วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2560

ลูกตาลโตนด ดับร้อนสร้างรายได้ จ.ปัตตานี

             ฤดูร้อนแบบนี้ เราจะนึกถึงอากาศที่ร้อนแบบนี้ นึกถึงความแห้งแล้ง ทำให้รู้สึกอยากไปเที่ยว รู้สึกอยากหาอะไรฉ่ำๆกินกันให้ชื่นใจ แอดมินอยากนำเสนอเรื่องของกินดับกระหายอย่าง “ลูกตาลโตนด” ซึ่งที่ จ.ปัตตานี ตลอดเส้นทางจากตัวเมืองมุ่งหน้าสู่ อ.ยะหริ่ง เราจะเห็นร้านค้าริมทางเรียงราย ที่ทุกร้านจะมีลูกตาลโตนดประดับอยู่หน้าร้าน ดึงดูดบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินทางเส้นทางสายนั้นให้จอดซื้อ โดยเฉพาะหน้าร้อนแบบนี้

              นางสุดารัตน์ แม่ค้าร้านค้าริมทาง บอกว่า ที่ร้านจะขายสินค้าที่เป็นของฝากหลายอย่าง แต่ที่โดดเด่นมากๆคือสินค้าที่มาจาก ‘ตาลโตนด’ มีทั้ง ผลตาลสด ลูกตาลอ่อน น้ำตาลสด(คนพื้นที่จะเรียกว่าตูเว๊าะ) น้ำตาลแว่น น้ำตาลปี๊ป น้ำส้มสายชูหมักจากตาลโตนด สำหรับตาลโตนดจะขายดีช่วงเทศกาลช่วงปีใหม่ถึงช่วงเดือนพฤษภาคม โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสงกรานต์จะขายดีมากๆ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นขาจร ที่เดินทางผ่านไปมา แล้วแวะซื้อ ในส่วนของราคานั้นช่วงที่มีลูกตาลเยอะอย่างช่วงหน้าร้อนแบบนี้ จะขายถุงละ 20 บาท โดยบรรจุลูกตาลอ่อนจำนวน 5-7 ผล หรือถ้าซื้อในราคา 100 บาทก็จะได้ 6 ถุง สำหรับช่วงที่ลูกตาลไม่ค่อยมี จะขายในราคาสูงสุดถุงละ 25 บาท ผลตาลสดจะรับมาจากชาวบ้านในพื้นที่ที่มีอาชีพปีนต้นตาลมาส่งให้ถึงที่ ผลตาลที่ได้เก็บมาจากในพื้นที่เท่านั้น ไม่ได้รับมาจากที่อื่น ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนแบบนี้จะมีลูกตาลเยอะและจะขายดีมากๆ ขายได้เป็นร้อยถุงต่อวัน นอกจากนี้ยังมีน้ำตาลสดแช่เย็น(น้ำตูเว๊าะ) ที่เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ขายดี คนที่จอดแวะส่วนใหญ่จะลงมาเลือกซื้อสินค้าพร้อมกับจิบน้ำตาลสดดับร้อนไปด้วย รายได้ต่อวันที่ขายลูกตาลในช่วงปิดเทอมหน้าร้อนนี้ไม่ต่ำว่า 2,000 บาท

             “...อาชีพขายลูกตาลนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม่ค้าต้องมีความสามารถเฉพาะตัวในการเฉาะเอาเนื้อด้านใน ที่เรียกว่า “จาวตาล” ด้วยมีดพร้าที่คมมาก บวกกับกำลังแขนที่ต้องแข็งแรงและชำนาญ  ตาล 1 ลูก จะมีลอนตาลประมาณ 3 ลอน นำมารับประทานเป็นผลไม้ มีรสนุ่มหอมหวาน ส่วนเปลือกที่ผ่านการเฉาะเป็นชิ้นๆแล้วนั้นจะนำไปเป็นอาหารให้วัวต่อไป...” นางสุดารัตน์กล่าว จึงเห็นได้ว่าผลตาลแต่ละลูกนั้นสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ได้แทบจะหมดทุกส่วน ทั้งยังสร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างงามแก่ชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น