วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2562

แคมปิ้ง socool ใกล้ชิดติดทะเลหมอก “คูลแค้มปิ้ง รีสอร์ท”


       คูลแค้มปิ้ง รีสอร์ท รีสอร์ทรูปทรงเต็นท์ ผสมผสานบ้านพักแบบโฮมสเตย์ จุดเด่นของรีสอร์ทที่นี่คือตั้งอยู่บนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 438 เมตร ติดกับแนวป่าสิริกิติ์และป่าฮาลาบาลา มีวิวภูเขา ต้นไม้ วิวทะเลสาบฮาลาบาลาให้ได้เห็นอยู่รอบตัว สามารถมองได้แบบ 360 องศา นอกจากนี้คุณจะได้พบกับความคลาสิค นั่นก็คือเสียงดนตรีจากธรรมชาติ ทั้งเสียงจิ้งหรีด เสียงไก่ป่าขันยามเช้า ยามค่ำคืนสามารถมองเห็นพระจันทร์ดวงใหญ่ ดวงดาวเป็นล้านๆดวง และยิ่งในช่วงฤดูกาลของหิ่งห้อย ก็จะได้เห็นหิ่งห้อยออกมาบินอวดแสงไฟหน้าที่พักเต็มไปหมด แต่หากมาในช่วงฤดูผลไม้ ผู้มาเยือนก็จะสามารถชิมผลไม้สดๆจากสวน ทั้งเงาะ มังคุด ทุเรียน มะม่วง และอีกมากมาย ยิ่งกว่านั้นที่นี่ยังสามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปีแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อนก็ตาม



         คุณองอาจ ฟุ้งแสงรุ่งเรือง เจ้าของคูลแค้มปิ้ง รีสอร์ท เล่าให้ฟังว่า “...ผมเติบโตจากที่นี่ เราได้เห็นธรรมชาติ ได้เห็นความสวยงามของสายหมอกยามเช้าเวลาที่เราตื่นนอนแล้วเปิดประตูบ้านออกมา ได้สูดอากาศบริสุทธิ์แล้วสดชื่น เกิดจุดประกายความคิดว่าอยากจะมีรีสอร์ท เมื่อช่วงอายุ 1718 ปี สมัยนั้นผมฝันว่าอยากให้คนอื่นมาเห็นเหมือนที่เราเห็นว่ามันสวยงามและสดชื่นขนาดไหน อยากทำที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำที่พักบนยอดเขา อยากเห็นคนมาเที่ยวบ้านเรา ช่วงนั้นได้แค่ฝันครับ เพราะฐานะทางบ้านเป็นแค่ชาวสวน ไม่มีทุนทรัพย์มากมายพอจะทำได้ เลยกลับไปใช้ชีวิตตั้งใจเรียน เข้าสู่เมืองหลวง เพื่อหางานทำดี ๆ เพื่อกลับมาเลี้ยงดูพ่อแม่ให้ได้ ความฝันในวัยเด็กก็หายไป จนสุดท้ายหลังจากที่มีโอกาสเรียนจบปริญญาโทด้านการบริหารการศึกษา และได้สอบคัดเลือกเป็นข้าราชการครูได้สำเร็จ ได้บรรจุเป็นข้าราชการครูในหมู่บ้าน ทำให้ไม่ต้องไปทำงานไกลบ้าน เมื่อได้กลับมาทำงานที่บ้านภาพเดิม ๆ สายหมอกและอากาศที่สดชื่นที่เคยได้สัมผัสในวัยเด็ก ความฝันเดิมๆ ได้ย้อนกลับมาครับแต่ก็ได้แค่เพียงคิดเท่านั้นว่าอยากเห็นคนมาเที่ยวบ้านเรา เพราะทุนทรัพย์เราก็มีไม่พอต่อการลงทุนอยู่แล้ว จนมาเมื่อปี 2559 เกิดวิกฤตภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงนานมาก จนสวนผลไม้ทุเรียนที่ปลูกไว้เกิดยืนต้นตายหมดเลยครับ รายได้จากการขายทุเรียนแต่ละปีหมดเลย และความคิดในวัยเด็กมันย้อนกลับมาอีกครั้ง ว่าถึงเวลาแล้วนะ วิกฤตตอนนี้จะต้องทำให้เป็นโอกาสที่อยากจะสานฝันต่อให้ได้ ผมเลยใช้อาชีพข้าราชการครู ขอสินเชื่อจาก สหกรณ์ออมทรัพย์ครูยะลา เพื่อมาลงทุนในการทำที่พักในครั้งนี้ จนในที่สุด คูลแค้มปิ้ง รีสอร์ท ก็ถูกกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2560…”



