วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2562

วัดดุลยาราม “วัดบ้านจีน”

         เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนารถ ในรัชกาลที่ ๙ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรวลัยลักษณ์ อัคราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินในการพระราชพิธียกช่อฟ้า ณ วัดดุลยารามเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๒๒ ยังความปลื้มปิติมาแก่ชาวจังหวัดสตูลเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเสด็จพระองค์ท่านในครั้งนั้น





          วัดดุลยาราม หรือวัดที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดบ้านจีน หรือวัดฉลุง วัดดุลยาราม เป็นวัดราษฎร์ ตั้งอยู่หมู่ 2 บ้านจีน ต.ฉลุง อ.เมืองสตูล จ.สตูล สร้างขึ้นในวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๔๓๔ เดิมชื่อว่า วัดบ้านจีนเนื่องจากสร้างขึ้นบนป่าช้าจีนเดิม และถูกตั้งตามชื่อหมู่บ้านในขณะนั้น โดย พระอธิการนุ่นพระสงฆ์รูปแรกที่ก่อสร้างวัด ต่อมา พระอธิการเปลียวซึ่งเป็นเจ้าอาวาส ในระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๗๙ ๒๕๑๔ ได้มีการเปลี่ยนชื่อวัดจากเดิมเป็น วัดดุลยารามโดยนำเอาชื่อของเจ้าอาวาสรูปแรกมาเป็นมงคลนาม ตราบจนปัจจุบันนี้



            วัดดุลยาราม มีพระพุทธรูปที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมือง คือพระพุทธรูปหลวงพ่อแก่ หรือเรียกว่าพ่อแก่ เป็นพระพุทธรูปแกะสลักด้วยไม้ปรางค์​ห้ามญาติ สูงประมาณ 70 - 80 เซนติเมตร มีเค้าพระพักตร์เป็นหญิง แบบนางพญาหรือพระหน้านาง บางทีเรียกว่า พระแก่นจันทร์ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง ฝีมือแกะสลักของช่างภาคเหนือ หรือล้านช้าง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดสตูลให้ความเคารพนับถืออย่างมาก มีประวัติเล่ากันสืบมาว่า หลวงพ่อแก่เป็นพระพุทธรูปที่ลอยน้ำมาจากทะเล ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้เก็บมาจากคลองน้ำพระ และเมื่อพิจารณาเห็นว่าเป็นพระพุทธรูป จึงคิดนำมาไว้ที่วัด ต่อมา ผู้ใหญ่บ้านได้นำองค์หลวงพ่อแก่มาวางไว้ใต้ต้นแซะ บริเวณวัดดุลยาราม ในตอนแรกไม่มีใครสนใจ เพราะเห็นว่าเป็นพระพุทธรูปไม้เก่าๆ ต่อมาหลวงพ่อแก่ได้แสดงอภินิหารและเข้าฝันผู้สูงอายุท่านหนึ่งในตำบลฉลุงว่า รู้สึกอึดอัดมากที่มีเด็กๆ เอามาเล่น โดยไม่ให้ความเคารพนับถือ พ่อท่านเปลียว ปรกกโม เจ้าอาวาสวัดดุลยาราม (วัดฉลุง) ในสมัยนั้น ได้สร้างเป็นที่พักและอัญเชิญหลวงพ่อแก่มาประดิษฐาน ซึ่งได้มีชาวบ้านที่ทราบข่าวมากราบไหว้ บูชาสักการะ บนบานศาลกล่าว ตามความเชื่อของชาวบ้านแล้ว เชื่อว่าการขอความช่วยเหลือจากองค์หลวงพ่อแก่นั้น มักจะนำ ขนมโคไปถวายโดยมีความเชื่อว่า จะได้สมหวังอย่างที่ต้องการอยู่อย่างเสมอ ดังนั้น จะเห็นได้ว่ามีผู้คนนำเอา ขนมโคไปถวายอยู่เป็นจำนวนมาก



         สำหรับผู้ที่สนใจ ถ้ามีโอกาสเดินทางมาเที่ยวจังหวัดสตูล อยากแนะนำให้หาโอกาสเดินทางเข้ามากราบนมัสการพระพุทธรูปองค์สำคัญองค์นี้สักครั้ง เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตสืบไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น