เครื่องปั้นดินเผา อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี หม้อดินขนาดต่าง ๆ
ถูกจัดเรียงไว้ รอให้ได้จำนวนที่ต้องการ เพื่อนำไปเข้าเตาเผา เป็นฝีมือการปั้นของ
นางแยน๊ะ วาเย็ง ชาวบ้านหมู่ที่ 4 บ้านกูบังบาเดาะ ต.สะกำ อ.มายอ จ.ปัตตานี
วัย 70 ปี ที่สืบทอด ภูมิปัญญาการปั้นหม้อจากรุ่นสู่รุ่น
จนนำไปสู่การประกอบเป็นอาชีพมากว่า 50 ปี
ในอดีตชาวบ้านกูบังบาเดาะจะมีอาชีพปั้นหมอเป็นส่วนใหญ่
เนื่องจากดินเหนียวบริเวณนี้หาง่ายและมีคุณภาพดี เหมาะแก่การนำมาปั้นและเผา
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป เทคโนโลยีและความเจริญได้เข้ามาแทนที่
ทำให้อาชีพนี้ถูกกลืนหายไป ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่เจ้า
ที่ยังคงปั้นหม้อดินจำหน่ายเป็นอาชีพอยู่ ซึ่งจะสังเกตได้ว่างานปั้นหม้อของที่นี่
ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม ตั้งแต่แบบ ลวดลาย ต่างกันแค่ขนาด ที่มีความเล็ก
ใหญ่ ตามความต้องการของตลาด นอกจากนี้ยังมีเชิงเทียน ที่ขายดีจนทำส่งแทบไม่ทัน
นางแยน๊ะ เล่าให้ทีมงานของเราฟังว่า
ดินเหนียวที่จะนำมาใช้ต้องไปขุดมาจากตีนเขาบาเดาะ เอามาผสมทรายผึ่งให้แห้ง
พรมน้ำให้พอเปียก แล้วใช้ไม้ที่มีลักษณะคล้ายสากตำข้าวในสมัยก่อน
มาตำให้ดินแตกละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนจะใช้เท้าเหยียบนวด 3-4 เที่ยว
จึงจะนำมาปั้นเป็นก้อน เพื่อเตรียมขึ้นรูปบนแป้นหมุน
ซึ่งส่วนผสมของดินเหนียวกับทรายต้องมีความเหมาะสม
รวมทั้งต้องเก็บเศษกรวดหรือใบไม้ที่ปะปนมากับดิน ออกให้หมด เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้หม้อดินแตกได้ง่าย
เมื่อได้รูปทรงที่ต้องการแล้ว
ก็จะวางผึ่งลมไว้ นางแยน๊ะ จะใช้เวลาช่วงเช้าไปกับการขึ้นรูป
ส่วนในช่วงบ่ายจะทำการตกแต่งลวดลาย โดยนำหม้อที่ผึ่งลมไว้พอหมาดมาตีด้วยไม้ตบลาย
และใช้ลูกหินเป็นตัวยันเนื้อหม้อ ขณะที่อีกมือหนึ่งตีอยู่ด้านนอกจนได้รูปทรงที่สวยงาม
เสร็จแล้วจะวางผึ่งลมให้แห้งสนิท รอรวบรวมเพื่อเข้าเตาเผา ซึ่งปกติจะเผา 2-3 เดือนครั้ง
และทุกครั้งจะมีพ่อค้ามาเหมารับซื้อถึงที่ ตอนนี้นอกจากจะปั้นหม้อเองแล้ว นางแยน๊ะ
ยังรับสอนผู้ที่สนใจปั้นหม้อที่เข้ามาเรียนรู้เพื่อสืบสานอาชีพนี้ให้คงอยู่ไปจนรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น