วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562

อาชีพพระราชทานของชาวนราธิวาส “จักสานย่านลิเภา”

        จังหวัดนราธิวาส เป็นจังหวัดที่มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มากเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ รองจากเชียงใหม่  ซึ่งได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ตามพระราชประสงค์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และได้กลายเป็นศิลปหัตถกรรมที่ขึ้นชื่อมากอย่างหนึ่งในปัจจุบันนี้



        แต่เดิมเครื่องจักสานย่านลิเภามีมากในภาคใต้ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของพืชไม้เถาชนิดนี้ แต่มาเจริญรุ่งเรืองแถบเมืองนครศรีธรรมราช ต่อมาศิลปหัตถกรรมนี้ได้แพร่หลายเข้ามาถึงกรุงเทพฯ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการตกแต่งกระเป๋าหมากย่านลิเภาด้วยโลหะหรือวัสดุมีค่า เช่น ทองคำ นาก เงิน และงาช้าง หลังจากนั้นความนิยมเครื่องใช้ย่านลิเภาจึงได้ค่อย ๆ ลดลง จนความรู้เกี่ยวกับงานจักสานย่านลิเภาเกือบจะสูญหายไป




      เมื่อปี พ.ศ.2517 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้โดยเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่จังหวัดนราธิวาส โดยพระองค์ได้พระราชทานโครงการศิลปาชีพจักสานย่านลิเภาขึ้น
       ว่าที่ร้อยตรี จิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอำเภอบาเจาะ เล่าให้ฟังว่าเนื่องจากพื้นที่บาเจาะ เป็นพื้นที่พรุ มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี ทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้พื้นที่ทำมาหากินได้ และมีฐานะยากจนมาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงได้พระราชทานโครงการศิลปาชีพ ด้านการจักสานย่านลิเภา เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ โดยไม่ต้องออกไปทำงานนอกพื้นที่ โดยอำเภอบาเจาะมีสมาชิกศิลปาชีพย่านลิเภามากที่สุดของจังหวัดนราธิวาสคือมีสมาชิกประมาณ 6 พันคน
ด้านนางพารีด๊ะ มะวิง ครูศิลปาชีพ แผนกย่านลิเภา บอกกับทีมงานของเราว่า จากเดิมเป็นสมาชิกส่งผลิตภัณฑ์เข้าประกวดได้รับรางวัล และได้เริ่มเป็นครูศิลปาชีพ มาตั้งแต่ปี 2540 เมื่อปี 2539 พระองค์ทรงรับสั่ง ให้ทำแบบสี่เหลี่ยม แบบขึ้นกลม และดอกพระยาครุฑ ตอนนี้ต้องทำหวายเล็ก เส้นเล็ก ถ้าไม่มีลายก็ได้ แบบมีลายก็ได้ เพียงแต่ต้องหวายเล็กอย่างเดียว เส้นก็ต้องเล็ก คุณพารีด๊ะ เล่าให้ฟังถึงรับสั่งของพระองค์ในครั้งนั้น




        นายมะรอพี แดเนาะ ครูศิลปาชีพ แผนกย่านลิเภาอีกท่านหนึ่งซึ่งมีประสบการณ์สอนมากว่า 25 ปี แล้วบอกว่า เมื่อปี 2527 ได้เข้าเฝ้าฯ ที่บ้านคลอแระ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้ไปเรียนจักสานย่านลิเภาที่สวนจิตรลดา ก่อนมาทำหน้าที่ครูศิลปาชีพ
“...รู้สึกภูมิใจที่ได้เข้าโครงการศิลปาชีพ เพราะว่าสมเด็จฯ ท่านก็เลี้ยงทั้งครอบครัวของผม ตั้งแต่เป็นครูของโครงการจนได้ส่งลูกเรียนจบปริญญาตรี...คุณมะรอพี พูดอย่างภาคภูมิใจ
นายอำเภอบาเจาะ กล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อให้เกิดความยั่งยืน สืบสานงานตามแนวพระราชดำริ ทางอำเภอบาเจาะ ซึ่งเป็นอำเภอเดียวในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ได้จัดทำแปลงอนุรักษ์ย่านลิเภาบนพื้นที่สาธารณะบ้านคลอแระ จำนวน 30 ไร่ ส่วนในในระยะยาวทำอย่างไร ให้อาชีพนี้อยู่คู่กับคนบาเจาะ ก็ได้เตรียมขยายพื้นที่การทำแปลงอนุรักษ์ ไว้แล้วประมาณ 900 ไร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการศึกษารายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงเสนอของบประมาณเพื่อดำเนินการต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น