สองเชฟจากสาธารณรัฐประชาชนจีน
ร่วมปรุงอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ในการเปิดตัวโครงการส่งออกอาหารไปยังประเทศจีน ที่จัดขึ้นโดย ศอ.บต. จังหวัดยะลา
วันที่ 6
มิถุนายน 2560
สามจังหวัดแดนใต้เดินหน้าโครงการ“ครัวอาหารจังหวัดชายแดนภาคใต้..สู่ครัวจีนและครัวโลก”
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมจับมือกับสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย-จีน
ได้เปิดตัวโครงการ “ครัวอาหารจังหวัดชายแดนภาคใต้..สู่ครัวจีนและครัวโลก” เมื่อวันจันทร์ (6 มิถุนายน 2560) ที่ผ่านมานี้
หวังนำรายได้สู่ภูมิภาคกว่า 4,500 ล้านบาทต่อปี
โดยที่สำนักงานศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
ในจังหวัดยะลา นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต.
ได้ร่วมกับสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย-จีน
จัดพิธีเปิดตัวโครงการด้วยการสาธิตการปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยมีเมนูเด็ด คือ ปลากือเลาะห์ หรือปลาพลวงชมพู ที่มีแหล่งอาศัยในจังหวัดยะลา
และนราธิวาสเทานั้น โดยมีราคากิโลกรัมละ 2,000-3,000 บาท และไก่เบตง เป็นต้น
โดยได้เชิญเชฟจากเมืองจีนเข้าร่วมปรุงอาหารด้วย
“ผมเชื่อมั่นว่า
อาหารไทยจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นโอกาสทองทางธุรกิจและมีประสิทธิภาพในการเจาะตลาดการค้าในประเทศจีนได้อย่างแท้จริง
และจะสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ภายใต้แผนการขับเคลื่อนที่สร้างรายได้ให้กับจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่น้อยกว่า 4.5
พันล้านบาทต่อปี” นายศุภณัฐ เลขาธิการ ศอ.บต.
กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว นายศุภณัฐ กล่าวว่า ภายใต้โครงการดังกล่าว
สมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย-จีน
จะเป็นกำลังสำคัญในการรุกตลาดการค้าไปในประเทศจีนที่มีกำลังการบริโภคสูงมาก
โดยมีโครงการสำคัญที่จะเร่งรัดผลักดันให้เกิดขึ้นพร้อมกัน คือ งานวิจัยเรื่อง “รสชาติอาหารใต้ที่ถูกลิ้นคนจีน” ที่ผลการศึกษาวิจัย
จะเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับผู้ผลิตอาหาร
นอกจากนั้น
ยังมีงานวิจัย เรื่อง “เส้นทางอาหารไทยจังหวัดชายแดนภาคใต้ในเมืองหลักของประเทศจีน” ได้แก่ เมืองปักกิ่ง เมืองเซี่ยงไฮ้ เมืองเฉิงตู เมืองคุณหมิง เมืองซีอาน
และเมืองหนิงเซี๋ย ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 1,000 ล้านคน
และจะมีการทำพันธมิตรเมืองพี่เมืองน้อง (Brotherhood Cities) ทั้ง 6 เมือง กับจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมด
เพื่อเป็นการเชื่อมโยงท้องถิ่นกับตลาดส่งออก
และให้กลุ่มนักธุรกิจชาวจีนมีความเข้าใจสินค้าจากจังหวัดชายแดนภาคใต้และเกิดการนำเข้าสินค้าเพื่อสร้าง
Supply Chain อย่างต่อเนื่อง
ในพิธีเปิดโครงการฯ
ในวันนี้ มีผู้บริหารจีนที่มาเยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย 4 พ่อครัวชั้นนำของประเทศจีน
ที่คุมกำลังการสั่งซื้อวัตถุดิบประกอบอาหารจากประเทศต่างๆ
และมีความสนใจผลิตผลในพื้นที่หลากหลายรายการ เช่น ไก่เบตง ปลากือเลาะห์ มะพร้าว
กล้วย เป็นต้น
นอกจากนั้น
ทางการไทยยังมีโครงการเปิดร้านอาหารไทยฮาลาลแห่งแรก พร้อมบู๊ธอาหารไทยฮาลาลในทั้ง 6 เมืองในปลายปีนี้ด้วย
ปลากือเลาะห์ราดซอส
หรือปลาพลวงชมพูราดซอส ที่หาชิมได้ในจังหวัดยะลา และนราธิวาส เท่านั้น ซึ่งทาง
ศอ.บต. นำมาสาธิตในการเปิดตัวโครงการส่งออกอาหารไปยังประเทศจีน เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2560 (เบนาร์นิวส์)
ในปี 2556
ประเทศจีนได้กลายมาเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของประเทศไทย
แซงหน้าประเทศญี่ปุ่นที่ครองอันดับหนึ่งมานาน 22 ปี
ด้วยมูลค่า 1.98 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ ในปี 2559
ไทยส่งออกสินค้าชนิดต่างๆ ไปจีน คิดเป็นมูลค่าแปดแสนล้านบาท
ในจำนวนนี้เป็นสินค้าอาหารและไม้ 18.1 หมื่นล้านบาท ทางรัฐบาลพลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ขับเคลื่อนโครงการ “สามเหลี่ยมมั่นคง
มั่งคั่ง ยั่งยืน” ที่ประกอบด้วยพื้นที่ในการเชื่อมโยงของสามหัวเมืองได้แก่
อำเภอเบตง-จังหวัดยะลา อำเภอสุไหงโกลก-จังหวัดนราธิวาส
และอำเภอหนองจิก-จังหวัดปัตตานี เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจให้ประชาชนมีความกินดีอยู่ดี
อันเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาการก่อเหตุรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ที่มีมานานกว่า
13 ปี
นายศุภณัฐ
ได้กล่าวอีกว่า โครงการส่งออกอาหารไปประเทศจีน จะช่วยพัฒนาการปศุสัตว์
การเกษตรอื่นไปด้วย โดยได้รับความร่วมมือจากปศุสัตว์เขต 9 ปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอ และหน่วยงานในสังกัดทุกหน่วยงาน รวมทั้ง
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเกษตร และอื่นๆ
ที่เข้ามาร่วมสนับสนุนการพัฒนาองค์ความรู้ การศึกษาวิจัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น