วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2562

หาดตะโละสะมิแล ชายทะเล เสน่ห์ชายแดนใต้

       อากาศร้อน ๆ ทะลุทะลวงในช่วงซัมเมอร์แบบนี้ สิ่งที่ใครหลายคนอยากทำที่สุด คงหนีไม่พ้นการได้ไปพักร้อน พักใจ พักกาย นั่งรับลมเย็น ๆ หรือแหวกว่ายอยู่ท่ามกลางเกลียวคลื่นและน้ำทะเล ทำกิจกรรมสนุกๆกับคนในครอบครัว แค่คิดก็รู้สึกสนุกสุขใจแบบสุดๆไปเลย... เมื่อพูดถึงทะเลแล้ว หลายคนมักจะนึกถึงทะเลสวยๆฝั่งอันดามัน เกาะชื่อดังต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ที่ผ่านการเช็คอินจากบรรดาเหล่าเซเล็ปฯชื่อดังบนโลกออนไลน์...แต่บทความบทนี้ข่าวภาคใต้ชายแดนขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อยากจะบอกว่า ยอดจองรีสอร์ทและโฮมสเตย์เต็มเอี๊ยดมาโดยตลอด โดยเฉพาะช่วงซัมเมอร์แบบนี้ และที่นั้นก็คือ หาดตะโละสะมิแล อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี นั่นเอง


        เกือบ 30 ปีที่ผ่านมา คลื่นทะเลได้กัดเซาะเอาผืนดินของชาวบ้านนับร้อยๆ ไร่แถบนี้ หายไปในทะเล จนช่วงหลังมานี้มีการก่อสร้างกำแพงคอนกรีตกันคลื่นกัดเซาะ ทำให้มีผืนทรายขาวงอกเงยเกิดขึ้นตามแนวชายฝังทะเลอ่าวไทยประมาณ  1 กิโลเมตร อยู่ในพื้นที่หมู่ 1-3 ต.แหลมโพธิ์ และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าสนใจ เกิดการค้าขาย สร้างงาน สร้างรายได้ พลิกเศรษฐกิจให้ดีขึ้นแก่คนในชุมชนแห่งนี้ 


        สารูมา กาเซ็ง เจ้าของรีสอร์ทบ้านไม้ริมทะเล หาดตะโละสะมิแล (รีสอร์ทเจ้าแรกในย่านนี้ )เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจมาจากความไม่ตั้งใจ คือได้สร้างบ้านให้น้องชายมาพักในช่วงวันหยุด เมื่อสร้างเสร็จแล้วบ้านหลังนั้นก็เป็นที่สะดุดตาของใครหลายๆคนที่มารับลมชมทะเล มีหลายคนมาขอเช่าพัก และถึงขั้นมาขอซื้อก็มี จึงทำให้เกิดความคิดที่จะเปิดเป็นบ้านพักริมทะเลขึ้น ซึ่งปัจจุบันบ้านไม้ริมทะเล มีห้องพักให้บริการทั้งหมด 26 หลัง ห้องพักที่นี่จะมีลักษณะเป็นเหมือนโฮมสเตย์ คือ มีที่พักพร้อมอาหาร หรือสามารถนำอาหารสดมาประกอบอาหารได้ โดยทางเราจะเตรียมพร้อมในเรื่องของอุปกรณ์ต่างๆให้ ราคาห้องพักจะเริ่มตั้งแต่ 400 -1200 บาท มีทั้งแบบพักเป็นคู่ปกติและบ้านพักแบบครอบครัว ซึ่งยอดจองในช่วงหน้าร้อนนี้เต็มแน่นมาตั้งแต่ช่วงเดินมีนาคมที่ผ่านมา



      โอมิร่า เจ๊ะแว ผู้จัดการมูเทียร่า รีสอร์ท (รีสอร์ทน้องใหม่ในย่านนี้) กล่าวว่า ทุกวันนี้การท่องเที่ยวที่หาดตะโละสะมีแลคึกคักมาก นักท่องเที่ยวมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีรีสอร์ทเพิ่มขึ้นถึง 28 แห่ง ตนรู้สึกดีใจและภูมิใจที่เห็นพี่น้องทั้งในและนอกพื้นที่หันมาท่องเที่ยวในบ้านเรา ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับตัวเอง และชุมชน เป็นการกระจายรายได้ให้กับชาวประมงซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนในชุมชนแห่งนี้ให้ยังคงอยู่ต่อไป ที่สำคัญทำให้คนที่ออกไปหางานทำที่อื่น ได้กลับมาประกอบอาชีพที่บ้านเกิดและได้อยู่กับครอบครัว ทำให้เกิดความสุขอย่างแท้จริง
       นอกจากจะมีทะเลสวยๆ บรรยากาศดีๆแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆอีกมากมาย อาทิ การให้บริการเรือบานานาโบทหรือเรือกล้วยครั้งละ 300 บาท นั่งได้ 6 คน หรือจะเป็นเรือคายัค และห่วงยาง  ให้เลือกกันตามใจชอบ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้ความสนใจกับกิจกรรมเหล่านี้ เพราะในจังหวัดชายแดนใต้จะหากิจกรรมที่เล่นกันได้ทั้งครอบครัวแบบนี้ได้ยาก เราจึงได้ยินเสียงหัวเราะแห่งความสุขดังกึกก้องอยู่ตลอดสาย


       นางสาวโนร์มีร์รา ดะแซ นักท่องเที่ยวจากจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ไปใช้ชีวิตไปเรียนอยู่นอกพื้นที่อยู่หลายปี ก็จะรับรู้ได้ว่าคนภายนอกจะมองบ้านเราในทางลบ จะคิดถึงแต่เหตุการณ์ความไม่สงบ โดยไม่เปิดใจมองสิ่งที่สวยงามที่มีอยู่มากมาย ความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ดูได้จากแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันมากขึ้น และมีการประชาสัมพันธ์ผ่านโลกโซเชียล ทำให้เราได้เห็นถึงความสวยงาม ได้เห็นถึงวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์  “...หนูเชื่อว่าไม่ใช่เพียงแค่ตัวหนูเองที่อยากมา คนพื้นที่อื่นเมื่อได้เห็นความสวยงามเหล่านี้แล้วก็จะทำให้รู้สึกอยากมาที่นี่เช่นกัน หนูรู้สึกดีใจที่บ้านเรามีสถานสวยๆ แบบนี้ เห็นคนมาเที่ยวเยอะๆแบบนี้ เพราะคนในพื้นที่เองได้เห็นแบบนี้แล้วความหวังเรื่องสันติภาพมันก็ใกล้ความจริงมากยิ่งขึ้น...
      น้ำทะเลใสๆ ชวนให้ลงไปสัมผัสคลื่นเบาๆ ชิมบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ เป็นความสุขใกล้ตัวที่หาได้จากที่นี่ เด็กๆ ลงเล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน ผู้ปกครองได้พักผ่อนหย่อนใจมีรอยยิ้มและสนุกสนานไปตามกันบรรยากาศเช่นนี้เป็นวิถีปกติของผู้คนในดินแดนแห่งนี้ วิถีแห่งความเรียบง่ายสโลว์ไลฟ์ที่หลายคนใฝ่หา ปลายด้ามขวานแห่งนี้ยังคงมีความงดงามของธรรมชาติ ผู้คนมีน้ำใจ  เป็นความจริงที่สัมผัสได้และยังคงอยู่









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น