ตลอดระยะเวลากว่า ๖๕ ปี
ของการครองราชย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัย
ในการศึกษาของพสกนิกรเป็นอย่างยิ่ง ทรงมีพระราชปณิธานที่จะให้การศึกษาแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพทรงเห็นว่าการศึกษามีความสำคัญต่อการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและต่อการพัฒนาประเทศ
ดังกระแสพระราชดำรัส และพระบรมราโชวาท
ซึ่งได้พระราชทานไว้ ณ โอกาสต่างๆ
ซึ่งขออัญเชิญมาบางตอนดังนี้
“...การพัฒนาให้ประชาชนทั่วไป
มีความอยู่ดีกินดี
มีความมั่นคงด้วยการให้การศึกษา
การศึกษาเป็นเครื่องมือ
สำคัญในการพัฒนาบุคคลให้มีคุณภาพ
ให้เป็นทรัพยากร
ทางปัญญาที่มีค่าของชาติ...”
“...งานด้านการศึกษา
เป็นงานสำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง
ของชาติ
เพราะความเจริญและความเสื่อมของชาตินั้น ขึ้นอยู่กับ
การศึกษาของพลเมือง เป็นข้อใหญ่...
ทรงสนับสนุนให้สร้างโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารและด้อยโอกาส
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณส่งเสริมเกื้อหนุนการศึกษาทุกระดับ ทั้งในระบบโรงเรียน
และการศึกษานอกระบบ ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น
พระราชกรณียกิจที่เกี่ยวกับการจัดตั้งโรงเรียนต่างๆ ที่สำคัญอาทิ ปี ๒๕๐๖
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์แก่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน
เขต ๕ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสนับสนุนการจัดตั้งโรงเรียนสำหรับเยาวชนชาวเขาและเยาวชนในชนบทห่างไกล
และพระราชทานนามโรงเรียนว่า “โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์”ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณสนับสนุนโครงการจัดตั้ง
“โรงเรียนร่มเกล้า” สำหรับเยาวชนไทยในท้องถิ่นชนบทห่างไกลที่จังหวัดนครพนม
ภายหลังได้มีโรงเรียนร่มเกล้าอีกเป็นจำนวนมากทั้งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคกลางและภาคใต้ และทรงสนับสนุนให้จัดตั้ง “โรงเรียนราชประชาสมาสัย”
เพื่อเป็นสถานศึกษาอยู่ประจำสำหรับเยาวชนที่เป็นบุตรธิดาของคนไข้โรคเรื้อน
ซึ่งมิได้ติดโรคจากบิดามารดา
พระราชทานทุนการศึกษาในทุกระดับนอกจากนี้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาพระราชทาน
ทุนการศึกษาและรางวัลต่างๆ
ทุกระดับการศึกษา เช่น ทุนการศึกษาในมูลนิธิช่วยนักเรียนขาดแคลน
ทุนการศึกษาแก่นักเรียนชาวเขา รางวัลแก่นักเรียนและโรงเรียนดีเด่น
ระดับประถมและมัธยมศึกษาทั้งประเทศ ทุนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์เพื่อเกื้อหนุนครอบครัวที่ประสบสาธารณภัย
ทรงส่งเสริมการจัดตั้งและดำเนิน
❝ทรงมีพระราชดำริด้วยว่าราษฎรในชนบทโดยเฉพาะ
ในท้องที่ทุรกันดารควรได้รับการศึกษาเพื่อให้สามารถพัฒนา
คุณภาพชีวิตและยกระดับความเป็นอยู่
ให้สามารถอยู่ได้
โดยการ “พึ่งตนเอง” ซึ่งเป็นการพัฒนาแบบยั่งยืน ❞
กิจการโรงเรียนสำหรับเด็กพิการทุกประเภท
ทรงพระกรุณาฟื้นฟูทุนเล่าเรียนหลวง
และทรงก่อตั้งทุนภูมิพล
และทุนอานันทมหิดล ส่งเยาวชนไปศึกษาวิทยาการระดับสูงสาขาต่างๆ ในต่างประเทศ เช่น
สาขาแพทยศาสตร์ วิทยาศาสตร์วิศวกรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ อักษรศาสตร์ รัฐศาสตร์
นิติศาสตร์ และโบราณคดี เป็นต้น
โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญแก่เยาวชน ได้แก่
โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนโดยทรงมีวัตถุประสงค์ให้เป็นหนังสือความรู้ที่เหมาะแก่เด็กในวัยต่างๆ
รวมทั้งผู้ใหญ่ก็สามารถใช้ประโยชน์ได้
พระราชทานการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ
นอกจากจะทรงพระกรุณาสนับสนุนการศึกษาในระบบโรงเรียนและมหาวิทยาลัยดังกล่าวแล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงมีพระราชดำริด้วยว่าราษฎรในชนบทโดยเฉพาะในท้องที่ทุรกันดารควรได้รับการศึกษาเพื่อให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับความเป็นอยู่
ให้สามารถอยู่ได้
❝ทรงเน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องมี
“ตัวอย่างของความสำเร็จ”
ในเรื่องการพึ่งตนเอง
มีพระราชประสงค์ที่จะให้ราษฎรในชนบท
ได้มีโอกาสได้รู้ได้เห็นถึงตัวอย่างของความสำเร็จนี้
และนำไปปฏิบัติได้เอง❞
โดยการ “พึ่งตนเอง” ซึ่งเป็นการพัฒนาแบบยั่งยืน
โดยพระราชทานโครงการต่างๆ
เพื่อให้เป็นแนวทางในการพัฒนาอาชีพและความเป็นอยู่ของราษฎรในท้องถิ่นชนบทให้ช่วยตัวเองได้
เช่น โครงการหลวงพัฒนาต้นน้ำลำธาร โครงการพัฒนาชาวเขา
โครงการทดลองปลูกพืชผลไม้เมืองหนาว โครงการพัฒนาพื้นที่ดินพรุในภาคใต้
โครงการประมงพระราชทาน โครงการโรงเรียนพระดาบส เป็นต้น
ศูนย์ศึกษาการพัฒนา...
ตัวอย่างความสำเร็จ
นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงเน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องมี “ตัวอย่างของความสำเร็จ”
ในเรื่องการพึ่งตนเอง
มีพระราชประสงค์ที่จะให้ราษฎรในชนบทได้มีโอกาสได้รู้ได้เห็นถึงตัวอย่างของความสำเร็จนี้และนำไปปฏิบัติได้เอง
ดังนั้น พระองค์จึงพระราชทานศูนย์ศึกษาการพัฒนาจำนวน๖ ศูนย์ กระจายอยู่ในภาคต่างๆ
ทั้ง ๔ ภาค ตามสภาพภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกันเพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาสรรพวิชา ค้นคว้า
ทดลอง สาธิตและดูงานทั้งของเกษตรกรทั้งหลายได้เพิ่มพูนการเรียนรู้ด้วยตนเอง และได้รับบริการจากทางราชการ
โดยประชาชนจะได้รับบริการแบบเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว
โดยไม่ต้องติดต่อราชการแบบซับซ้อนดังที่ปฏิบัติกันอยู่ในปัจจุบัน
ทุกสิ่งทุกอย่างจัดไว้ให้ผู้เข้ามาศึกษาดูได้ในลักษณะของ “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต”
แล้วนำไปเป็นแนวทางประกอบอาชีพที่เหมาะสม
.....................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น