ในช่วงที่ผลผลิตกระท้อนสุก ชาวบ้านที่ หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ได้เก็บผลกระท้อนห่อซึ่งปลูกไว้ในสวนหลังบ้าน มาวางขายหน้าร้านข้าวแกง ริมถนนสายยะลา-บ้านเนียง ในราคากิโลกรัมละ 60-70 บาท เพื่อเป็นรายได้เสริม โดยมีประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาแวะซื้อนำไปรับประทานกันอย่างต่อเนื่อง
นางวิไล ช่างทอง ชาวบ้านหน้าถ้ำ กล่าวว่า ในอดีตชาวบ้านหน้าถ้ำจะปลูกกระท้อนห่อกันเป็นอาชีพ และจะมีผลผลิตกระท้อนมาวางขายริมถนนกันจำมาก แต่ปัจจุบันกระท้อนเหลือน้อยมาก จะมีปลูกกันเพียงไม่กี่ต้น และชาวบ้านที่นี่ก็เลิกทำเป็นอาชีพไปหมดแล้ว เนื่องจากต้นกระท้อนจะดูแลยากบางคนไม่มีเวลาดูแล มาเร็วไปเร็ว ปลูกง่ายโตเร็ว ได้ผลผลิตเร็ว แต่ก็อายุสั้นเร็ว จะมีช่วงหนึ่งที่ต้นกระท้อนจะเป็นหางช้างหากดูแลไม่ดี ลูกก็จะไม่โต ใบฝ่อ ลูกฝ่อ ก็ต้องตัดทิ้งไป เพราะจะทำให้กระท้อนเนื้อแข็ง ไม่นิ่ม ชาวบ้านบางคนหลังจากตัดแต่งกิ่งแล้ว ไม่ได้ผลก็ต้องตัดสินใจที่จะโค่นทิ้ง และไม่ได้ปลูกกันอีกเลย ส่วนบางบ้านก็จะปลูกไว้เพื่อรับประทานกันเพียงต้นสองต้นเท่านั้น
ในส่วนของตนเองก็เช่นกันเมื่อก่อนปลูกมาก ปัจจุบันก็เหลือเพียง 3-4 ต้น ไม่ได้ทำเป็นอาชีพ เนื่องจากมีอาชีพขายข้าวแกงเป็นหลักอยู่แล้ว ก็จะปลูกกระท้อนห่อไว้ขายหน้าร้านเป็นรายได้เสริมเท่านั้น โดยปีนี้สภาพที่ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่ได้ห่อด้วยกระดาษ นำถุงพลาสติกมาห่อ ทำให้ลูกไม่ค่อยสวย ถ้าห่อกับกระดาษ ก็จะได้ลูกสวย ผลแดง
ส่วนรายได้ที่ได้ปีนี้ก็นับว่าดีมาก กระท้อนราคาดี ขายได้ในราคากิโลกรัมละ 60-70 บาท ต้นหนึ่งก็จะให้ลูกประมาณ 200-300 ลูก แต่ผลผลิตมีไม่มาก ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล แล้งจัด และตกติดต่อกันหลายๆ วัน ซึ่งเป็นปัญหาของผลไม้ เช่น ลองกอง ทุเรียน มังคุด ซึ่งจะไม่ชอบฝน และทำให้ผลผลิตไม่ออก
สำหรับกระท้อนที่เก็บขายไปแล้ว หลังทยอยสุกมากว่าสองอาทิตย์ ก็ประมาณ 200 ลูก ชาวบ้านยังคงนิยมซื้อไปรับประทาน โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิม ส่วนรสชาติในปีนี้เนื้อดีกว่าปีที่แล้ว นุ่ม รสหวาน อร่อย ถ้าขนาดใหญ่สุดก็จะได้ ลูกละ 9 ขีด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น