เมื่อวันที่
(25
เม.ย. 60) ที่ศูนย์ประสานงานญาลันนันบารู
ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ท่าน Habib Ali
Zainal Abidin Al-Kaff และคณะ
ได้ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมการปฏิบัติงานการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีพลตรี
นิพนธ์ รองสวัสดิ์ เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พันเอก สุวรรณ เชิดฉาย
ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค
4
ส่วนหน้า ประธานศูนย์ประสานงานญาลันนันบารู ให้การต้อนรับ
พร้อมบรรยายสรุปผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
หลังจากรับฟังบรรยายสรุปเสร็จ ท่าน Habib Ali Zainal Abidin Al-Kaff ได้ร่วมละหมาดฮายัตกับเยาวชนญาลันนันบารู
และ บรรยายธรรมให้แก่เยาวชนญาลันนันบารูที่มาร่วมกิจกรรม จำนวน กว่า 1,000 คน ณ ลานกิจกรรมญานันบารู
พร้อมทั้งได้เยี่ยมชมนิทรรศการของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกด้วย
ท่าน
Habib Ali Zainal Abidin Al-Kaff มีเชื้อสายท่านศาสดา นบี มูฮัมหมัด
(ซ.ล.) จากประเทศอินโดนีเซีย ท่านได้ถูกกำหนดให้เป็นผู้แทนของท่าน ฮาบีบอุมัร
มูหัมหมัด ซาเล็ม บิน อาฟิส ผู้อำนวยการสถาบันดารุลมุสตอฟาร์ เมืองตารีม
ประเทศเยเมน ผู้มีเชื้อสายท่านศาสดา นบี มูฮัมหมัด (ซ.ล.) ศาสดาแห่งศาสนาอิสลาม
รุ่นที่ 33
ของโลก
ให้มาเยือนประเทศไทยเพื่อเผยแพร่ศาสนาเป็นส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ในมิติศาสนา และประชาสัมพันธ์บอกกล่าวผ่านคำบรรยายให้กับกลุ่มประเทศมุสลิม
ได้รับทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย
ท่าน
Habib Ali Zainal Abidin Al-Kaff กล่าวว่า
เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลไทยส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้นำศาสนา
และผู้นำชุมชนร่วมกันสร้างชุมชนศรัทธา (กำปงตักวา) ตามแนวทางของศาสดา
ให้เป็นชุมชนที่เข้มแข็ง เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
นับเป็นสิ่งที่ดี
ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาทั้งในด้านยาเสพติดและปัญหาสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย
รวมทั้งการส่งเสริมให้มีการศึกษาทั้งทางด้านศาสนา และวิชาสามัญควบคู่กันไป
ซึ่งจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชน ประชาชน ให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนการที่รัฐบาลไทยส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้
ทุกเชื้อชาติ ศาสนา อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ก็เป็นสิ่งที่ดี
จะช่วยให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข ซึ่งในสมัยท่านศาสดา นบี มูฮัมหมัด ซ.ล.
บางกลุ่มที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามก็ยังอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข และอยู่ด้วยกันด้วยความเคารพ
ให้ความปลอดภัยต่อศาสนานั้นด้วย โดยทุกศาสนาจะเท่าเทียมกัน เคารพซึ่งกันและกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น