วันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2560

ผู้สืบเชื้อสายศาสดา นบี มูฮัมหมัด (ซ.ล.) Habib Ali Zainal Abidin Al-Kaff ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเผยแพร่ศาสนา พร้อมเยี่ยมชมการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาในพื้นที่ของ กอ.รมน.ภาค 4 สน.


เมื่อวันที่ (25 เม.ย. 60) ที่ศูนย์ประสานงานญาลันนันบารู ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ท่าน Habib Ali Zainal Abidin Al-Kaff และคณะ ได้ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมการปฏิบัติงานการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีพลตรี นิพนธ์ รองสวัสดิ์ เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พันเอก สุวรรณ เชิดฉาย ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ประธานศูนย์ประสานงานญาลันนันบารู ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากรับฟังบรรยายสรุปเสร็จ ท่าน Habib Ali Zainal Abidin Al-Kaff ได้ร่วมละหมาดฮายัตกับเยาวชนญาลันนันบารู และ บรรยายธรรมให้แก่เยาวชนญาลันนันบารูที่มาร่วมกิจกรรม จำนวน กว่า 1,000 คน ณ ลานกิจกรรมญานันบารู พร้อมทั้งได้เยี่ยมชมนิทรรศการของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกด้วย




ท่าน Habib Ali Zainal Abidin Al-Kaff  มีเชื้อสายท่านศาสดา นบี มูฮัมหมัด (ซ.ล.) จากประเทศอินโดนีเซีย ท่านได้ถูกกำหนดให้เป็นผู้แทนของท่าน ฮาบีบอุมัร มูหัมหมัด ซาเล็ม บิน อาฟิส ผู้อำนวยการสถาบันดารุลมุสตอฟาร์ เมืองตารีม ประเทศเยเมน ผู้มีเชื้อสายท่านศาสดา นบี มูฮัมหมัด (ซ.ล.) ศาสดาแห่งศาสนาอิสลาม รุ่นที่ 33 ของโลก ให้มาเยือนประเทศไทยเพื่อเผยแพร่ศาสนาเป็นส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในมิติศาสนา และประชาสัมพันธ์บอกกล่าวผ่านคำบรรยายให้กับกลุ่มประเทศมุสลิม ได้รับทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย


ท่าน Habib Ali Zainal Abidin Al-Kaff กล่าวว่า เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลไทยส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้นำศาสนา และผู้นำชุมชนร่วมกันสร้างชุมชนศรัทธา (กำปงตักวา) ตามแนวทางของศาสดา ให้เป็นชุมชนที่เข้มแข็ง เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ นับเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาทั้งในด้านยาเสพติดและปัญหาสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย รวมทั้งการส่งเสริมให้มีการศึกษาทั้งทางด้านศาสนา และวิชาสามัญควบคู่กันไป ซึ่งจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชน ประชาชน ให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนการที่รัฐบาลไทยส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ทุกเชื้อชาติ ศาสนา อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ก็เป็นสิ่งที่ดี จะช่วยให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข ซึ่งในสมัยท่านศาสดา นบี มูฮัมหมัด ซ.ล. บางกลุ่มที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามก็ยังอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข และอยู่ด้วยกันด้วยความเคารพ ให้ความปลอดภัยต่อศาสนานั้นด้วย โดยทุกศาสนาจะเท่าเทียมกัน เคารพซึ่งกันและกัน






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น