เมื่อถึงปากทางอุโมงค์ จุดแรกที่เราเห็นก็จะเป็นเตาขงเบ้ง
คืออุปกรณ์ในการประกอบอาหารของฐานคอมมิวนิสต์สมัยก่อน
ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังมาก
เพราะถ้าฝั่งทหารของรัฐบาลเห็นควันลอยขึ้นก็จะรู้ที่ตั้งของฐานหลบซ้อนทันทีจึงมีการประดิษฐ์คิดค้นให้มีช่องลมปล่อยควันให้ออกไปทิศทางอื่น
นับว่าเป็นนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมมากเลย เราเห็นปากทางอุโมงค์กันแล้วอย่าเพิ่งเข้าไปนะ
เรามาชมพิพิธภัณฑ์ของที่นี่กันก่อน อยู่ทางขวามือ เดินขึ้นมานิดหน่อย
ในพิพิธภัณฑ์ก็จะมีประวัติความเป็นมาให้เราได้เรียนรู้ และทำความรู้จักกับพรรคคอมมิวนิสต์มลายาได้มากขึ้น
ชมพิพิธภัณฑ์กันเสร็จแล้วก็ได้เวลาเข้าสู่อุโมงค์ปิยะมิตรแล้ว
ในความคิดแรกๆ ก่อนเข้าไปนั้นคิดว่าต้องร้อนแน่ๆ เพราะทั้งแคบ และต่ำ
แต่พอได้ย่างกายเข้าไปแล้ว เย็นสบาย ไม่รู้สึกอึดอัด อุโมงค์ปิยะมิตร
เป็นอุโมงค์ที่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย หรืออดีตกลุ่มโจรคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.)
สร้างขึ้นเป็นฐานของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา เขต 2 เมื่อปี พ.ศ. 2519
ใช้หลบการโจมตีทางอากาศและเป็นที่สะสมเสบียง ซึ่งการสร้างอุโมงค์นั้นใช้กำลังคน 40
- 50 คน ขุดเข้าไปในภูเขา และใช้เวลาเพียง 3 เดือน จึงแล้วเสร็จ อุโมงค์มีความกว้าง
50-60 ฟุต ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร สามารถจุคนได้เกือบ 200 คน มีทางเข้าออกทั้งหมด 9
ทาง เชื่อมต่อถึงกันหมด ปัจจุบันเหลือ 6 ทาง ภายในมีสถานีวิทยุของ จคม. ห้องนอน
ห้องเก็บเสบียง มีซอกมีมุมให้เลี้ยวลัดเลาะ
ด้านบนเป็นป่ารกมีต้นไม้ใหญ่มากมายปกคลุม ยากแก่การค้นหา
แต่ที่สุดแล้วก็ถูกค้นพบโดยทหารฝ่ายรัฐบาลในปัจจุบันจึงเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว
เปิดบริการให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.00 - 16.30 น. การท่องเที่ยวอุโมงค์ใช้เวลาประมาณ
2 ชั่วโมง มีการติดตั้งไฟฟ้าตลอดแนวอุโมงค์ สว่างไสวมองเห็นเส้นทางได้ชัดเจน ได้ยินมาว่ามาที่นี่แล้วไม่ควรพลาดที่จะต้องชมความยิ่งใหญ่ของต้นไม้พันปี
ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ เขาว่ากันว่าต้องใช้คน 50 คนโอบรอบต้นนี้เลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น