วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

นักโทษก่อเหตุจลาจลและวางเพลิงทรัพย์สินภายในเรือนจำกลางจังหวัดปัตตานี พร้อมยื่นข้อเรียกร้อง


จังหวัดปัตตานี แถลงข่าวกรณีมีนักโทษก่อเหตุจลาจลและวางเพลิงทรัพย์สินภายในเรือนจำกลางจังหวัดปัตตานี พร้อมยื่นข้อเรียกร้อง

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2559 ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธาน และมี พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี นายนพพร รัตนวัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี ร่วมแถลงข่าว โดยมีสื่อมวลชนแขนงทุกแขนงร่วมรับฟัง


นายนพพร รัตนวัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีผู้ต้องขัง 2 คน ในคดีพยายามฆ่า และลักขโมยจากจังหวัดสงขลามาฝากขังที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งเคยก่อเหตุจลาจลมาแล้วเมื่อปี 2538 ที่เรือนจำจังหวัดสงขลา เมื่อมาอยู่ที่ปัตตานีซึ่งได้มีการเข้มงวดมากทำให้บุคคลดังกล่าวไม่พอใจและได้เริ่มปลุกระดม ปรากฏว่ามีผู้ต้องขังจากนราธิวาสซึ่งมาฝากขังที่จังหวัดปัตตานี เพื่อเตรียมส่งต่อเรือนจำกลางสงขลาร่วมกับผู้ต้องขังปัตตานีบางส่วนเข้าร่วมก่อเหตุ โดยมีการก่อการทะเลาะวิวาทกัน เรียกร้องเพียงไม่ให้ย้ายตนเองไปที่อื่น พร้อมทั้งพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่เรือนจำที่อยู่ภายใน 5 คน แต่ผู้ต้องขังฝ่ายความมั่นคงได้เจรจาจนปล่อย 5 คน


หลังจากนั้นเริ่มก่อจลาจลเรียกร้องไม่ให้ย้ายไปที่อื่น ต่อมาเริ่มเพิ่มข้อเรียกร้องอีกรวม 13 ข้อ พร้อมทั้งเผาอาคารเสียหาย 1 หลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามใช้วิธีสันติ โดยเจรจา 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรก ได้ให้ประธานคณะกรรมการอิสลามปัตตานีช่วยมาคุยเจรจาด้วย เนื่องจากส่วนใหญ่รู้จักเพราะเข้ามาบรรยายเรือนจำบ่อยๆ แต่ผู้ต้องขังยังก่อเหตุเผาอาคารอีก 2 หลัง และทุบทำลายอาคารทำให้อาคารบางส่วนได้รับเสียหาย เจ้าหน้าที่พยายามโน้มน้าวจิตใจและเจรจาอีกหลายครั้งไม่เป็นผล จึงได้นำชุดปราบจลาจลเข้าไปควบคุมสถานการณ์จนประสบผลสำเร็จ ในเวลาประมาณ 02.00 น. (ของวันที่ 15 ก.ค. 59) มีการนำผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นผู้ต้องขังส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปัตตานี 6 คน เสียชีวิต 1 คน ส่วนอีก 5 คน ถูกกระจกบาดที่เท้าและถูกทำร้ายร่างกาย มีผู้เสียชีวิตที่ถูกผู้ต้องขังทำร้ายกันเองอีก 2 คน ส่วนเจ้าหน้าที่บาดเจ็บเล็กน้อย 4 คน ขณะนี้สถานการณ์โดยทั่วไปเริ่มคลี่คลายลงแล้ว


ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี กล่าวเพิ่มเติมว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนอาคารที่เสียหายถูกเผาเสียหายหมด คือ อาคารที่ทำการฝ่ายควบคุมผู้ต้องขัง อาคารโรงเรียนการศึกษาและที่ฝึกอาชีพ ส่วนอาคารเอนกประสงค์ฝ่ายการศึกษานั้นถูกทุบทำลายได้รับความเสียหาย ขณะนี้ได้ดำเนินการย้ายผู้ต้องขัง จำนวน 333 คน ออกจากเรือนจำปัตตานีไปฝากที่เรือนจำจังหวัดสงขลา เรือนจำกลางสงขลา เรือนจำอำเภอนาทวี ฑัณฑสถานบำบัดพิเศษสงขลา ให้มีจำนวนผู้ต้องขังลดลง เพื่อให้เจ้าหน้าที่จะได้เข้าไประงับสถานการณ์และเคลียร์พื้นที่ได้สะดวกขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น