วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ความรัก ความซาบซึ้ง ของผู้พิการชาวมุสลิมยะลาที่มีต่อ”ในหลวง”


        ความรัก ความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย ทุกเชื้อชาติ ศาสนา ไม่เพียงแต่ประชาชนทั่วไปเท่านั้น ผู้พิการอย่างนายสาแมง เจ๊ะมิง อายุ 72 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ตำบลวังพญา อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ก็เช่นเดียวกัน ในทุกๆ วัน เป็นเวลานานกว่า 20 ปี ที่นายสาแมง เจ๊ะมิง ใช้จักรยานเป็นยานพาหนะคู่ใจ ในการเดินทางขับขี่ออกไปรับจ้างทั่วไป และเก็บสิ่งของไปขายเพื่อเลี้ยงชีพ โดยทุกครั้งที่นำรถจักรยานออกไป นายสาแมง เจ๊ะมิง จะติดธงชาติไว้สองข้าง รวมทั้งนำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ติดตัวก่อนออกจากบ้านไปด้วยทุกครั้ง



          นายสาแมง เจ๊ะมิง ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นผู้พิการมาตั้งแต่กำเนิด พูดไม่ชัด มีพี่น้อง 7 คน โดยตนเองได้แยกออกมาอยู่เพียงลำพัง มีรายได้จากการรับจ้างทั่วไป เก็บของขาย รวมทั้งเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ผู้พิการ โดยจะใช้รถจักรยานในการตระเวนออกรับจ้าง ในพื้นที่ตำบลวังพญา และพื้นที่ใกล้เคียง หลังจากที่ได้รับถุงยังชีพพระราชทาน เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ซึ่งภายในถุงยังชีพพระราชทานมีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตนเองก็ได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ติดตัวไปด้วยทุกครั้ง โดยจะตั้งไว้ที่บริเวณหน้ารถจักรยาน ด้วยความรักในหลวงและซาบซึ้งในหัวใจมากๆ จึงได้นำติดตัวไปตลอด


          หลังจากได้ทราบข่าว ว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต ตนเองก็เสียใจมาก เสียดายพระองค์ท่าน พระองค์ท่านทรงทำทุกอย่าง ทุกๆ ด้านเพื่อประชาชน โดยเฉพาะหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งประชาชนได้นำมาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น หลังจากนี้ตนเองก็จะนำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เก็บรักษาไว้ที่บ้านเพื่อไม่ให้ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ เสียหาย เนื่องจากมีเพียงภาพเดียว และจะรักและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านตลอดไป



          เช่นเดียวกับอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 บ้านปากาซาแม นายอาแซ ดาหะซี ซึ่งได้นำ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาใช้ในครอบครัว กล่าวว่า ตนเองได้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ปลูกผัก เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงแพะ ไว้รับประทานเองที่บ้าน เพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยเหลือจากรับประทานกันในครอบครัว ก็จะนำไปขายเป็นรายได้ให้กับครอบครัว ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ถึงแม้ว่า ณ เวลานี้ จะไม่มีพระองค์ท่านอีกแล้ว ตนเองก็จะขอเดินตามรอยพระองค์ท่าน โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงตลอดไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น