุข ฟื้นคุณภาพชีวิตของพสกนิกร และการบรรเทาทุกข์ให้ผู้ประสบภัยพิบัติ ในหลวงรัชกาลที่ 10ยังทรงใฝ่ในพระพุทธศาสนา

ดังจะเห็นว่า ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในด้านการพระศาสนามาโดยตลอด อาทิ ได้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไปทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามฤดูกาลทุกปี และในเทศกาลวันสำคัญทางศาสนา มาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา จะเสด็จ พระราชดำเนินแทนพระองค์ ในหลวงรัชกาลที่ 9ในการบำเพ็ญพระราชกุศลไม่เคยขาด
โดยเฉพาะในปี พ.ศ.2560 นี้ ซึ่งถือเป็นปีแรกในรัชกาล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันวิสาขบูชา โดยทรงนำสวดมนต์เนื่องในวันวิสาขบูชา ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรม มหาราชวัง เมื่อวันพุธที่ 10 พฤษภาคม
ทรงดำเนินพระองค์เป็นแบบอย่างของพุทธมามกะที่เคร่งครัด ศรัทธาในพระพุทธศาสนา อันเป็นพื้นฐานของความดีงาม นำไปสู่สังคมที่สงบสุข


และด้วยหลักธรรม ทำให้ทรงเปี่ยมไปด้วยพระเมตตา

พระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกร ทรงใส่พระทัยไม่มองข้ามแม้จะเป็นจุดเล็ก จุดน้อย ซึ่งสะท้อนถึงความรักอันยิ่งใหญ่ต่อเหล่าประชาชนของพระองค์ ดังจะเห็นได้จากการที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ นำอาหาร ขนม ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานแจกจ่ายให้ประชาชนที่มาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระบรม มหาราชวัง

โดยเป็นอาหารที่ดีมีคุณภาพ ปรุงสุกใหม่ และมีประโยชน์ทางโภชนาการ เนื่อง ด้วยพระองค์ต้องการให้คนไทยมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง เป็นกำลังเสริมในการพัฒนา ชาติบ้านเมือง อย่างที่ทรงปฏิบัติเป็นตัวอย่างในการออกกำลังพระวรกายเพื่อพลานามัยที่แข็งแรงอย่างสม่ำเสมอ นอกจากเรื่องสุขภาพพลานามัยแล้ว ที่แข็งแรง เป็นกำลังเสริมในการพัฒนาชาติบ้านเมือง อย่างที่ทรงปฏิบัติเป็นตัวอย่างในการออกกำลังพระวรกายเพื่อพลานามัยที่แข็งแรงอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากเรื่องสุขภาพพลานามัยแล้ว ยังมีเรื่องของกิจกรรมสันทนาการ อย่างที่มีพระราชดำริให้จัดการแสดงดนตรีเฉลิมพระเกียรติที่จัดขึ้นบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าทุกวันเสาร์ เวลา 19.00-21.30 น. โดยการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนวงดุริยางค์ของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาบรรเลงให้ประชาชนทั่วไปได้รับชมรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อนำความทรงจำเก่าของปวงชนชาวไทยที่เคยได้รับฟังเพลงพระราชนิพนธ์กลับคืนสู่ผืนแผ่นดินไทย และเพื่อความสุขความรักสามัคคีของคนในชาติ

เป็นการฟื้นบรรยากาศดีงามของเมืองไทยในอดีตที่ผ่านมา
ทั้งหมดทั้งปวงก็ด้วยพระราชหฤทัยที่มุ่งมั่น พระราชปณิธานที่แน่วแน่ ในการรวมพลังคนในชาติ นำพาประเทศไทยก้าวข้ามการเปลี่ยนผ่านไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ทำให้พสกนิกรของพระองค์อยู่กันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข

ดังที่มีพระราชดำรัสตอบในการรับขึ้น ทรงราชย์
ตามที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา ได้กล่าวในนามของปวงชนชาวไทยเชิญข้าพเจ้าขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ว่าเป็นไปตาม พระราชประสงค์ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถ บพิตร ให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎ มณเฑียรบาล
ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนั้น ข้าพเจ้าขอตอบรับเพื่อสนองพระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง


ซึ่งนั่นก็แสดงให้เห็นจากพระราชกรณียกิจตั้งแต่ขึ้นทรงราชย์ ในหลวงรัชกาลที่ 10ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดำรงอยู่บนพื้นฐานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ชาวไทย ดำเนินตามรอยพระบาท สนองพระราชปณิธานของพระราชบิดา

สมดั่งที่ประชาชนคนไทยเทิดทูนสถาบันอยู่เหนือเกล้าฯ 
ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2560 ปีแรกของรัชกาล 
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน. 



ทีมข่าวการเมือง



.....................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น