         ปัจจุบัน คูลแค้มปิ้ง รีสอร์ท ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวหลากหลายพื้นที่ทั้งจากใต้จรดเหนือเลยทีเดียว ยอดจองที่พักเต็มทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ สำหรับที่พักแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนที่ 1 โซนบ้านพักเป็นหลังๆเหมือนรีสอร์ททั่วไป มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนโรงแรม มีเตียงนอน ตู้เย็น โต๊ะเครื่องแป้ง กาน้ำร้อน พัดลมไอเย็น มีห้องน้ำ มีเครื่องทำน้ำอุ่นส่วนตัวทุกหลัง โซนบ้านพักราคาหลังละ 500 บาท ซึ่งสามารถพักได้ 3 ท่าน สำหรับครอบครัวเล็ก ๆ พ่อแม่ลูก แต่หากมาเกิน 3 คน จะคิดเพิ่มคนละ 100 บาท ส่วนโซนที่ 2 เป็นโซนพักแบบเต็นท์ลูกเสือ แต่ภายในเต็นท์จะมีที่นอนแสนอบอุ่นพร้อมผ้าเช็ดตัวบริการทุกคน เต็นท์แต่ละหลังจะสามารถนอนได้ 1-3 คน โดยคิดค่าบริการคนละ 100 บาท สำหรับโซนเต็นท์จะใช้ห้องน้ำรวม และมีน้ำอุ่นเช่นกัน เพราะที่นี่เป็นน้ำภูเขาน้ำจึงเย็นมากเลยต้องใช้น้ำอุ่นในการอาบน้ำ



          หากใครที่ต้องการมาพักผ่อน และอยากมาสัมผัสบรรยากาศหมอกยามเช้า สัมผัสกลิ่นไอดิน หยดน้ำค้างบนยอดหญ้า เพื่อกระตุ้นความฝันหรือไฟในตัวคุณ สามารถมาชาร์ตพลังได้เลย ที่สำคัญมาง่ายมาก เพราะคูลแคมปิ้ง รีสอร์ท ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างอำเภอธารโต และอำเภอเบตง ระยะทางจากตัวเมืองจังหวัดยะลา ถึงที่นี่ประมาณ 100 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางสาย 410 หากกลัวมาไม่ถูกสามารถใช้แอพลิเคชั่นบนมือถือ Google Maps ค้นหาคำว่า คูลแค้มปิ้ง รีสอร์ท ให้นำทางมาถึงที่พักได้เลย แนะนำว่าใครจะมาที่นี่จะต้องติดต่อจองล่วงหน้าเท่านั้น หากมาแบบไม่จองอาจไม่มีที่พัก ซึ่งสามารถติดต่อจองห้องพักโดยตรงที่ www.coolcampingresort.com เว๊บไซต์นี้จะสามารถเช็คห้องพักว่างและจองได้ด้วยตัวเอง หรืออยากติดตามความเคลื่อนไหวของคูลแค้มปิ้งแบบอัพเดทเร็วไวได้ทางเฟซบุ๊คเพจ คูลแค้มปิ้ง รีสอร์ท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น