วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2560

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน 9 แนวทางให้รัฐบาลและประชาชนเป็นหลักปฏิบัติ เพื่อประเทศ


สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทาน 9 แนวทางให้รัฐบาลเป็นหลักปฏิบัติเพื่อประเทศชาติ "นายกฯ" เผย ร.10 ตรัสแนวทางพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 "เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่สมเด็จพ่อได้ทรงทำไว้" รัฐบาลทำสารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เผยแพร่ให้ประชาชนรับชม
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 8 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นการส่วนพระองค์ โดยได้ถวายรายงานการทำงานของรัฐบาลตามห้วงระยะเวลา ซึ่งตนได้ถวายรายงานในทุกๆ เรื่อง ทั้งเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ ปัญหาอุทกภัยและการช่วยเหลือ
     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสรับสั่ง ประกอบด้วย 1.ทรงมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รับสั่งให้ช่วยเหลือตามมาตรการต่างๆ ด้วยความรวดเร็วและทั่วถึง สิ่งใดที่สถาบันจะช่วยได้ ก็จะพระราชทานความช่วยเหลือมาให้อย่างที่ทรงทำในปัจจุบัน


     "รับสั่งให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในพื้นที่ ถ้ายังไม่สามารถดำเนินการภาพรวมทั้งหมดได้ ก็ให้ทยอยดำเนินการไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวผมได้กราบบังคมทูลอธิบายถวายให้ทรงทราบแล้วว่ารัฐบาลกำลังมีโครงการต่างๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงริเริ่มไว้มาหลายสิบปี ซึ่งบางโครงการก็ยังไม่สำเร็จ หรือยังไม่ครบ ซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่การทำ แต่อยู่ที่ประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียในที่ดินหรือพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งในวันที่ 9 ส.ค. ผมจะหารือกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำในเรื่องดังกล่าว" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว



นายกฯ กล่าวว่า 
2.มีรับสั่งขอให้ทำให้ประเทศชาติ และประชาชนมีความสุข ซึ่งทรงย้ำเสมอทั้งเรื่องการช่วยเหลือ การบรรเทา การจัดระเบียบ การสร้างวินัย สร้างอุดมการณ์ รับสั่งว่าให้ทำทุกมาตรการอย่างต่อเนื่อง

3.ให้ช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีมาแต่โบราณกาลในส่วนที่ดีงาม มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทำให้นักท่องเที่ยวได้พบเห็นและชื่นชม ขอให้รักษาไว้ให้ได้

4.รับสั่งถึงภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ อาทิ ภัยคุกคามในรูปแบบเก่า เรื่องอธิปไตย ซึ่งวันนี้ก็น้อยลง มีเฉพาะเรื่องของการรักษาทรัพยากรทั้งบนแผ่นดินและผืนน้ำ ที่เป็นอาณาเขตของประเทศไทย จำเป็นต้องมีกำลังดูแลรักษา และทรงเป็นห่วงเรื่องภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่ต้องเตรียมมาตรการรองรับให้เป็นสากล ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เกิดในประเทศอื่นก็จะมามีอิทธิพลต่อประเทศไทย อยู่ที่คนไทยทุกคนจะร่วมมือกัน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า

 5.รับสั่งให้เร่งดูแลระบบการศึกษา ซึ่งปัจจุบันเรามีการปฏิรูปกันมากพอสมควร เพื่อเร่งกระบวนการเรียนรู้ให้คนไทยมีความรู้อย่างจริงจัง ทำงานได้ สามารถที่จะมีอาชีพมั่นคง มีความเข้มแข็ง และมีหลักคิดที่ถูกต้องในทุกๆ เรื่อง จะได้ลดความขัดแย้ง

6.รับสั่งให้ช่วยกันส่งเสริมงานจิตอาสา ซึ่งตนได้สั่งการในที่ประชุม ครม.ให้นำแนวพระราชกระแสรับสั่ง โดยกระทรวงมหาดไทยไปจัดตั้งกลุ่มอาสาสมัครขึ้นมาดูแลพื้นที่ ดูแลความมั่นคงและกิจการต่างๆ ในลักษณะเป็นจิตอาสา หรือทำกิจการสาธารณะ เพราะบางอย่างถ้ารอข้าราชการทำฝ่ายเดียวคงไม่ทัน
นอกจากนี้

 7.รับสั่งดูแลประชาชนให้ความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างทรงขอว่าให้เป็นไปตามขั้นตอน ตามกฎหมายทุกประการ ให้มีหลักฐานที่ชัดเจน ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจในกระบวนการยุติธรรมให้ได้

 8.ข้าราชการทุกหมู่เหล่าหรือส่วนราชการ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการฝ่ายใดก็ตาม ขอให้ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง เป็นแม่แบบให้กับประชาชนให้เกิดความเคารพศรัทธา และเชื่อมั่นในการทำงาน จะได้เกิดความร่วมมือ ลดผลกระทบระหว่างกันให้ได้ในการบังคับใช้กฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า

9.เรื่องสำคัญที่สุดคือทรงเสียพระราชหฤทัยในการสูญเสียพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และคนไทยทั้งประเทศก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งว่า ขอให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจ ขยายสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงทำไว้อย่างมากมาย ให้ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป

     "พระองค์ท่านพระราชทานแนวทางไว้เป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเองก็ทรงได้รับการสั่งสอนจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ด้วย เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่จะต้องแก้ไข เพราะพระองค์ท่านตรัสว่า "เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่สมเด็จพ่อได้ทรงทำไว้" ขณะเดียวกันก็ทรงให้นึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ด้วย ซึ่งพระองค์พระราชทานสิ่งต่างๆ ไว้มากมายให้กับประเทศไทย ขอให้นำแนวทางพระราชดำริของทั้งสองพระองค์ไปขับเคลื่อน" นายกฯ กล่าว
ด้านนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้นำเสนอวีดิทัศน์สารคดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 12 สิงหาคม 2560 ซึ่งจัดทำโดยสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ให้ที่ประชุม ครม.รับทราบ เนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ความยาว 3.56 นาที เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งพระองค์ทรงเป็นผู้ริเริ่ม สนับสนุน ฟื้นฟูและสืบทอดงานศิลปะแขนงต่างๆ ของไทยมิให้เสื่อมสูญเป็นมรดกวัฒนธรรมคู่แผ่นดินไทยสืบมาตราบทุกวันนี้
     "ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา กระทรวงวัฒนธรรมจะนำสารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ ไปเผยแพร่ผ่านทางยูทูบ สื่อออนไลน์ และสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับชมกันอย่างทั่วถึง และเพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ" รมว.วัฒนธรรมกล่าว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น